|
|
|
|
11 พฤศจิกายน 2557 |
พาณิชย์ เตรียมรุกหนักตลาดอาเซียน หวังปีหน้าส่งออกโต5.9%
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะมีการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของไทยในอาเซียนอย่างเต็มที่ เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
ซึ่งจะเน้นการรักษาตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคเอาไว้ ควบคู่ไปกับการขยายตลาดสินค้าประเภทนวัตกรรม เน้นแบรนด์ เน้นดีไซน์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และในภาคธุรกิจบริการที่มีศักยภาพ รวมถึงจะพยายามช่วยเหลือผู้ประกอบการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อให้สามารถแข่งขันในเวทีอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“จากผลการหารือการขับเคลื่อนการส่งออกในปี 2558 ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ตามนโยบาย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ นั้น กรมได้จัดทำเป้าหมายส่งออก ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ และกิจกรรมแล้ว ซึ่งเป้าหมายสำคัญในปี 2558 จะเน้นที่ตลาดภูมิภาคอาเซียน
โดยตั้งเป้าหมายว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ที่ 5.9% หรือมีมูลค่า 63,554 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งที่เน้นการทำตลาดอาเซียนเป็นหลัก เพราะตลาดมีสัดส่วนการตลาดสูงเป็นอันดับ 1 อีกทั้งเป็นปีที่เริ่มเปิดเออีซีอย่างสมบูรณ์ด้วย”นางนันทวัลย์ กล่าว
ทั้งนี้กลยุทธ์ในการดำเนินงานนั้น จะเร่งส่งเสริมการย้ายฐานผลิตของไทยไปยังสมาชิกอาเซียน เพื่อผลิตสินค้าป้อนตลาดในไทย ส่งออกไปตลาดอาเซียน และส่งออกไปสู่ประเทศที่ 3 ซึ่งมองว่าจะเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ ทั้งจากการใช้ประโยชน์ในด้านค่าแรงที่ถูก มีแหล่งวัตถุดิบที่อุดมสมบูรณ์ ประโยชน์ด้านภาษี ที่ประเทศในกลุ่มกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม(CLMV) ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรในการส่งออกไปประเทศพัฒนาแล้ว
รวมถึงจะมีการส่งเสริมการตลาด การจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายและเจรจาธุรกิจ ให้สินค้าและบริการที่มีศักยภาพของไทยได้เป็นที่รู้จัก ได้รับการยอมรับจากประเทศอาเซียน เพื่อรักษาตลาดไว้และขยายส่วนแบ่งตลาด
โดยกรมจะส่งเสริมการค้าและลงทุนตามแนวเส้นทางเชื่อมโยงทางกายภาพ ภายใต้กรอบอาเซียน (ระเบียงเศรษฐกิจ) การให้บริการข้อมูลและคำปรึกษาเชิงลึก เพื่อเสริมสร้างความพร้อมของผู้ประกอบการในการเข้าสู่ตลาด ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมรวม 51 งาน อาทิ งานไทยแลนด์ วีค 2015 ที่กรุงย่างกุ้ง และกรุงพนมเปญ คาดว่าการจัดกิจกรรมทั้งหมด จะทำให้สินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 20%
นอกจากนี้แผนยุทธศาสตร์ยังมุ่งส่งเสริมการค้าชายแดน โดยในส่วนเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด ที่ใช้ทำการค้ากับเมียนมาร์ จะส่งเสริมให้มีการลงทุนในธุรกิจก่อสร้าง ส่งเสริมการส่งออกวัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจบริการแฟรนไชส์
ซึ่งมองว่าปี 2558 ภาพรวมตลาดจะขยายตัว 20% หรือมีมูลค่า 5,455 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกันจะเร่งรัดธุรกิจบริการกับกัมพูชา เพื่อเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ และต่อยอดการส่งออกสินค้าไทยอื่นๆ ควบคู่ไปกับการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค
อ้างอิงจาก แนวหน้า
|
|
|
