4.1K
22 พฤษภาคม 2557
สามมิตรฯรุกธุรกิจตปท.เต็มสูบ ร่วมทุนอินโดฯขึ้นไลน์รถบรรทุก


"สามมิตรมอเตอร์ส" ขยายแนวรบธุรกิจ เปิด "สามมิตรอินเตอร์" ลุยธุรกิจต่างประเทศ ประเดิมบุกอินโดนีเซีย เล็งร่วมทุนขึ้นไลน์ประกอบรถบรรทุก ชี้ตลาดใหญ่กว่าเมืองไทย 10 เท่า พร้อมแผนผุด "สามมิตรโปร" ศูนย์ติดตั้งอุปกรณ์ประดับยนต์ปิกอัพเจาะลูกค้าตรง

นายยงยุทธ โพธิ์ศิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริง จำกัด (มหาชน) หรือ SMM เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากปัจจัยการเมืองและภาวะเศรษฐกิจทำให้ตลาดรถยนต์ปีนี้ตกลงมาก โดยไตรมาสแรกอุตสาหกรรมรถยนต์หดตัวจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วกว่า 40% ขณะที่ยอดขายสามมิตรฯลดลง 10.8% ถือว่าขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทยังดี และถึงแม้ว่ายอดขาย ของบริษัทลดลง แต่ความสามารถในการทำกำไรยังดีอยู่ เพราะมีการคุมในแง่ต้นทุนและค่าใช้จ่าย รวมทั้งความพยายามในการขยายตลาดไปในกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ หรือที่ยังเจาะไม่ได้เต็มที่

นายยงยุทธกล่าวว่า แม้สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศจะหดตัว แต่บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ตามแผนที่บริษัทวางไว้ ทั้งในส่วนของการลงทุนโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ ฉะเชิงเทรา มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท คาดจะแล้วเสร็จราวปลายปีนี้ เพื่อผลิตชิ้นส่วนป้อนให้กับโรงงานผลิตรถยนต์ชั้นนำ ทั้งโตโยต้า, ฮีโน่, นิสสัน ฯลฯ

นอกจากนี้ยังได้ขยายไลน์ประกอบรถบรรทุกอีกประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังผลิตเป็น 1,200 คันต่อเดือน และลงทุนอีกประมาณ 250 ล้านบาท ในการนำระบบออโตเมชั่นมาใช้ในโรงงานผลิตบอดี้พาร์ท และไฮดรอริก ที่เมืองฉางโจว และฉางชุน ประเทศจีน

"วันนี้ภาพเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ ในภาวะชะลอตัว แต่สำหรับสามมิตรฯเรายืนยันว่าจะไม่หยุด เราต้องเดินต่อไปข้างหน้า เป้าหมายของสามมิตรฯคือทำให้ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อกระจายการเติบโตและกระจายความเสี่ยง" นายยงยุทธกล่าวและว่าขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดตั้ง บริษัทสามมิตรอินเตอร์ฯ เพื่อมาดูแลธุรกิจต่างประเทศ ทั้งเรื่องของการลงทุนและขยายตลาดต่างประเทศ ของกลุ่มธุรกิจรถบรรทุกและกลุ่มหลังคาเหล็กรถปิกอัพ ที่เป็นโปรดักต์และแบรนด์ของสามมิตรฯเอง


นายยงยุทธกล่าวว่า ในส่วนธุรกิจรถบรรทุก รถเทรลเลอร์ บริษัทวางกลยุทธ์มุ่งเน้นการขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน เพราะมองเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับโอกาสจากการที่ประเทศไทยจะมีการเปิดเออีซีรวมทั้งแผนการลง ทุนกลุ่มธุรกิจรถบรรทุกที่ประเทศอินโดนีเซียในปีหน้า หลังจากที่ได้เข้าไปทดลองทำตลาด ก็กำลังพิจารณาการร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น โดยจะเป็นการขยายการลงทุนแบบครบวงจร ตั้งโรงงานประกอบ จัดจำหน่าย และการบริการหลังการขาย ในส่วนของรถบรรทุก เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่มาก โดยมีขนาดใหญ่กว่าตลาดของไทยประมาณ 10 เท่าตัว

ส่วนกลุ่มธุรกิจ แอ็กเซสซอรี่ หลังคาเหล็ก ปีที่ผ่านมาได้มีการจัดตั้งบริษัท สามมิตร ออสเตรเลีย เพื่อเข้าไปทำตลาด และแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายและบริการหลังการขายโดยตรง ทำให้โอกาสในการทำตลาดกว้างขึ้น รวมถึงในการขยายตลาดไปยุโรป อเมริกาใต้ และแอฟริกาใต้ด้วย

นายยงยุทธกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้สามมิตรฯยังมีแผนขยายเข้าสู่ธุรกิจรีเทล เป็นการขยายในส่วนของปลายน้ำ ในการเปิดศูนย์จำหน่าย ตกแต่งและติดตั้ง อุปกรณ์ประดับยนต์สำหรับรถปิกอัพแบบครบวงจร ภายใต้ชื่อ "สามมิตรโปร" ซึ่งภายในศูนย์จะมีทั้งสินค้าแบรนด์สามมิตร และสินค้าจากหลากหลายยี่ห้อที่บริษัทคัดสรรมาให้กับลูกค้า ที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มฟรีด กลุ่มครอบครัว หรือกลุ่มออฟโรด

"สามมิตรโปร ถือเป็นโครงการที่เราต้องการต่อยอดธุรกิจจากผู้ผลิตชิ้นส่วน มาเป็นผู้จัดจำหน่ายและบริการหลังการขาย ซึ่งถือเป็นการช่วยยกระดับอุตสาหกรรมอุปกรณ์ประดับยนต์ เพราะเราจะมีทีมวิศวกรให้คำแนะนำลูกค้าที่ต้องการโมดิฟายรถยนต์ โดยจะเน้นไปที่ความปลอดภัยและความคุ้มค่าของการใช้งานเป็นหลัก"

สำหรับ สาขาต้นแบบสาขาแรกจะอยู่ใกล้ ๆกับสถานีรถไฟฟ้าบางใหญ่ คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนจะขยายเพิ่มอีก 1 แห่งด้านฝั่งตะวันออก บนถนนบางนา-ตราด ตามแผนหลังขยายสาขาเอง 4-5 แห่งแล้ว บริษัทจะเปิดรับสมัครพันธมิตรที่สนใจร่วมธุรกิจ ซึ่งอาจจะเป็นลักษณะของแฟรนไชส์ เพื่อขยายออกไปสู่ตลาดต่างจังหวัด กรรมการผู้จัดการสามมิตรฯกล่าวเพิ่มเติม ถึงแผนนำบริษัท สามมิตรแมนูเฟคเจอริง จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ได้ตัดสินใจเลื่อนแผนเข้าตลาดจากช่วงปลายปีนี้ ออกไปเป็นช่วงไตรมาส 2 ปี 2558 เนื่องจากมองว่าภาวะตลาดไม่เอื้อ และเพื่อให้สอดคล้องกับแผนขยายการลงทุนของบริษัท

"เป้าหมายของสาม มิตรฯจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจต่างประเทศมากขึ้น โดยปีที่ผ่านมาสามมิตรฯมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท เป็นรายได้จากต่างประเทศไม่ถึง 10% ซึ่งตามแผนขยายธุรกิจต่างประเทศก็เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ขึ้นมาที่ระดับ 20% โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมอยู่ระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดหดตัวค่อนข้างมาก หากสามารถรักษาระดับไว้ได้เท่ากับปีที่ผ่านมาก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว" นายยงยุทธกล่าว

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
อากิโกะที เปิด 2 สาขาใ..
3,522
สเต็กเด็กแนว สร้างรายไ..
1,622
ซอห์น ฟู้ด จัดโปรแรง! ..
802
ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส ..
714
“THE GRAND MALL” ทำเลด..
566
โรบอท สเตชัน คลับ จัดโ..
548
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด