นายอภิสิทธิ์ ธนาดำรงศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี ออโต้แก๊ส จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายชุดอุปกรณ์ติดตั้งก๊าซรถยนต์ภายใต้แบรนด์ลีฟ (Leaf) และผู้ให้บริการติดตั้งก๊าซรถยนต์ SCG เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงภาพรวมธุรกิจการติดตั้งก๊าซรถยนต์ว่า ในปี 2556 ที่ผ่านมา ตลาดค่อนข้างซบเซา 

 

เห็นได้จากยอดการติดตั้งชุดอุปกรณ์ทั้งประเภทแอลพีจีและเอ็นจีวี เฉลี่ยแค่เดือนละ 10,000 คัน หรือในบางเดือนมียอดติดตั้งต่ำสุดเพียง 7,000 คันเท่านั้น จากปีก่อนหน้า ยอดการติดตั้งเฉลี่ยเดือนละ 15,000-16,000 คัน เนื่องจากภาครัฐไม่ได้ให้การสนับสนุนการขยายสถานีบริการอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีโครงการรถคันแรก ทำให้ผู้บริโภคหันไปซื้ออีโคคาร์แทนการเลือกใช้รถยนต์ติดตั้งก๊าซ 

 

ขณะที่ในปีนี้นั้น ก็คาดว่าตลาดติดตั้งก๊าซน่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้าง คาดว่ายอด ติดตั้งน่าจะราว 10,000 คันต่อเดือน เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันกับก๊าซห่างกันหลายเท่าตัว ซึ่งทิศทางการเลือกติดตั้งก๊าซนั้น ส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะเลือกติดตั้งเองตามอู่ติดตั้งต่าง ๆ ส่วนรถยนต์ที่ติดตั้งก๊าซมาจากโรงงานผู้ผลิตนั้นจะมียอดขายลดลง เนื่องจากค่ายรถยนต์เล็งเห็นว่า การขยายศูนย์บริการยังไม่ครอบคลุมพอ จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับตลาดนี้มากนัก

 

สำหรับบริษัทเองนั้น ในปีที่ผ่านมา มียอดขายรวม 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ เนื่องจากปัจจัยลบทั้งเศรษฐกิจซบเซาและความขัดแย้งทางการเมือง และคาดว่าในปีนี้ยอดขายก็น่าจะยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เนื่องจากการรับติดตั้งชุดอุปกรณ์ก๊าซให้กับค่ายรถ (โออีเอ็ม) ที่เป็นรายได้หลักของบริษัทนั้นลดลง จึงมีรายได้หลักมาจากตลาดอาฟเตอร์มาร์เก็ต 

 

 
 

และเพื่อเป็นการรุกตลาดอาฟเตอร์มาร์เก็ต บริษัทจึงได้มุ่งเน้นขยายตลาดจากเดิมที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยมที่มีราคาติดตั้ง 35,000-40,000 บาท ก็จะขยายมาสู่ลูกค้าระดับกลางในราคา 26,000-27,000 บาท และมุ่งเน้นทำตลาดในกลุ่มอีโคคาร์ เนื่องจากเป็นรถที่มียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ใช้รถประเภทดังกล่าวไม่นิยมติดตั้งก๊าซ เนื่องจากเป็นรถขนาดเล็ก และค่อนข้างประหยัดอยู่แล้ว แต่บริษัทพยายามเจาะตลาดกลุ่มนี้

 

ด้วยสินค้าคือ "ลีฟ อีโค" ที่เป็นถังโดนัทขนาดไม่เกิน 40 ลิตร ซึ่งนำไปติดตั้งแทนยางอะไหล่ ในราคาราว 25,000 บาท พร้อมทั้งจำหน่ายอุปกรณ์เสริมคือชุดเติมลม เพื่อทดแทนยางอะไหล่ที่ถูกถอดออกด้วย 

 

รวมถึงให้ความสำคัญกับตลาดรถปิกอัพดีเซล ด้วยการแนะนำชุดอุปกรณ์เชื้อเพลิงร่วมดีเซล-เอ็นจีวี "Disel Dual Fual" เจาะกลุ่มรถเพื่อการพาณิชย์ และรถที่ต้องมีการใช้งานหนัก พร้อมทั้งการจัดบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ติดตั้งอุปกรณ์กับบริษัท

 

"เราพยายามชวนคนใช้อีโคคาร์ให้ติดตั้งก๊าซ ซึ่งปีนี้จะเห็นการทำตลาดกลุ่มนี้ชัดเจนขึ้น ด้วยสินค้าที่ตอบโจทย์ในราคาที่เหมาะสม เชื่อว่าภายในระยะเวลา 1 ปี ลูกค้าก็จะคืนทุนการติดตั้ง 25,000 บาท ส่วนดีเซล ก็เป็นกลุ่มที่มีฐานตลาดเยอะ ถ้าลูกค้าติดตั้ง ก็คืนทุนภายใน 1 ปีครึ่ง" นายอภิสิทธิ์กล่าว

 

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเพิ่มจำนวนศูนย์บริการ "เอสซีจี ออโต้ เซอร์วิส" เพื่อให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้าที่ติดตั้งอุปกรณ์จากเอสซีจี ซึ่งมีฐานลูกค้าแล้วกว่า 100,000 ราย จากปัจจุบันที่มี 5 แห่ง เพิ่มเป็น 7 แห่ง โดยใช้เงินลงทุนแห่งละราว 10 ล้านบาท และจะเพิ่มให้ครบ 20 แห่ง ภายใน 5 ปี หากทิศทางตลาดติดตั้งก๊าซมีการเติบโต ในอนาคตอาจจะเปิดรับบริการลูกค้าที่ติดตั้งชุดอุปกรณ์จากอู่ หรือแบรนด์อื่น ๆ และจะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายชุดอุปกรณ์ติดตั้งก๊าซ "ลีฟ" จากปัจจุบันที่มีอยู่ 20 ราย ให้ครบ 100 ราย ภายในปีนี้ด้วย

 

 
 

ด้านนายสุรศักดิ์ นิตติวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจก๊าซรถยนต์ไทย และในฐานะประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2556 ที่ผ่านมา ยอดติดตั้งก๊าซรถยนต์อยู่ที่เฉลี่ย 8,000 คันต่อเดือน แบ่งเป็นแอลพีจี 70% และเอ็นจีวี 30% จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 18,000 คันต่อเดือน เนื่องมาจากข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุก๊าซในรถยนต์ระเบิด ทำให้ประชาชนขาดความมั่นใจไประยะหนึ่ง จนภาครัฐได้มีมาตรการในการเพิ่มความเข้มงวดแก่อู่ติดตั้งต้องมีมาตรฐานด้านความปลอดภัย

 

ส่วนในปีนี้นั้น จากภาวะราคาน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คาดว่ายอดติดตั้งก๊าซรถยนต์ต่อเดือนน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 12,000 คันต่อเดือน แต่ก็มีปัจจัยที่ต้องจับตามอง คือความเคลื่อนไหวด้านการเมือง ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคด้วย

 

ในส่วนของเอนเนอร์จี รีฟอร์มนั้น ปีนี้ได้เตรียมบุกตลาดเชื้อเพลิงพลังงานร่วมดีเซล-เอ็นจีวี เจาะกลุ่มลูกค้ารถปิกอัพที่ต้องใช้งานหนักและต้องการความประหยัด ซึ่งมีราคาติดตั้ง 45,000 บาท สามารถประหยัดน้ำมันได้ 40% และจะมีการพัฒนาและปรับภาพลักษณ์ของตัวแทนจำหน่ายจากอู่ติดตั้งทั่วไปให้กลายเป็นศูนย์บริการเอนเนอร์จี รีฟอร์ม ที่จำหน่ายเฉพาะชุดอุปกรณ์ของบริษัทเท่านั้น ซึ่งคาดว่าปีนี้จะสามารถติดตั้งได้ 100 ราย จากตัวแทนจำหน่าย และติดตั้งทั้งหมด 150 รายทั่วประเทศ

 

ขณะที่นายแม่สาย ประภาสะวัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม เอส แฟคทอรี่ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์ก๊าซรถยนต์ "เวอร์ซุส ไทยแลนด์" กล่าวถึงภาพรวมของตลาดติดตั้งก๊าซรถยนต์ในปัจจุบันว่า มีปัจจัยลบที่ต้องติดตาม คือรุ่นใหม่ ๆ อาทิ อีโคคาร์ รถยนต์ไฮบริด ที่มีการเปิดตัวเพิ่มขึ้นหลายรุ่น ซึ่งรถประเภทนี้ค่อนข้างประหยัดน้ำมันอยู่แล้ว ผู้บริโภคไม่นิยมนำมาติดตั้งก๊าซ 
 

 
 

ซึ่งในปีที่ผ่านมา บริษัทแนะนำชุดอุปกรณ์ติดตั้งก๊าซรถยนต์ภายใต้ชื่อ "อีโค เวอร์ชั่น" ซึ่งจะมีราคาต่ำลง 10% เมื่อเทียบกับสินค้าที่จำหน่ายปัจจุบัน เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ รวมถึงอู่แท็กซี่ ซึ่งจะรับติดตั้งครั้งละหลายคัน โดยจะส่งมอบงานติดตั้งให้กับอู่ติดตั้งของบริษัท นอกจากนี้ ยังได้เตรียมขยายอู่ติดตั้งก๊าซที่บริษัทลงทุนเอง รวมถึงเพิ่มจำนวนแฟรนไชส์ให้เป็น 20 แห่งภายในปีนี้ ทั้งในกรุงเทพฯและตามหัวเมืองใหญ่ โดยแต่ละอู่จะใช้งบฯลงทุนราว 7-10 ล้านบาท

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ