|
|
|
|
3 พฤศจิกายน 2557 |
ธุรกิจหนังสือส่งสัญญาณขาลง นานมีบุ๊คส์รุกธุรกิจกวดวิชาพร้อมรีโนเวทร้านแว่นแก้ว
นานมีบุ๊คส์หวั่นธุรกิจหนังสือไปไม่รอด ผุดโรงเรียนกวดวิชา “โก จีเนียส” ทดลองที่พาราไดซ์พาร์คแห่งแรก พร้อมปรับแผนการดำเนินธุรกิจหันจับกลุ่มนีช เร่งรีโนเวทสาขาเป็น “ร้านแว่นแก้ว” ต่อเนื่อง
นางสาวคิม จงสถิตย์วัฒนา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตอยู่ประมาณ 10% แต่ยังถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 20% โดยในช่วงเวลาที่เหลืออีก 2 เดือน บริษัทได้ทำการขยายเซ็กเมนต์ของธุรกิจขึ้นมาใหม่ภายใต้ชื่อ “โก จีเนียส” ซึ่งจะเป็นการดำเนินธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาสาขา และได้ทำการทดลองตลาดสาขาแรกที่บริเวณศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค เมื่อช่วงต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
“ในฐานะที่บริษัทได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสำนักพิมพ์ การเพิ่มธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาเข้ามาสามารถทำได้ง่าย ซึ่งหากบริษัทไม่ทำการขยายพอร์ตออกมาและเลือกที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับหนังสือเพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถทำให้ธุรกิจของนานมีอยู่รอดได้” นางสาวคิมกล่าว
สำหรับโรงเรียนกวดวิชาดังกล่าวจะเปิดสอนอยู่ด้วยกัน 3 วิชา ได้แก่
- คิดดี้ จีเนียส เปิดสอนเด็กอายุ 3-6 ปี
- ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้ซื้อลิขสิทธิ์มาจากประเทศญี่ปุ่น เปิดสอนเด็กอายุตั้งแต่ 6-12 ปี
- แมทช์ วิซ เป็นการบูรณาการเทคโนโลยีกับแฮนด์ออน ซื้อลิขสิทธิ์มาจากประเทศอังกฤษ โดยหากสาขาแรกประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดีก็จะมีการขายแฟรนไชส์ในอนาคตอีกด้วย
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้ปรับร้านหนังสือของนานมีบุ๊คส์ให้เป็น “ร้านแว่นแก้ว” เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทยังไม่มีกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนของตัวเอง แม้ว่าจะมีสำนักพิมพ์ที่เป็นพันธมิตรอยู่จำนวนมากก็ตาม นับจากนี้ต้องเน้นการจับกลุ่มนีชให้มากขึ้น โดยความถนัดของนานมีจะเป็นเรื่องของหนังสือเด็กและเยาวชน จึงได้มีการเปิดร้านดังกล่าวขึ้นมา เพื่อทำให้เด็กสามารถเข้าถึงหนังสือได้ง่ายขึ้น และมีนิสัยรักการอ่านตั้งแต่ยังเด็กอีกด้วย
นางสาวคิมยังกล่าวว่า ปัจจุบันร้านหนังสือแว่นแก้วมีอยู่ด้วยกัน 4 สาขา ได้แก่ พระราม 3 ซึ่งเป็นสาขาแรกที่ใช้ทดลองตลาด ตามมาด้วยที่เชียงใหม่และขอนแก่น ภายใต้พื้นที่ราว 90 ตารางเมตร และล่าสุดบริเวณสุขุมวิทที่ได้ใช้งบรีโนเวทไปราว 10 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นแฟลกชิปสโตร์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “B E S T” จำหน่ายหนังสือประมาณ 6,000 ปก แบ่งเป็นภาษาไทยราว 80% และภาษาต่างประเทศอีก 20% จำนวนสำนักพิมพ์ทั้งหมด 192 สำนักพิมพ์
โดยส่วนมากจะเป็นสำนักพิมพ์เกี่ยวกับหนังสือเด็ก 130 สำนักพิพม์ และสำนักพิมพ์หนังสือผู้ใหญ่อีก 62 สำนักพิมพ์ ขณะเดียวกันยังได้เตรียมปรับสาขาที่พาราไดซ์พาร์ค ให้เป็นร้านหนังสือแว่นแก้วเป็นแห่งต่อไป และที่เหลือในส่วนของบริเวณจามจุรีสแควร์, แฟชั่นไอส์แลนด์ และเพลย์ไทม์ เอกมัย จะทยอยปรับในอนาคต
ก่อนหน้านี้ นายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยถึงภาพรวมของงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 19” ที่ได้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ค่อนข้างที่จะประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายในแง่ของผู้ร่วมงาน แต่ยอดการซื้อหนังสือต่อคนลดลงอย่างค่อนข้างเห็นได้ชัด
จากคนละประมาณ 5-10 เล่ม เหลือประมาณคนละ 3-6 เล่ม ทำให้หลายสำนักพิมพ์ใช้กลยุทธ์คูปองลดราคาเพื่อให้ผู้บริโภคเพิ่มการซื้อถึงระดับที่สำนักพิมพ์กำหนด ซึ่งทำให้สำนักพิมพ์ได้กำไรลดลง แต่ก็ช่วยเพิ่มยอดการซื้อได้ทางหนึ่ง.
อ้างอิิงจาก ไทยโพสต์
|
|
|
