นาย พงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างเจรจากับผู้ประกอบด้านธุรกิจอาหารทั้งขนาดเล็กและ ขนาดใหญ่หลายราย เพื่อหาพันธมิตรร่วมทุนทำแบรนด์อาหารของบางจากเองในสถานีบริการน้ำมัน โดยบางจากต้องการความรู้ (Know-how) จากพันธมิตรมาต่อยอดและสร้างระบบการบริหารจัดการส่วนกลางแทนที่จะปรุงอาหาร ในสถานีบริการน้ำมัน ทั้งนี้จะเจรจาให้ได้ข้อสรุปในปี 2557 นี้ และคาดว่าจะมีพันธมิตรมากกว่า 1 ราย เพราะต้องการให้ประเภทอาหารมีความหลากหลายมากขึ้น 

 

ต่อจากนั้นในปี 2558 บางจากจึงจะเริ่มลงทุนตั้งร้านอาหารแบรนด์ตัวเองในสถานีบริการน้ำมัน 10 แห่ง ด้วยเงินลงทุนรวม 100 ล้านบาท ในเบื้องต้นคาดว่าจะมีร้านอาหาร 2-3 แห่งที่จะเปิดเป็นร้านขนาดใหญ่

นอกจากนี้บางจากจะศึกษาถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจค้าปลีกน้ำมันให้เสร็จภายใน ปีนี้ด้วย รวมถึงการหาทำเลการตั้งร้านที่เหมาะสมทั้งในสถานีบริการน้ำมันทั้งในพื้นที่ เขตเมืองและนอกเมือง รวมถึงประเภทของอาหารที่ต้องสอดคล้องกับทำเล และมีความหลากหลายสามารถบริโภคได้ทุกมื้อ โดยเบื้องต้นร้านที่ตั้งในทำเลนอกเมืองจะเป็นร้านอาหารไทยจานด่วน ส่วนในเมืองจะต้องศึกษาอีกครั้งว่าควรเป็นประเภทใด นอกจากนี้ยังมองถึงการศึกษาเพื่อขยายร้านในรูปแบบแฟรนไชส์ด้วย 
 

 
 

"สาเหตุ ที่บางจากจะเริ่มสร้างธุรกิจอาหารในแบรนด์ของตนเอง เพราะมองว่าธุรกิจอาหารถือเป็นธุรกิจที่ยุ่งยากที่สุด เมื่อเทียบกับธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ หรือศูนย์บำรุงรักษารถยนต์ (Car Care) หากบางจากสามารถพัฒนาร้านอาหารของตนเองก็จะกลายเป็นจุดสนใจ เช่นเดียวกับที่สถานีบริการน้ำมันของ ปตท. ที่มีร้านสะดวกซื้อ 7-11 เป็นจุดเด่นและดึงดูดความสนใจผู้บริโภค"

 

นายพงษ์ชัยกล่าวเพิ่มเติม ว่า นอกจากนี้บางจากได้เจรจากับแบรนด์ขนาดใหญ่ (Big Brand) เช่น ร้านแมคโดนัลด์ และร้านเคเอฟซี ซึ่งเป็นร้านอาหารตะวันตกจานด่วน เพื่อมาให้บริการในสถานีบริการน้ำมันของบางจาก ซึ่งจะช่วยเพิ่มจุดเด่นด้านอาหารของบางจากเพิ่มขึ้น

โดยในปี 2557 จะลงทุนตั้ง Big Brand ในสถานีบริการน้ำมัน 4 แห่ง ที่คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท/แห่ง และหลังจากนี้จะเดินหน้าเจรจา Big Brand รายอื่น ๆ ต่อไป ส่วนร้านกาแฟอินทนิลก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2556 โดยมีทั้งหมด 270 สาขาทั้งประเทศ และจะขยายอีก 60-70 สาขาในปีนี้ นอกจากนี้บางจากยังจะพัฒนาธุรกิจบำรุงรักษารถยนต์ในพื้นที่กรุงเทพฯเพิ่ม เติมด้วย
 

 
 

สำหรับบริษัทบางจากฯ ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจน้ำมัน (Oil) ที่ร้อยละ 90 และธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Nonoil) ร้อยละ 10 แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันให้เป็นร้อยละ 30 เพราะกำไรเบื้องต้น (Margin) ของธุรกิจน้ำมันค่อนข้างต่ำ จึงต้องหารายได้เสริมจากธุรกิจอื่นมาทดแทน