ห้างเสริมไทย มหาสารคาม ทุ่ม 10 ล้านรีโนเวตห้าง
ซื้อแฟรนไชส์ แบล็คแคนยอน สานต่อกลยุทธ์ "แบรนด์เสริมห้าง และห้างเสริมแบรนด์" จุดพลุการตลาดฝ่ากระแสเศรษฐกิจ มั่นใจยอดขายปลายปีโต 15%
น.พ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ กรรมการบริหารห้างเสริมไทย พลาซ่า มหาสารคาม เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางห้างทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท ในการรีโนเวตห้างบางส่วนและซื้อ
แฟรนไชส์ร้านอาหารและเครื่องดื่มอย่างแบล็คแคนยอน เข้ามาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับห้างเสริมไทยตั้งเป้า ยอดขายปลายปีเติบโตประมาณ 15%
"หลักการสำคัญในการบริหารเสริมไทยก็คือต้องพยายามเพิ่มมูลค่าของห้างเพื่อ
สร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจ และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในมหาสารคามทุกคน
ซึ่งขณะนี้ทางห้างได้ใช้งบประมาณ 10 ล้านบาทในการรีโนเวตพื้นที่ 3 จุดในห้าง ได้แก่ โซนคาราโอเกะและ เพลย์แลนด์ซึ่งเดิมอยู่ในชั้น 3 B ไป 4A และย้ายโซนร้องเท้าจาก 2 Aมา 3B เพื่อให้นำพื้นที่ในชั้น 2A มาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการเปิดแบล็คแคนยอนซึ่งเบื้องต้น เราลงทุนในการซื้อแฟรนไชส์แบรนด์นี้และตกแต่งไปกว่า 5 ล้านบาท"
สำหรับพื้นที่ในชั้น 2A จะมีทั้งหมด 220 ตร.ม. โดยแบ่งเป็นพื้นที่ของแบล็คแคนยอน
120 ตร.ม. โดยเบื้องต้นได้ออกแบบให้แฟรนไชส์ดังกล่าวให้มี Out Door ที่ตนเลือกแบรนด์นี้เพราะมองเห็นถึงศักยภาพความเป็นมาตรฐานที่สำคัญ ชาวมหาสารคามต้องการร้านอาหารที่ดูหรูหรา มีระดับ รสชาติได้มาตรฐาน แม้ว่าจะต้องจ่ายแพงสักหน่อยแต่ก็ยินดี
ส่วนที่เหลือ 200 ตร.ม. เป็นลานกว้างสำหรับจัดกิจกรรม เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและชุมชน ซึ่งในสองส่วนนี้จะสัมพันธ์กันในเชิงกลยุทธ์การตลาดรวมไปถึงเรื่อง CSR ที่ทางห้างจะคืนให้กับสังคม
"ก่อนหน้าที่เราจะซื้อแฟรนไชส์แบล็คแคนยอน เราได้ซื้อแฟรนไชส์สตาร์บัคส์และสเวนเซ่นส์โดยใช้งบทั้งหมดไปกว่า 18 ล้านบาท เพราะเราได้วางกลยุทธ์ที่ชื่อว่า แบรนด์เสริมห้าง และห้างเสริมแบรนด์ หมายความว่าเราจะซื้อแฟรนไชส์ที่สามารถสร้างมูลค่าให้กับห้างของเรา และสอดคล้องกันกับความต้องการ รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้าชาวมหาสารคาม"
จากนั้นทางห้างก็จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือการตลาดต่างๆ โดยผ่านแบรนด์เหล่านี้ เช่น บัตรเสริมไทยสามารถนำมาเป็นส่วนลดของสามแบรนด์นี้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเพราะผู้ประกอบการห้างภูธร ส่วนใหญ่เลือกที่จะให้แบรนด์เหล่านี้มาเช่าพื้นที่มากกว่า ที่จะมาซื้อแฟรนไชส์ของแบรนด์เหล่านี้เพราะ มีความเสี่ยงและปัญหาความจุกจิกในเรื่องระบบการบริหารจัดการ
"แฟรนไชส์อะไรที่เราวิเคราะห์ว่าได้มาตรฐานและเป็นที่รู้จักในจังหวัด เราก็จะซื้อมาบริหารเอง เพราะผมมองว่าถ้าเราบริหารเอง จะทำให้แบรนด์เหล่านี้เติบโตได้มากขึ้นอย่างพิซซ่า คอมปะนี เราบริหารจนยอดการเติบโตของพิซซ่าแบรนด์นี้สูงถึง 18% ติดอันดับ 1 ใน 5 ของ
แฟรนไชส์ทั่วประเทศ สเวนเซ่นส์ ก็มียอดเติบโตถึง 8% แม้จะไม่สำเร็จสูงสุดแต่ก็ไม่ได้น้อยหน้าใครอย่างแน่นอน" น.พ.กิตติศักดิ์ กล่าวปิดท้าย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ