4.2K
18 กรกฎาคม 2557
พีดีเฮ้าส์ ยันเป้ายอดขาย 2 พันล้านปี 57 แย้มการเมืองนิ่งลุยเปิด 9 สาขารวดครึ่งปีหลัง


พีดีเฮ้าส์ กวาดยอดขายรวมปี 56 กว่า 1.5 พันล้านบาทจาก 3 ธุรกิจหลัก รับสร้างบ้าน แฟรนไชส์ และขายวัสดุ ชี้ยังต่ำกว่าเป้าร้อยละ 17 เหตุเจอพิษการเมือง เศรษฐกิจ และขยายสาขาไม่ทัน เผยปี 57 ฝันดันยอดขายโตแตะ 2.4 พันล้านบาท แต่ผ่าน 6 เดือนแรกทำได้เพียง 925 ล้านบาท เชื่อการเมืองสงบ กำลังซื้อครึ่งปีหลังฟื้นชัวร์ เตรียมปูพรหม 9 สาขาใหม่ตจว. พร้อมเปิดตัว 8 แบบบ้านอินเทรนด์สไตล์ ทัสคานี-คอทเทจ ระดับราคา 3-7 ล้านบาท จับกลุ่มลูกค้าตจว.กระเป๋าหนัก มั่นใจโกยยอดขายไตรมาส 3 ทะลุ 600 ล้าน

นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์และเอคิวโฮม เปิดเผยว่า ผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจพีดีเฮ้าส์ในปี 2556 ที่ผ่านมา มียอดขายและรายได้รวม 1,508 ล้านบาทจากทั้ง 3 ธุรกิจหลักได้แก่ 1.ยอดขายบ้าน 1,200 ล้านบาท 2.รายได้จากแฟรนไชส์รับสร้างบ้าน 98 ล้านบาท และ 3.จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง 210 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 1,900 ล้านบาทเศษหรือร้อยละ 17

สาเหตุหลักๆ เป็นเพราะปัจจัยลบที่รุมเร้าตลอดทั้งปี ทั้งปัญหาแรงงานขาดแคลน ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง และเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัว กอปรกับปีที่แล้วบริษัทฯ ขยายสาขาใหม่แค่ 3 สาขาเท่านั้น อย่างไรก็ดี ตัวเลขยอดขายรวมดังกล่าวถือว่ายังมีอัตราการเติบโตที่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้านี้


สำหรับปี 2557 นี้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้และยอดขายรวมไว้ 2,450 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.ยอดขายบ้าน 2,000 ล้านบาท 2.รายได้จากแฟรนไชส์รับสร้างบ้าน 180 ล้านบาท และ 3.ยอดขายวัสดุก่อสร้าง 270 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายบ้านได้แล้วจำนวน 700 ล้านบาทเศษ และมีรายได้จากแฟรนไชส์รับสร้างบ้านจำนวน 87 ล้านบาท ในส่วนของยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างทำได้ 138 ล้านบาท คิดเป็นยอดขายรวมทั้งสิ้น 925 ล้านบาท ทั้งนี้หากพิจารณาจากตัวเลขตามเป้าที่ตั้งไว้ตลอดปี กับยอดขายที่ทำได้แล้วในช่วง 6 เดือนแรกถือว่าต่ำกว่าเป้าพอสมควร โดยปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อยอดขาย ยังคงเป็นเรื่องปัญหาขาดแคลนแรงงานและความขัดแย้งทางการเมือง

 
“ตัวเลขยอดขายรวมที่ทำได้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้เลวร้ายแต่อย่างใด เพราะปี 57 นี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้สูงกว่าปีที่แล้วถึงร้อยละ 40 ในขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองก็เกิดความวุ่นวาย และเศรษฐกิจก็อยู่ในภาวะชะลอตัวในช่วงครึ่งปีแรก แต่ทั้งนี้ยอดขายรวมของบริษัทฯ ก็ยังสามารถเติบโตได้ ซึ่งในช่วงผ่าน 4 เดือนแรกปีนี้ บริษัทฯ เองก็เคยพิจารณาว่าจะปรับลดเป้ายอดขายลง

ด้วยเพราะยอดขายบ้านไม่เป็นไปตามแผนการตลาดที่วางไว้ แต่เมื่อความขัดแย้งทางการเมืองสงบลงและเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ภายหลังจากที่มีการรัฐประหารเกิดขึ้น โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งปรากฏว่าความมั่นใจและกำลังซื้อของผู้บริโภค ที่ต้องการสร้างบ้านก็ฟื้นคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว ดังนั้น บริษัทฯ จึงคงยืนเป้ายอดขายและรายได้ไว้ที่ 2,450 ล้านบาทตามเดิม เพราะเชื่อว่ามีกำลังซื้อมากพอ”


นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเสริมว่า แนวโน้มและทิศทางตลาดรวมรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาส 3 คาดว่าจะฟื้นตัว หลังจากที่กำลังซื้ออั้นมานานหลายเดือน และเชื่อว่าการแข่งขันจะกลับมาคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งตลาดภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองมานาน วิเคราะห์ได้จากจำนวนลูกค้าที่เข้ามาติดต่อใช้บริการ กับศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์และเอคิวโฮมในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยแล้วมียอดขายเติบโตเกือบร้อยละ 30 เมื่อเปรียบเทียบกับ 4 เดือนแรกปีนี้


ปัจจุบันศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์และเอคิวโฮมมีสาขารวม 39 สาขา แยกเป็นพีดีเฮ้าส์ 36 สาขา และเอคิวโฮม 3 สาขา โดยในครึ่งปีหลังมีแผนจะขยายเพิ่มอีก 9 สาขา เพื่อให้สามารถบริการสร้างบ้านได้คลอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศยิ่งขึ้น โดยไตรมาส 3 นี้จะเปิดสาขาใหม่อีก 6 สาขา เริ่มจากเดือนก.ค.นี้เปิดเพิ่มสาขาจังหวัดร้อยเอ็ดและลำปาง ในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.จะเปิดสาขากาฬสินธุ์ มุกดาหาร บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ และไตรมาสสุดท้ายมีแผนจะขยายเพิ่มอีก 3 สาขา ทั้งนี้ การที่บริษัทฯ เร่งขยายสาขาก็เพื่อหวังจะแชร์ส่วนแบ่งตลาดรับสร้างบ้านทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวม ทั้งต่างจังหวัดด้วยเป้าหมายมียอดขายบ้านอันดับ 1 ของประเทศ  


แบบบ้านใหม่ สไตล์ทัสคานี (Tuscany Style)
 

สำหรับ กลยุทธ์การแข่งขันในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีแผนจะเปิดตัว 8 แบบบ้านใหม่ สไตล์ทัสคานี (Tuscany Style) และสไตล์คอทเทจ (Cottage Style) ระดับราคา 2.5-5 ล้านบาทเศษ ตั้งเป้าจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านหลังแรกหรือหลังที่ 2 แนวพักผ่อนในต่างจังหวัด รวมทั้งเปิดตัว “บ้านพร้อมสระว่ายน้ำ” สไตล์โมเดิร์นอีก 2 แบบในระดับราคา 5-7 ล้านบาทเศษ เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพ


นอกจากนี้ในช่วงปลายเดือนก.ค.บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวและออนแอร์ภาพยนต์โฆษณาชุดใหม่ชื่อ “ตอบแทน” เพื่อส่งเสริมความรักและความกตัญญูต่อแม่ผู้มีพระคุณ เนื่องในโอกาสใกล้จะถึงวันแม่แห่งชาติในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ พร้อมจัดโปรโมชั่นมอบทองคำหนักสูงสุด 15 บาท สำหรับลูกค้าที่จองสร้างบ้านกับ 4 แบบยอดฮิต ได้แก่ W-991, W-510, F-757, WA-725 โดยตั้งเป้ายอดขายไตรมาส 3 นี้ไว้ 600 ล้านบาท นายพิศาล กล่าวทิ้งท้าย


 
แบบบ้านใหม่ สไตล์คอทเทจ (Cottage Style)

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
อากิโกะที เปิด 2 สาขาใ..
3,572
สเต็กเด็กแนว สร้างรายไ..
1,623
ซอห์น ฟู้ด จัดโปรแรง! ..
822
ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส ..
714
“THE GRAND MALL” ทำเลด..
570
โรบอท สเตชัน คลับ จัดโ..
548
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด