6.6K
27 เมษายน 2551
บ้านใร่กาแฟ ปั้นร้านใหม่ชิงแชร์แบล็คแคนยอน 

 
จากสถานการณ์ข้าวยากหมากแพง ทำให้ผู้ประกอบการทุกแห่งต่าง ต้องหาหนทางรอดตาย ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจร้านกาแฟพรีเมี่ยมที่แม้จะจับลูกค้ามีเงินอยู่แล้ว แต่เมื่อถึงเวลาที่ค่าครองชีพสูงขึ้น ทุกคนจึงต้องคิด ก่อนใช้กันมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้ใน ช่วงที่ผ่านมาธุรกิจร้านกาแฟพรีเมี่ยม 
 
แม้จะมีการเติบโตแต่ก็เป็นไปแบบเรียบๆ ไม่หวือหวา เหมือนอย่างอดีต ทำให้ผู้ประกอบการแต่ละรายต้อง หาทางรอดกันให้วุ่น ไม่ว่าจะเป็นการงัดทีเด็ดโปรโมชั่น การขยายสาขา หรือการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ต่างก็เป็น แผนที่นำออกมาสู้กันแบบใครถอย ก็ล้ม 
 
คอฟฟี่เอฟ/บ้านใร่ใบกะเพราถล่มศึก นายอัศวิน ไขรัศมี ประธานบริหาร บริษัท ออกแบบไร่นา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2551 นี้บริษัทมีแผนที่จะทำการขยายสาขาร้านกาแฟแบรนด์คอฟฟี่เอฟ และร้านอาหารบ้านใร่ใบกะเพราเป็นหลัก เนื่องจากต้องการ เข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคได้ครอบคลุมมากขึ้น อีกยังเพื่อเป็นการสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่นิยมเข้าไปนั่ง รับประทานอาหารและดื่มกาแฟพร้อมกับทำงานไปด้วยกัน 
 
โดยโพสิชั่นนิ่งของคอฟฟี่เอฟ จะเป็นกลุ่มลูกค้าและตลาดเดียวกับร้านกาแฟแบล็คแคนยอน ทั้งนี้ เพราะเป็นร้านกาแฟสดระดับพรีเมี่ยม เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงเช่นเดียวกัน 
 

 
สำหรับร้านกาแฟคอฟฟี่เอฟ บริษัทวางแผนที่จะทำการเปิดให้บริการ เป็นสาขาแรกในปีนี้ หลังจากที่ได้ทำ การเปิดให้บริการไปบ้างแล้วเพื่อทดลอง ตลาดจำนวน 6 สาขา โดยสาขาที่ เข้าไปทำการเปิดให้บริการนั้นเป็นแบบคอร์เนอร์ภายในเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้า เป็นอย่างดี 
 
ขณะที่ร้านอาหารบ้านใร่ใบ กะเพรา ก็จะทำการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง คือที่พระราม 3, สระบุรี และปทุมธานี โดยในเดือนเมษายนนี้คาด ว่าจะทำการเปิดสาขาที่แรกขึ้นที่ย่านพระราม 3 ก่อนที่จะทำการขยายไปที่จังหวัดสระบุรี โดยจะทำการเปิดที่อำเภอ เฉลิมพระเกียรติ และคลอง 2 อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ตามลำดับ
 
ส่งบ้านใร่บุกห้างภูธร นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขยายสาขาบ้านใร่กาแฟ เข้าไปในห้างสรรพสินค้ามากขึ้นด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางกลุ่มเซ็นทรัลอยู่คาดว่าจะสามารถสรุปได้เร็วๆ นี้ ขณะเดียวกันบริษัทได้ทำการ เปิดสาขา ใหม่เพิ่มขึ้นแล้ว โดยในกรุงเทพฯ บริษัทได้เข้าไปขยายสาขาที่แจ้งวัฒนะ ส่วนในต่างจังหวัดขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการวางแผนและศึกษา พื้นที่อยู่ 
 
นายอัศวิน กล่าวต่อว่า ภาพรวมธุรกิจกาแฟสดยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีแผนที่จะต้องขยายสาขาและแตกไลน์แบรนด์ใหม่ อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทมองว่ายังมีอัตราการเติบโตอยู่ 
 
ร้านใหม่ดันรายได้จากอาหาร โดยในไตรมาสแรกนี้บริษัทสามารถมีอัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2550 ที่ผ่านมา สำหรับในช่วงเดือนเมษายนนี้บริษัท ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายไว้ที่ประมาณ 15-20% หรือคิดเป็นจำนวนแก้วประมาณ 5 หมื่นแก้ว 
 
ปัจจุบันร้านบ้านใร่กาแฟมีสาขา ให้บริการทั้งหมด 74 สาขา จากเดิมที่มีสาขาให้บริการอยู่ 110 สาขา เนื่อง จากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการโละสาขาบ้านใร่กาแฟที่ไม่ทำกำไรออกไปจำนวน 36 สาขา อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในสิ้นปีบริษัท จะมียอดขายเติบโต 10% จากปี 2550 ที่มีรายได้รวม 155 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนรายได้เป็นธุรกิจกาแฟ 80% และร้านอาหาร 20% แต่ในปีนี้บริษัทได้ทำการรุกตลาดร้านอาหารมากขึ้น ทำให้มองว่าปีนี้สัดส่วนร้านอาหารจะมีอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 50% เท่ากับธุรกิจกาแฟ 
 
 
แบล็คแคนยอนมินิรับสภาวะเศรษฐกิจ นางกรรณิการ์ ชินประสิทธิ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2551 นี้ บริษัทยัง คงเน้น แผนการขยายสาขาของแบล็คแคนยอน เป็นหลัก โดยตั้งเป้าขยายสาขาทั้งหมด 15 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งได้ทำการจัดสรรงบลงทุนในส่วนนี้ไว้แล้วประมาณ 60 ล้านบาท 
 
โดยสาขาใหม่ที่จะทำการขยาย นี้ จะมีการลดขนาดของร้านลง ทั้งนี้เพื่อสะดวกต่อการหาสถานที่ตั้งร้าน อีกยังเป็นการใช้งบลงทุนที่น้อยลง ด้วย จากเดิมที่พื้นที่ของร้านจะอยู่ที่ประมาณ 130-150 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนประมาณ 4-5 ล้านบาทต่อสาขา ขณะที่สาขาใหม่จะใช้พื้นที่ประมาณ 50 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนประมาณ 1-52 ล้านบาทต่อสาขาเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบใหม่ที่ต้องการซื้อแฟรนไชส์สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันก็เพื่อเป็นการสอดรับกับสภาพวะเศรษฐกิจที่ปัจจุบัน ราคาสินค้าและบริการมีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ ลูกค้ามีการซื้อสินค้าน้อยลง 
 
โหนกระแสมะม่วงรับหน้าร้อน สำหรับปัญหาในเรื่องของต้นทุน วัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิต อาทิ นม และเมล็ดกาแฟที่ปรับราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 15-20% นั้น ส่งผลให้บริษัทต้องทำการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 5-10% เนื่องจากไม่สามารถแบกรับต้นทุนดังกล่าวไว้ ซึ่งการปรับราคาสินค้านั้นบริษัทได้เริ่มทำการปรับไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 
 
 
ขณะเดียวกัน ในช่วงซัมเมอร์นี้บริษัทได้มีการจัดเทศกาลมะม่วงมาให้บริการกับลูกค้าด้วย ทั้งนี้เพื่อสร้างทาง เลือกในการรับประทานไอศกรีมของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น อีกยังได้มีการจัดกิจกรรมพิเศษให้กับลูกค้าที่ทำบัตรสมาชิก ด้วยการรับส่วนลดในการรับประทานอาหาร 10% ในช่วงหน้าร้อน 
 
ปัจจุบันแบล็คแคนยอนมีลูกค้าสมาชิกที่เข้ามาใช้บริการประมาณ 8 หมื่นราย และมีสาขาในเครือเปิดบริการรวมประมาณ 160 สาขา แบ่งเป็นร้านแบล็คแคนยอนในไทย 60 สาขา และร้านแบล็คแคนยอนในต่างประเทศซึ่งเป็นแฟรนไชส์ทั้งหมด 24 สาขา และร้านคาเฟ่เนโรในไทยทั้งหมด 7 สาขา โดยแบ่งรูปแบบการลงทุนออกเป็นของบริษัทราว 75 สาขา แฟรนไชส์ 92 สาขา และในต่างประเทศ 24 สาขา สำหรับปีนี้บริษัท ตั้งเป้าอัตราการเติบโต ของยอดขายไว้ประมาณ 10-15% 
 
สำหรับมูลค่าตลาดรวมกาแฟในประเทศไทยมีประมาณ 2.56 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 6-7% แบ่งเป็น ตลาดกาแฟผงสำเร็จรูป 1.2 หมื่นล้านบาท, ตลาดร้านกาแฟพรีเมี่ยม มูลค่า 5.1 พันล้านบาท และตลาดกาแฟอาร์ทีดีมูลค่า 8.5 พันล้านบาท 
 
 
 
ที่มา : สยามธุรกิจ
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
อากิโกะที เปิด 2 สาขาใ..
3,613
สเต็กเด็กแนว สร้างรายไ..
1,657
ซอห์น ฟู้ด จัดโปรแรง! ..
887
ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส ..
715
“THE GRAND MALL” ทำเลด..
571
โรบอท สเตชัน คลับ จัดโ..
549
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด