|
|
|
|
19 ตุลาคม 2557 |
เจ.ไอ.บี. ปรับทัพบุกตลาดค้าปลีกไอทียุค AEC ลุยปล่อยแฟรนไชส์-เปิดร้านไฮเอนด์-รุกออนไลน์เต็มตัว
เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป ลุยขยายฐานธุรกิจค้าปลีกไอทีรับยุค AEC ฟีเวอร์ หลังคาดตลาดบูมทั้งส่วนกลาง-ภูมิภาค เตรียมปล่อยแฟรนไชส์ร้าน เจ.ไอ.บี. เป็นครั้งแรกขยายฐานลูกค้า-รายได้ในตลาดหัวเมืองใหญ่
พร้อมเปิดร้านค้าปลีกไอทีระดับไฮเอนด์ “Mine” เจาะลูกค้าระดับมืออาชีพในห้างชั้นนำหลังพบตลาดโตเกินคาด ขณะเดียวกันเตรียมใช้ช่องทางขายผ่านเวบไซต์รองรับนักช็อปออนไลน์ที่นับวันยิ่งเติบโต ชูจุดแข็งสินค้าคุณภาพเยี่ยม โปรสุดฮอต จัดส่งเร็ว พ่วงบริการหลังการขายสะดวกสบายกระชากใจลูกค้า มั่นใจปีหน้าเห็นรายได้โตกระโดดชัดเจน
นายสมยศ เชาวลิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้านค้าปลีกสินค้าไอทีครบวงจรภายใต้ชื่อ เจ.ไอ.บี. (J.I.B.) กล่าวถึงนโยบายการขยายธุรกิจท่ามกลางกระแสการปรับตัวรับตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community -AEC)ที่จะมาถึงอย่างเป็นทางการในปี 2558 ว่า บริษัทได้กำหนดทิศทางรับมือกับกระแส AEC อย่างชัดเจน เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการเปิดกว้างของตลาดอย่างเต็มที่
โดยได้ให้ความสำคัญพร้อมกันทั้งการขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าไอทีให้ครอบคลุมลูกค้าครบทุกกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขายให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณภาพเยี่ยม จัดส่งรวดเร็ว ตรงเวลา และให้ลูกค้าใช้จ่ายคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นด้วยโปรโมชั่นที่จัดสรรขึ้นเป็นพิเศษสำหรับลูกค้าในแต่ละช่องทางจำหน่าย
เขากล่าวว่า ในส่วนของการขยายช่องทางจำหน่าย นอกเหนือจากการเปิดร้าน เจ.ไอ.บี.ในศูนย์การค้าเปิดใหม่ทั่วไปเพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกแล้ว ในต้นปี 2558 บริษัทได้เตรียมเปิดแฟรนไชส์ร้าน เจ.ไอ.บี.เป็นครั้งแรก โดยเฉพาะในตลาดส่วนภูมิภาคเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นความชัดเจนได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2558 เป็นต้นไป
นอกจากนั้น ได้เปิดตัวร้านค้าปลีกคอมพิวเตอร์และสินค้าไอทีไลฟ์สไตล์ภายใต้ชื่อ “Mine” ลงสู่ตลาดเพิ่มเติมจากร้าน เจ.ไอ.บี.ด้วย โดยเน้นจำหน่ายสินค้าไฮเอนด์(High end) ในแต่ละกลุ่ม เพื่อรองรับลูกค้าระดับมืออาชีพ อาทิ งานตัดต่อ งานออกแบบที่ต้องใช้เครื่องสเปกสูง รวมทั้งสินค้าในกลุ่มเกมมิ่งยอดนิยม และสินค้าพิเศษที่ไม่สามารถหาซื้อได้ในร้านขายคอมพิวเตอร์และไอทีทั่วไป รวมทั้งสินค้าในกลุ่มไอทีไลฟ์สไตล์เทคโนโลยีใหม่ หลังจากพบว่ายอดขายสินค้าในกลุ่มนี้เติบโตขึ้นเกือบ 10 เท่าตัวภายในเวลาเพียง 3 ปี
“Mine ถูกวางตำแหน่งเป็นร้านที่จำหน่ายสินค้าระดับไฮเอนด์ สินค้าในกลุ่มที่ใช้สำหรับมืออาชีพ และเกมเมอร์ที่ต้องการใช้เครื่องสเปกพิเศษเพื่อช่วงชิงชัยชนะจากการแข่งขันในแต่ละครั้ง จุดเด่นของ Mine คือ เป็น พื้นที่รองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ที่สร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้ามากกว่าแค่การเลือกซื้อสินค้า และสินค้าทุกชิ้นไม่ว่าจะราคาแพงแค่ไหนลูกค้าสามารถทดลองได้ก่อนซื้อ มีผู้เชี่ยวชาญไว้คอยให้คำปรึกษา และจัดประกอบให้เห็นหน้าร้านตามความต้องการของลูกค้า
อีกทั้งยังมีการ Update สินค้าและซอฟแวร์ใหม่ๆ ให้ลูกค้าผู้สนใจด้วย ซึ่งขณะนี้ได้เปิด Mine สาขาแรกแล้วที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระราม 2 โดยได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเปิด Mine ให้เป็นร้านพิเศษสำหรับลูกค้าคอไอที ไฮเทคโนโลยีอย่างแท้จริง” นายสมยศ กล่าว
นอกจากนั้น ในปีนี้ เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป ยังให้ความสำคัญกับการขยายช่องทางจำหน่ายผ่าน เว็ปไซต์ www.jib.co.th อย่างเต็มตัว หลังจากพบว่านักช็อปออนไลน์มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวยมากขึ้น โดยใช้จุดแข็งชื่อ เจ.ไอ.บี.ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างกว้างขวาง มีสินค้าให้เลือกมากกว่า 6,000 รายการ
ด้วยการจัดส่งที่รวดเร็วเพียง 1 วัน และเน้นขายสินค้าที่มีคุณภาพ มีบริการหลังการขายรองรับอย่างสะดวกสบาย และประการสำคัญยังมีโปรโมชั่นพิเศษที่ลูกค้าหาไม่ได้ในการซื้อสินค้าจากหน้าร้านมามอบให้เป็นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ด้วย ซึ่งคาดว่าในปีหน้าช่องทางนี้จะสามารถทำรายได้สูงถึงเดือนละ 100 ล้านบาท
“ในปี 2558 จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของ เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป อย่างชัดเจน ทั้งช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า และรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น รวมทั้งผู้บริโภคจะสามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทางของ เจ.ไอ.บี.ได้อย่างสะดวกสบาย คุ้มค่า รวดเร็ว และมั่นใจได้ในคุณภาพของสินค้าทุกรายการ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด กล่าว
|
|
|
