3.1K
17 กุมภาพันธ์ 2557
เซ็นจูรี่ 21 หวั่นการเมืองส่อแววยืดเยื้อส่งผลฉุดธุรกิจอสังหาฯ ต่ำสุดในรอบ 2 ปี


 
เซ็นจูรี่ 21 แจง ปัญหาการเมืองส่งผลกระทบธุรกิจอสังหาฯ คาดไตรมาสที่ 1 โครงการบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม เปิดตัวลดลง ขณะที่ราคาที่ดินมีโอกาสปรับตัวลดลงหลังจากช่วงหลายปีมีการปรับขึ้นมาโดยตลอด

เผยนักลงทุน หรือผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ เบนเข็มปรับกลยุทธ์หันสู่โครงการแนวราบเพิ่มขึ้นรองรับผลกระทบการเมือง เผยเร่งปรับกลยุทธ์ภายในมุ่งเป้าพัฒนาองค์กรสู่ AEC เล็งเป้าหมายที่ ลาว พม่า กัมพูชา สิงคโปร์ และมาเลเซีย 
         
นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่า ปัญหาการเมืองที่ร้อนแรงในขณะนี้ อาจส่งผลต่อนักลงทุน หรือผู้พัฒนาโครงการบ้างเล็กน้อย

ดังจะเห็นได้ว่า การเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม หรือบ้านเดี่ยวลดลง ในช่วงไตรมาสที่ 1 ซึ่งน้อยกว่า 10 โครงการ และโครงการที่ เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) บริหาร คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนมีนาคม ก็ชะลอการเปิดโครงการ เปลี่ยนเป็นในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 แทน ซึ่งต้องรอให้ปัญหาทางการเมืองมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการซื้อขายคอนโดมิเนียมที่เพิ่มขึ้น แต่ผลประกอบการของการซื้อขายคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาสที่ 1 ในปีนี้ มีทิศทางไม่เป็นอย่าง 2 ปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน
 
 
 
 
****เปรียบเทียบจากยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมของ บริษัท เซ็นจูรี่21 (ประเทศไทย) จำกัดในขณะเดียวกันด้านการตัดสินใจซื้อที่ดิน เมื่อเกิดปัญหาการเมืองร้อนแรงเช่นนี้ส่งผลให้ Demand หรือความต้องการซื้อที่ดินต่ำลง ประกอบกับช่องทางการขายลดลง อันเป็นการทำให้เกิดการชะลอการตัดสินใจซื้อที่ดินของนักลงทุนมากขึ้น โดยในทำเลที่ราคาที่ดินสูงยังคงเป็น ย่านเพลินจิต วิทยุ หลังสวน ซึ่งจากการสำรวจของเซ็นจูรี่ 21 พบว่า มีการปรับขึ้นราคาเพียง 10% เท่านั้น หากเปรียบเทียบกับปีก่อน มีการปรับขึ้นถึง 18-30%

แต่ที่น่าจับตามองคือ ส่วนที่เป็นแนวรถไฟฟ้าชานเมือง และส่วนต่อขยาย เช่น เจริญนคร ตลาดพลู บางหว้า ที่มีการปรับตัวขึ้นของราคามากกว่า 10% เพราะเป็นทำเลใกล้ตัวเมืองสาทร (CBD) แต่อย่างไรก็ไม่ได้เห็นชัดเหมือนปีก่อน ๆ ซึ่งอาจทำให้เห็นได้ว่าผู้ประกอบการเล็งเห็นศักยภาพของทำเลแถบชานเมือง หรือเกาะแนวรถไฟฟ้าชานเมือง และหันไปลงทุนทำคอนโดมิเนียมในทำเลอนาคตเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ราคาที่ดินปรับขึ้น แต่ไม่มาก หรือหนีไปจากปีที่แล้วมากนัก ยกตัวอย่างเช่น เส้นรัตนาธิเบศร์ที่ในอนาคตจะเกิดรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่งผลให้พื้นที่ในแถบนั้น มีราคาที่เพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเพียงแค่ 10% เท่านั้น
 
 
 
ที่น่าสังเกตอีกประการก็คือ ผู้ประกอบการเริ่มปรับทิศทางของการทำโครงการมาเป็นแนบราบเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่คาดการณ์ว่าตลาดกลุ่มคอนโดมิเนียมน่าจะได้รับผลกระทบทางการเมืองที่สูงกว่า โดยปัจจุบันมีการซื้อขายที่ดินแปลงใหญ่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ราคาที่ดินสำหรับทำโครงการแนวราบในปีนี้มีทิศทางการปรับตัวเพิ่มขึ้นที่น้อยมาก เนื่องจากแนวโน้มการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ลดน้อยลง ซึ่งหากสถานการณ์ทางการเมืองยังคงยืดเยื้อออกไปเป็นระยะเวลานานคาดว่าราคาที่ดินบางทำเลอาจต้องปรับลดลงด้วย ขณะที่ก่อนหน้ามีการปรับราคาขึ้นไปสูงมาก

อ้างอิงจาก propertychannelnews
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,732
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,496
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,475
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
1,161
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
904
ธงไชยผัดไทย เปิดโครงกา..
869
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด