|
|
23 มกราคม 2558 |
นารายณ์พิซเซอเรีย ปั้นโมเดลบุฟเฟต์/แฟรนไชส์ลุย
![](https://www.thaifranchisecenter.com/info/franchise/news_fc_3280_p15_20190813092238.jpg)
ภาพจาก https://www.facebook.com/naraipizzeria/
"นารายณ์พิซเซอเรีย" รุกตลาดบุฟเฟต์นานาชาติ จับกลุ่มกำลังซื้อกลาง - บน เตรียมขยายสาขาครบ 4 จุดปีนี้ พร้อมดึงร้านกาแฟ - ร้านอาหารแนวใหม่เสริมทัพ ชี้ตลาดพิซซ่าแข่งหนัก-โตน้อย เสียเปรียบรายใหญ่ หันมาเฟ้นบริการสู้ศึก
นางสาวสรัญญา เปรมสุมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นารายณ์พิซเซอเรีย จำกัด เจ้าของร้านอาหาร "นารายณ์พิซเซอเรีย" ร้านอาหารญี่ปุ่น "คันไซ" ร้านขนมหวาน "โทสต์ทูยู" เป็นต้น เปิดเผยว่า
จากนี้ไปบริษัทมีนโยบายจะกลับมารุกขยายสาขาอีกครั้ง หลังจากปีที่ผ่านมา ได้ชะลอการเปิดสาขาเพิ่ม เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดโครงสร้างธุรกิจให้มีความเหมาะสม โดยจะใช้แบรนด์ "นารายณ์พิซเซอเรีย อินเตอร์บุฟเฟต์" ที่ได้ทดลองเปิดให้บริการ ที่ เจ อารีน่า ราชพฤกษ์ มากว่า 2 ปี เป็นแบรนด์หลักในการขยายสาขาปีนี้
![](https://www.thaifranchisecenter.com/info/franchise/news_fc_3280_p12_20190813092238.jpg)
ภาพจาก https://www.facebook.com/naraipizzeria/
นารายณ์พิซเซอเรีย อินเตอร์บุฟเฟต์ เป็นร้านบุฟเฟต์ขนาดใหญ่ใช้พื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร มีอาหารอิตาเลียน ญี่ปุ่น จีน ไทย รวมกันกว่า 100 เมนู วางราคาไว้ที่ 499 บาท เจาะกลุ่มลูกค้าครอบครัว วัยรุ่น นักศึกษา ที่มีกำลังซื้อในระดับกลางถึงบน โดยสาขา 2 จะเปิดที่ยูเนียนมอลล์ ลาดพร้าว ในช่วงต้นปีตั้งเป้าจะเปิดให้ครบ 4 แห่งภายในปีนี้ และอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อจะเปิดร้านในศูนย์การค้าเซ็นทรัล และเดอะมอลล์ ด้วยงบฯสาขาละ 10 ล้านบาท
![](https://www.thaifranchisecenter.com/info/franchise/news_fc_3280_p14_20190813092238.jpg)
ภาพจาก https://www.facebook.com/naraipizzeria/
รวมทั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาใช้ชื่อใหม่เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับแบรนด์ เพื่อไม่ให้สับสนกับแบรนด์นารายณ์พิซเซอเรียปกติที่ได้เพิ่มบุฟเฟต์ในบางสาขาเมื่อต้นปี 2557
"ตอนนี้กระแสบุฟเฟต์มาแรงมาก และเราพยายามจะวางราคาไม่ให้สูงเกินไป แต่จะให้สอดคล้องกับคุณภาพอาหาร พยายามนำเสนอบุฟเฟต์ที่มีอาหารหลากหลายและแปลกใหม่ ที่กำลังอยู่ในความสนใจ"
นางสาวสรัญญากล่าวว่า ขณะเดียวกันก็จะเน้นการสร้างรู้แบรนด์ผ่านสื่อออนไลน์ และการแนะนำปากต่อปาก และใช้โปรโมชั่นราคา อาทิ มา 4 จ่าย 3 ดึงให้ผู้บริโภคเข้ามาทดลองใช้บริการ สอดคล้องกับกิจกรรมการตลาดของแบรนด์ในเครือจะใช้โปรโมชั่นราคาควบคู่กับโปรโมชั่นอาหารในแต่ละเดือน
ปัจจุบันบริษัทมีร้านอาหารในเครือ4แบรนด์ ได้แก่ นารายณ์พิซเซอเรีย 7 สาขา คันไซ 10 สาขา เปิดเป็นนารายณ์พิซเซอเรียคู่คันไซ 9 สาขา นารายณ์พิซเซอเรีย อินเตอร์บุฟเฟต์ 1 สาขา โทสต์ทูยู 2 สาขา เป็นแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นเองทั้งหมด รายได้หลักมาจากนารายณ์พิซเซอเรีย 70% คันไซ 30% ขณะที่แบรนด์อื่นยังมียอดขายไม่มากนัก
![](https://www.thaifranchisecenter.com/info/franchise/news_fc_3280_p13_20190813092238.jpg)
ภาพจาก https://www.facebook.com/naraipizzeria/
ปีนี้หากเปิดสาขาร้านอินเตอร์บุฟเฟต์ ได้ครบ 4 สาขา อาจทำยอดขายเป็นสัดส่วน 50% ของรายได้รวม เพราะ 1 สาขาบุฟเฟต์เทียบเท่ากับการเปิดสาขาปกติ 2-3 สาขา ในแง่ของพื้นที่และปริมาณลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ ส่วนแบรนด์อื่น ๆ จะเน้นการเปิดตามความเหมาะสมของพื้นที่และทำเล ไม่กำหนดเป้าหมาย
สำหรับแบรนด์นารายณ์พิซเซอเรีย ที่สร้างรายได้หลักให้บริษัท ปีนี้คาดว่าจะได้เห็นร้านในรูปของแฟรนไชส์ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการเจรจาตกลงเงื่อนไขกับผู้สนใจหลายราย และปีนี้จะมีแบรนด์ใหม่เพิ่มเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอบริษัทอีก 2 แบรนด์ ได้แก่ คอฟฟี่ อินดัสทรี 2 สาขา
ที่ก่อนหน้านี้เป็นธุรกิจส่วนตัวและจะโอนมาอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท และร้านโมเดลใหม่ที่จะเป็นรูปแบบที่ผสมผสานอาหารจากแต่ละแบรนด์ในเครือ คือ อาหารญี่ปุ่น อาหารอิตาเลียน บุฟเฟต์ และขนมหวาน มาไว้ในร้านเดียว ซึ่งจะมาพร้อมการให้บริการรูปแบบใหม่ คาดว่าจะเปิดช่วงกลางปี
"ตลาดอาหารอิตาเลียนเติบโตค่อนข้างช้าและการแข่งขันก็รุนแรงมาก โดยเฉพาะโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ตอนนี้เรามีสาขาแค่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล การทำสื่อโฆษณา การทำโปรโมชั่น เราจะเสียเปรียบ และบางครั้งยอดออร์เดอร์ดีลิเวอรี่ก็กระทบกับการให้บริการในร้าน เราจึงปรับกลยุทธ์มาเน้นการให้บริการในร้านและการแตกแบรนด์ใหม่ ๆ ซึ่งจะมีทั้งแบรนด์ที่พัฒนาเอง และมองโอกาสซื้อแบรนด์ต่างประเทศเข้ามาบริหาร"
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|