เมื่อเทียบกันแล้ว สตาร์วูดเซ็นสัญญาโรงแรมใหม่เพิ่มขึ้นในปี 2556มากกว่าตอนเข้าสู่ช่วงวิกฤติ เศรษฐกิจทั่วโลก
มร. ไซมอน เทอร์เนอร์ ประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจทั่วโลก สตาร์วูด โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท เวิลด์ไวด์ อินคอร์เปอเรชั่น กล่าวว่า “การเติบโตของเครือโรงแรมคุณภาพสูงที่ต่อเนื่อง ยั่งยืนทั้งในที่มีกำลังซื้อสูง และมีศักยภาพในการเติบโต นำไปสู่อีกหนึ่งปี แห่งการเปิดโรงแรมใหม่ สัญญาโรงแรมที่เพิ่มขึ้น และจำนวนการต่อสัญญาสูงสุด ในประวัติศาสตร์ ของบริษัทบรรดาแบรนด์ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดของเราที่ได้รับการสนับสนุนโดยความแข็งแกร่งรวมกันของช่องทางทั่วโลก ของเรา รวมทั้งทีมงานที่มากประสบการณ์เป็นข้อดีของเราและทำให้เราโดดเด่นจากคู่แข่ง เราจึงสามารถให้บริการที่มีคุณค่าแบบที่ไม่มีใครเทียบเท่าให้กับเจ้าของโรงแรมของเราได้”
สตาร์วูดมีเครือโรงแรมระดับหรูหราขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาคู่แข่งนอกประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีห้องพักเกือบ สองเท่าของเครือแมริออทหรือฮิลตัน และมีห้องพักเกือบสี่เท่าของเครือไฮแอทในตลาดใหม่ แผนการพัฒนา ของบริษัทเกือบร้อยละ 75และ ร้อยละ 60ของการเซ็นสัญญาในปี 2556อยู่ เป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงบังคลาเทศ มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา และซาอุดีอาระเบีย สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐศาสตร์มหภาค
มร. แวน พาชเชิน กล่าวเสริมว่า: “กระแสโลกาภิวัตน์ยังคงกระจายการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐาน และการขยายกิจการสำหรับเรา ปี 2557มีแนวโน้มว่าจะเป็นเหมือนปี 2556แต่ดีกว่าโดยมีก้าวย่าง ที่สำคัญรออยู่ ได้แก่ การเปิดโรงแรมเวสทินแห่งที่ 200โรงแรมโฟร์ พอยท์ส บาย เชอราตันแห่งที่ 200และโรงแรมเลอ เมอริเดียนเพิ่มเติมในช่วงหนึ่งปีนับตั้งแต่เราซื้อแบรนด์นี้มาในปี 2548 เราได้แบ่งการพัฒนา อย่างสมดุล โดยมุ่งเน้นที่การเติบโตในเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วทีสุดในโลก และยังคงมองเห็นโอกาสที่สำคัญ ในตลาดเก่าที่มีแนวโน้มการแปรผันต่อเนื่องนอกจากนี้จำนวนอุปทานที่น้อยและอุปสงค์ที่มากยังช่วยขับเคลื่อนการ เติบโตอีกด้วย”
การเซ็นสัญญาในปี 2556ประมาณ 40%ของสตาร์วูดอยู่ในตลาดที่พัฒนาแล้ว โดยมีโรงแรมถึง 13แห่ง ที่พร้อมเซ็นสัญญาและพร้อมเปลี่ยนแปลงเพื่อเปิดภายในปีดังกล่าว ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตในอเมริกาเหนือ พร้อมด้วยแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในเอเซียแปซิฟิก ตะวันออกกลางและยุโรป
มร. เทอร์เนอร์ กล่าวเสริมว่า “เรายังมองหาคู่ค้าที่เหมาะสมต่อไป เพื่อสร้างโรงแรมที่เหมาะสมในสถานที่ที่ เหมาะสมและวิธีการพัฒนาที่ว่องไวของเราทำให้เราสามารถปรับกลยุทธ์สร้างการเติบโตของเราที่ขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะทางภูมิศาสตร์ และแบรนดนั้นต้องการพัฒนาและเปลี่ยนแปลง อย่างในเมื่อปีที่แล้วเราเซ็นสัญญา เพื่อเปลี่ยนแปลงโรงแรมมากที่สุดในหนึ่งปีนับตั้งแต่ปี 2549แสดงให้เห็นถึงความ ต้องการในแบรนด์และความยืดหยุ่น ของเราที่เพิ่มมากขึ้น คู่ค้าของเราจึงสามารถใช้สินทรัพย์ ของตนได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่าที่สุด”
สตาร์วูดมีความสนใจที่จะนำโครงการต่างๆ กลับมาปรับใช้อีกครั้งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสำหรับแบรนด์อลอฟท์ ปีนี้บริษัทได้เปิดโครงการดังกล่าวสามโครงการ ดังนี้ โรงแรมอลอฟท์ ออร์แลนโด ดาวน์ทาวน์ โรงแรมอลอฟท์ ตุลซา ดาวน์ทาวน์ และโรงแรมอลอฟท์ ไมอามี - บริกเคล นอกเหนือจากการเซ็นสัญญาโรงแรมอลอฟท์ นิวออร์ลีนส์ สตาร์วูดจะเปิดโรงแรมอลอฟท์ที่ปรับใช้ใหม่อีกสามแห่งในปี 2557ได้แก่ โรงแรมอลอฟท์ ลิเวอร์พูล โรงแรมอลอฟท์ ดีทรอยต์ และโรงแรมอลอฟท์ แทมปา ดาวน์ทาวน์ บริษัทยังคงมองหาโอกาสใช้แนวทางนี้ในแบรนด์ในเมืองต่างๆ ทั่วโลกอีกด้วย
สตาร์วูดขยายกิจการโรงแรมหรูเพิ่มขึ้นสองเท่าในหกปี
เมื่อความมั่งคั่งเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกความต้องการโรงแรมที่พักสุดหรูก็เพิ่มขึ้นทั่วโลกเช่นกัน สตาร์วูดได้เพิ่มจำนวน โรงแรมหรูขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงหกปีที่ผ่านมาเพื่อรองรับความต้องการในโรงแรมหรูทั่วโลก ซึ่งเป็นการขยายเวลา ในการเป็นผู้นำด้านโรงแรมหรู วันนี้สตาร์วูดมีโรงแรมหรูมากกว่า 160แห่งที่ดำเนินการภายใต้แบรนด์เซนต์ รีจิส เดอะลักซ์ชัวรี่ คอลเลคชั่น และดับเบิ้ลยู โดยมีร้อยละ 90ของแผนงานโรงแรมหรูอยู่ในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
สตาร์วูดเปิดโรงแรมหรู 6แห่งในปี 2556ซึ่งรวมถึงโรงแรมดับเบิ้ลยู เวอร์บิเอ สกีรีทรีตแบรนด์ดับเบิ้ลยูแห่งแรก และโรงแรมดับเบิ้ลยู กว่างโจว ซึ่งเป็นโรงแรมดับเบิ้ลยูแห่งแรกในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ โรงแรมหรูอื่นๆ ที่มีการเปิดตัว ได้แก่ โรงแรมเซนต์ รีจิส อาบูดาบี โรงแรมแห่งที่สองของแบรนด์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และแห่งที่สามในตะวันออกกลาง รวมถึงโรงแรมอีกสามแห่งภายใต้แบรนด์เดอะลักซ์ชัวรี่ คอลเลคชั่นในเมืองเอเธนส์ กรีซ, เกาะสมุย ประเทศไทย และคุสโก เปรู
ในปี 2557บริษัทจะเปิดโรงแรมหรูใหม่ 10แห่ง และเปิดตัวครั้งแรกใน 4ประเทศ การเปิดตัวครั้งสำคัญ ได้แก่ โรงแรมดับเบิ้ลยู โบโกตา ซึ่งเป็นการเปิดตัวแบรนด์ดับเบิ้ลยูในประเทศโคลอมเบียเป็นครั้งแรก โรงแรมดับเบิ้ลยู ปักกิ่ง ซึ่งเป็นการขยายแบรนด์ดับเบิ้ลยูในจุดหมายปลายทางเชิงกลยุทธ์ของจีน โรงแรมเซนต์ รีจิส อิสตันบูล และเฉิงตู ตลอดจนโรงแรมใหม่หกแห่งภายใต้แบรนด์เดอะลักซ์ชัวรี่ คอลเลคชั่น ในจุดหลายปลายทางต่างๆ เช่น โอเดสซา อาจมัน ต้าเหลียน และหางโจวในจีน ตลอดจนบรูมานาในเลบานอน
แบรนด์ตลาดระดับบนของสตาร์วูดสร้างรายได้อย่างแข็งแกร่ง
สตาร์วูดเปิดโรงแรม 30แห่งและเซ็นสัญญาโรงแรมใหม่ 60แห่งในภาคส่วนตลาดบนในปี 2556ภายใต้แบรนด์ เชอราตัน เลอ เมอริเดียน และเวสทิน แบรนด์ชั้นนำอย่างเชอราตันยังคงเป็นแบรนด์ ที่เติบโตมากที่สุดสำหรับสตาร์วูด โดยปูทางให้การเติบโตของแบรนด์อื่นๆ ของบริษัท ปีนี้เชอราตันจะเปิดตัวครั้งแรกในตลาดหลายๆ แห่ง ได้แก่ ซามัว ทาจิกิสถาน และคาซัคสถาน และยังหวนคืนสู่ประเทศอิรักอีกครั้งกับการเปิดตัวโรงแรมเชอราตัน โดฮุค ในฐานะโรงแรมผู้บุกเบิก แบรนด์เชอราตันกำลังอยู่ระหว่างเส้นทางสู่การเปิดโรงแรมแห่งที่ 500ในปี 2559
เลอ เมอริเดียน เซ็นสัญญาโรงแรมใหม่เพิ่มขึ้น และจะเปิดโรงแรมใหม่ในปี 2557มากกว่าปีใดๆ นับตั้งแต่ที่สตาร์วูดได้แบรนด์เลอ เมอริเดียน ในปี 2548ขณะที่โอกาสในการเปลี่ยนเจ้าของโรงแรมมาเข้าร่วมเครือ สตาร์วูดเป็นส่วนสำคัญของแนวโน้มการเติบโตในตลาดที่พัฒนาแล้ว แต่แบรนด์เลอ เมอริเดียนยังคงขยายธุรกิจ ในภูมิภาคที่ยังไม่เป็นที่รู้จักทั่วโลกในปี 2557โดยมีแผนเปิดโรงแรมในตลาดต่างๆ เช่น อินเดีย บังกลาเทศ และประเทศไทย
จากความสำเร็จทั่วโลกของการสร้างจุดยืนด้านความเป็นอยู่ที่ดี ทำให้เวสทินพร้อมเปิดโรงแรมแห่งที่ 200ของโลกในปีนี้ และแห่งที่ 20ในประเทศจีนด้วย การเปิดตัวที่สำคัญๆ ของแบรนด์เวสทิน ได้แก่ โรงแรมเวสทิน จู่ไจ้เจี๋ยน และโรงแรมเวสทิน ฉิงเต่าในประเทศจีน
แบรนด์ตลาดระดับกลางของสตาร์วูดสร้างแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง
จากแนวโน้มการเซ็นสัญญาที่สำคัญในปี 2556เครือโรงแรมตลาดระดับกลางของสตาร์วูด หรือที่บริษัท เรียกว่าแบรนด์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เฉพาะ ได้แก่ โฟร์ พอยท์ส บาย เชอราตัน อลอฟท์ และอิลีเมนต์ มีการเติบโตขึ้นเกือบ ร้อยละ 80ตั้งแต่ปี 2551แบรนด์เหล่านี้พร้อมเข้าสู่ปีแห่งการเติบโต อย่างแข็งแกร่งอีกหนึ่งปี หลังจากมีการเปิดโรงแรม 37แห่ง และการเซ็นสัญญาโรงแรมใหม่ในปี 2556โรงแรมโฟร์ พอยท์ส บาย เชอราตัน อลอฟท์ และอิลีเมนต์เป็นรับผิดชอบแผนการพัฒนาประมาณร้อยละ 40ของบริษัท และร้อยละ 45ของโรงแรมที่คาดว่าจะเปิดตัวทั่วโลกในปี 2557สะท้อนให้เห็นความต้องการแบรนด์โรงแรมที่คุ้มค่าราคาและน่าเชื่อถือทั่วโลก ทั้งในตลาดใหญ่ รวมถึงตลาดอันดับสองและอันดับสามทั่วโลก
แบรนด์โฟร์ พอยท์ส บาย เชอราตัน จะมีโรงแรมครบ 200แห่งในปี 2557โดยได้รับการกระตุ้นจากความต้องการ ที่เพิ่มขึ้นในตลาดทั่วโลก โดยจะมีการเปิดโรงแรมใหม่มากกว่า 20แห่ง ปีทีผ่านมาเป็นปีที่แบรนด์นี้ มีสถิติการเซ็นสัญญาสูงสุด และมีการเปิดโรงแรมและเซ็นสัญญาโรงแรมใหม่ มากที่สุดในบรรดาแบรนด์ต่างๆ ของสตาร์วูดในปี 2556 อลอฟท์ โฮเต็ล ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เน้นด้านการออกแบบและเทคโนโลยีสำหรับนักเดินทาง ยุคใหม่เซ็นสัญญามากที่สุดในปี 2556นับตั้งแต่ก่อนช่วงวิกฤติ ปีนี้อลอฟท์เปิดโรงแรมแห่งที่ห้าในละตินอเมริกา คือ โรงแรมอลอฟท์ กวาดาลาฮารา และเปิดตัวครั้งแรกในริยาด ซาอุดีอาระเบีย เมืองซูวอน เกาหลีใต้ และลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ อิลีเมนต์ โฮเต็ล ห้องแล็บด้านนวัติกรรมสิ่งแวดล้อมของสตาร์วูด แข็งแกร่งมากที่สุดในปี 2556นับตั้งแต่ก่อนช่วงวิกฤติ และจะเปิดโรงแรม 4แห่งในปี 2557ได้แก่ โรงแรมในแฟรงก์เฟิร์ท ซึ่งเป็นการเปิดตัวแบรนด์ครั้งแรกในยุโรป
โปรแกรมสตาร์วูด พรีเฟอร์ เกสต์ ปรับโฉมความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่บริษัทได้ขยายกิจการไปอย่างมาก แขกผู้มีอุปการคุณของสตาร์วูดก็มีความภักดีต่อโรงแรมของสตาร์วูด ทั่วโลกเพิ่มขึ้นด้วย แม้จะมีวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก การเป็นสมาชิกโปรแกรมสตาร์วูด พรีเฟอร์ เกสต์ (Starwood Preferred Guest หรือ SPG) ยังเติบโตขึ้นร้อยละ 56 ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา แขกของสตาร์วูดมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งเป็น เป็นสมาชิก SPG นอกจากจะมีผู้ลงทะเบียนโปรแกรม SPG เพิ่มขึ้นมากกว่า ที่ผ่านมาแล้ว โปรแกรมยังมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดียิ่งขึ้นด้วย
ในปี 2551 สมาชิก SPG จำนวนสองในสาม อยู่ในสหรัฐอเมริกา แต่ปัจจุบันมีสมาชิกจากประเทศอื่นมากขึ้นทำให้มีจำนวนสมาชิกในสหรัฐฯ คิดเป็นเพียงร้อยละ 47เท่านั้น สมาชิกในตลาดใหม่เพิ่มขึ้นห้าเท่าในครั้งนั้น ประเทศจีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นตลาด SPG ที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองและเติบโตเร็วที่สุดของสตาร์วูด รองจากอินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบราซิล
อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ