3.6K
20 มกราคม 2557
กรมส่งเสริมการค้าฯลุยขยายตลาดผ่านออนไลน์



 
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโซล เกาหลีใต้ว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้ขยายตัว 10 เท่าในระยะเวลา 35 ปี แต่กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตรไม่ได้ขยายตัวตาม
 
เพราะฉะนั้นจึงยังมีช่องว่างทางการตลาด เนื่องจากอัตราความต้องการในการบริโภคยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นตลาดใหญ่ที่น่าสนใจในการส่งออกสินค้าไทย โดยสัดส่วนการบริโภคอาหารของชาวเกาหลีประมาณ 50% รับประทานอาหารที่บ้าน และอีก 50% รับประทานอาหารนอกบ้าน
 
“พฤติกรรมผู้บริโภคเกาหลี มีลักษณะชาตินิยม รักสุขภาพ ชอบสินค้าพรีเมี่ยม เน้นความสะดวก การบริโภคแบบคนเดียว อาหารสดใหม่ รักเทคโนโลยี และรสนิยมบันเทิงชื่นชอบการกลับสู่อดีต (อาทิ ละคร ภาพยนตร์)”นางนันทวัลย์ กล่าว
 
ทั้งนี้มูลค่าการค้าปลีกในปี 2556 อันดับ 1 แคตตาล็อค ทีวีช้อปปิ้ง และออน์ไลน์ มูลค่าสูงที่สุด สูงถึง 39.7 ล้านล้านวอน เช่น G-Market, Auction, CJ Home Shopping, GS Home Shopping, Hyundai
 
Home Shopping อันดับ 2 ไฮเปอร์มาร์เก็ต มีมูลค่า 38.3 ล้านล้านวอน ซึ่งตลาดค่อนข้างจะอิ่มตัว มีการแข่งขันสูง ขยายตัวได้ยาก เนื่องจากที่ดินมีจำกัดและราคาสูง ไฮเปอร์มาร์เก็ตที่ได้รับความนิยม ได้แก่ E-mart, Home Plus, Lotte Mart
 
อันดับ 3 ห้างสรรพสินค้า มีมูลค่า 29.8 ล้านล้านวอน เช่น Shinsegae, Lotte, Hyundai เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ การขยายตัวของห้างสรรพสินค้า จึงไม่ดีนัก ปัจจุบันห้างสรรพสินค้าเกาหลีอาศัยรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีนช่วยเสริมกิจการ อันดับ 4 ซุปเปอร์มาร์เก็ต มีมูลค่า 27.2 ล้านล้านวอน เช่น E-mart, Home Plus, Lotte Mart, GS มีแนวโน้มที่จะเกิดรูปแบบใหม่ คือ Super Supermarket(SSM) คือซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ขนาดใหญ่มากกว่าเดิม แต่มีขนาดเล็กกว่าไฮเปอร์มาร์เก็ต อันดับ 5 ร้านสะดวกซื้อมีมูลค่า 11.6 ล้านล้านวอน อัตราการเติบโตสูงที่สุด 11.6% เช่น CU, GS25, Seven Eleven,Ministop มีการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง เหมาะสมกับครอบครัวขนาดเล็กในยุคปัจจุบัน
 
 
 
จากผลสำรวจตลาดพบว่า เกาหลีใต้นิยมใช้เทคโนโลยี ทีวีช้อปปิ้ง ออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าและบริการในสัดส่วนที่สูง ซึ่งกรมฯมียุทธศาสตร์พัฒนาดิจิตอล คอมเมิร์ซ(Digital Commerce)โดยจะส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากระบบการค้าสมัยใหม่ และสื่อดิจิตอล เพื่อขยายช่องทางการตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (On-line Trading)ให้มากขึ้น โดยเฉพาะผ่านเว็บไซต์ Thaitrade.com และล่าสุดราวก.พ.-มี.ค.นี้ จะเปิดตัวบริการใหม่ “DITP Connect ” เพียงแค่ดาวน์โหลด DITP แอพพลิเคชั่น ในแอพ สโตร์(ระบบไอโอเอส) หรือ ในเพล สโตร์ (ระบบแอนดรอย) ที่สามารถใช้ได้กับทั้งสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต รวมถึง ไอแพด เพื่ออำนวยความสะดวก ในการให้บริการข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ด้านการค้าระหว่างประเทศพร้อมติดตามความเคลื่อนไหวด้านการค้าการลงทุนในประเทศต่างๆ ด้วยข้อมูลที่มีความทันสมัยจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการให้บริการด้านการค้าระหว่างประเทศอย่างสมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทย
 
ที่นำเสนอประสบการณ์การ การเข้าถึงข้อมูล ข่าวสารและกิจกรรมด้านการค้าระหว่างประเทศในรูปแบบเฉพาะบุคคลที่สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ประกอบการ ผู้ส่งออกในยุคใหม่ ซึ่งสามารถรับข้อมูลข่าวสารได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็วฉับไว ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งที่ทำงานและที่บ้านตลอด 24 ชม. โดยมีความพิเศษด้วยความสามารถในการใช้งานกับระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย จึงทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกการใช้ได้ตรงกับความต้องการของตนอย่างมั่นใจได้โดยง่าย
 
นอกจากนี้การค้าออนไลน์ยังเป็นที่นิยมในยุโรป โดยสานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโคเปนเฮเกน รายงานว่า ในช่วงปี 56 การค้าปลีกในเดนมาร์กมีมูลค่า 3.32 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 12% โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือ เริ่มเข้ามามีบทบาทในปี 56 นี้
 
สินค้าสำคัญในอุตสาหกรรมค้าปลีกออนไลน์ ได้แก่ กลุ่มสินค้าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์สื่อต่างๆ (Media products) มีส่วนแบ่งตลาดอย่างละ 17% ของสินค้าทั้งหมด
 
การค้าออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภครุ่นเยาว์(Younger consumers) ที่มีโทรศัพท์สมาร์โฟน และผู้บริโภคชาวเดนมาร์กเชื่อถือระบบการค้าออนไลน์ รวมทั้งความสะดวกสบายเป็นปัจจัยสาคัญในการจับจ่ายใช้สอยนี้ การค้าขายผ่านแท็บเล็ตยังคงเติบโตเช่นเดียวกัน ในปัจจุบันกว่า 20% ของประชากรเดนมาร์กมีแท็บเล็ตในครอบครอง และมีแนวโน้มการซื้อขายจากอุปกรณ์แท็บเล็ตนี้เพิ่มมากขึ้นด้วย
 
ประเทศเดนมาร์กถึงแม้จะะเป็นประเทศขนาดเล็ก มีประชากรอยู่ประมาณ 5.5 ล้านคน แต่เป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าหลายอย่าง เหมาะกับผู้ส่งออกไทยโดยเฉพาะขนาดกลางและขนาดเล็ก(SME)ที่สนใจจะขยายตลาดสินค้าในแถบนี้ ซึ่งสามารถใช้ช่องทางพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ หรือธุรกิจการค้าปลีกออนไลน์นี้ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขยายตลาดสินค้า
 
 
 
ทางด้านนายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)กล่าวว่า สรท.ได้เตรียมแผนกรณีที่เกิดสถานการณ์รุนแรงจากการชุมนุมปิดกรุงเทพฯ (ชัตดาวน์) จนไม่สามารถขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ หรือปิดทางด่วนที่จะเดินทางเข้าไปใช้บริการท่าเรือกรุงเทพ(คลองเตย) โดยได้แจ้งไปยังสมาชิกให้เตรียมพร้อมด้วยการประสานงานไปยังสายการเดินเรือ เพื่อเปลี่ยนไปใช้ท่าเรือแหลมฉบังแทน และหารือกับลูกค้าในต่างประเทศชะลอการส่งมอบสินค้า
 
“ความมั่นใจของลูกค้าต่างชาตินั้น หากปิดกรุงเทพฯ เป็นช่วงสั้นๆ และไม่ปิดท่าเรือกับสนามบิน ก็จะไม่กระทบการส่งออก แต่ถ้ายืดเยื้อเกิน 1 สัปดาห์ หรือปิดท่าเรือ ก็จะกระทบต่อการส่งออกในปี 2557 และศักยภาพการแข่งขันของประเทศจะถดถอยในระยะยาว”นายนพพร กล่าวและว่า หากสถานการณ์รุนแรงถึงขั้นปิดทางด่วนและท่าเรือ จะกระทบทำให้สินค้าที่มีการขนส่งผ่านท่าเรือกรุงเทพอยู่ประมาณ 15-20% ของการขนส่งทางเรือทั้งหมด และทำให้ต้นทุนขนส่งเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30%"
 
การเตรียมแผนรับมือ เป็นการเตรียมความพร้อมไว้ก่อน แม้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบัน จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้า เนื่องจากท่าเรือกรุงเทพยังสามารถใช้งานได้ปกติ เพราะแม้จะปิดถนนหลายสายแต่ทางเข้าออกท่าเรือก็สามารถใช้ทางด่วนได้
 
สำหรับการปิดหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและนำเข้าสินค้านั้น ขณะนี้หน่วยงานแต่ละแห่งได้เตรียมแผนรับมือไว้แล้ว โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ย้ายไปทำงานที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนหน่วยงานอื่นๆย้ายไปอยู่รอบนอกของกรุงเทพฯ ซึ่งแม้การเดินทางไปติดต่อราชการในเรื่องส่งออกนำเข้าจะลำบาก แต่ก็กระทบต่อการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่มาก เพราะเอกสารการขออนุญาตส่วนใหญ่จะดำเนินงานผ่านระบบออนไลน์
 
"หากระบบออนไลน์ไม่ล่ม ก็ส่งผลกระทบไม่มาก ดังนั้น รัฐบาลจะต้องดูแลรักษาระบบอินเทอร์เน็ตและการสื่อสารต่างๆ ให้ดี" นายนพพร กล่าว

อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,027
PLAY Q by CST bright u..
1,290
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
945
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
941
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
790
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
768
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด