นายเตชิต หร่มระฤก กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิยาบิ กริลล์ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจอาหารปิ้งย่าง ว่า ปัจจุบันธุรกิจอาหารปิ้งย่างมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หรือมีอัตราการเติบโตประมาณ 15% จากปี 2555 ที่ผ่านมา

ซึ่งปัจจุบันตลาดดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท อีกทั้งมีการแข่งขันทางธุรกิจที่ค่อนข้างสูง จะเห็นได้จากความเคลื่อนไหวทางการตลาดอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ ที่ต่างมุ่งเน้นการใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ไปพร้อมๆกับการพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการ มีการจัดกิจกรรมทางการตลาดและรายการส่งเสริมการขายที่น่าสนใจแก่ผู้บริโภค รวมทั้งมุ่งเน้นกลยุทธ์การขยายสาขาตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และศูนย์การค้าชุมชน (คอมมูนิตี้มอลล์) ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค ส่งผลให้ตลาดมีสีสัน เป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก

 

สำหรับผลประกอบการของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกปี 2556 นั้น มีอัตราการเติบโตถึง 250% คิดเป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ถือว่าน่าพอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากร้านอาหารในเครือบริษัททั้ง 3 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น “โจเซน”, “มิยาบิ” และ “มิยาบิ ไคเต็น” ต่างได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างมาก
 

 

 

โดยหลังจากนี้บริษัทได้วางแผนทำการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งในปี 2557 เตรียมเพิ่มแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นลงแข่งขันในตลาดเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ได้นำร่องเปิดตัวในช่วงปลายปี 2556 นี้ 2 แบรนด์ คือ แบรนด์ “โจเซน ยากินิคุ แอนด์ บาร์” เจาะตลาดระดับบน (พรีเมียม) เมนูอาหารมีราคาตั้งแต่ 50 บาท ไปจนถึง 1,300 บาท และบุฟเฟ่ต์เริ่มต้นที่ราคา 489 บาท
 

 

ล่าสุดได้เปิดตัวไปแล้ว 2 สาขา คือ The Walk สาขาเกษตร-นวมินทร์ และอาคาร Mercury Ville ชิดลม และแบรนด์ “วาบิซาบิ” ร้านยากินิคุในรูปแบบอิซากายะ ที่มีจุดเด่นที่อยู่ที่วัตถุดิบ ที่ได้คัดสรรของขึ้นชื่อของแต่ละภาคและในแต่ละฤดูกาลของญี่ปุ่นในมาปรุงเป็นเมนูอาหาร บางเมนูแม้แต่ชาวญี่ปุ่นยังหาทานได้ยาก จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการกลางเดือนธันวาคม 2556 นี้ ที่ The Groove เซ็นทรัลเวิลด์
 

 

“การเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ดังกล่าว จะใช้งบการตลาดประมาณ 50 ล้านบาท ทั้งนี้จากแผนการดำเนินงานดังกล่าว ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 บริษัทคาดว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จ โดยจะสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจปิ้งย่างที่ประมาณ 15% หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 450 ล้านบาท” นายเตชิต กล่าว
 

 
 

ทั้งนี้ในปี 2557 บริษัทได้วางแผนที่จะมุ่งเน้นการทำตลาดเชิงรุกแบบ 360 องศา ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและหลากหลาย รวมทั้งเดินหน้าพัฒนาแบรนด์ให้มีความเข้มแข็ง โดยมีแผนที่จะขยายสาขาอีกกว่า 40 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด แบ่งเป็น โจเซน ยากินิคุ แอนด์ บาร์ 7 สาขา, มิยาบิ 13 สาขา และมิยาบิ ไคเต็น 18 สาขา โดยยังคงเน้นทำเลในห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ และมีแผนขยายไปยังอาหารประเภทอื่นๆ

รวมทั้งมีแผนที่จะขายแฟรนไชส์ให้แก่นักลงทุนที่สนใจในปี 2557 ด้วย ซึ่งบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2557 ไว้ที่กว่า 250% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,300 ล้านบาท

อ้างอิงจาก แนวหน้า