|
|
15 กุมภาพันธ์ 2558 |
กสอ. กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2558 ชูเทคโนโลยีหนุน SMEs
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน (สพส.กสอ.) ชูแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ เน้นใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับขีดความสามารถของ SMEs ให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ
โดยจะร่วมดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานพันธมิตรจากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น จีน พร้อมเผยผลการดำเนินงานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ความร่วมมือกับสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ในการเปิดศูนย์บริการทดสอบไดออกซิน ความร่วมมือกับสถาบันไทย-เยอรมันเพื่อการยกระดับขีดความสามารถอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทย ความร่วมมือกับสมาคมอุตสาหกรรมเฉพาะทางต่างๆ
การเตรียมเป็นศูนย์ทดสอบแรงงานมาตรฐานวิชาชีพ ความร่วมมือกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA และ HIDA) ความร่วมมือด้านงานวิจัยและพัฒนากับสถาบันวิจัยเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมแห่งมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Industrial Technology Research Institute : TIRI) สถาบัน TIRI แห่งแรกในประเทศไทย เป็นต้น
เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทยให้เป็นไปอย่างครบวงจร โดยมี นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานในการแถลงข่าวดังกล่าว ณ สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล้วยน้ำไท
นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของประเทศไทยมีจำนวนกว่า 2.74 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 98.5 ของจำนวนวิสาหกิจทั้งประเทศ ซึ่งในแต่ละสาขาอุตสาหกรรมมีลักษณะการดำเนินธุรกิจ ประสบปัญหาและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
ฉะนั้นเพื่อให้การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทยด้วยเทคโนโลยีเป็นไปอย่างครบวงจร กรมฯ จึงได้พยายามสร้างเครือข่ายความร่วมมือโดยบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการบริการที่ครอบคลุมความต้องการของ SMEs ตั้งแต่การสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานวิจัยและพัฒนา การเชื่อมโยงการบริการด้านการทดสอบตรวจสอบและรับรองมาตรฐานต่างๆ การสร้างความร่วมมือกับสถาบันการเงินในการสนับสนุนด้านเทคนิคแก่ลูกค้าสถาบันการเงินตามโครงการสินเชื่อเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร และเทคโนโลยี การเชื่อมโยงธุรกิจและถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างประเทศ เป็นต้น
โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ร่วมมือกับสถาบันเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม เช่น ความร่วมมือกับสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยในการเปิดศูนย์บริการทดสอบไดออกซิน ความร่วมมือกับสถาบันไทย-เยอรมันในการยกระดับขีดความสามารถอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทย ความร่วมมือกับสมาคมอุตสาหกรรมเฉพาะทางต่างๆ เช่น สมาคมอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทย สมาคมอุตสาหกรรมหล่อโลหะไทย สมาคมเครื่องจักรกลไทย สมาคมผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์และอะไหล่ทดแทนไทย สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย เพื่อเตรียมการเป็นศูนย์ทดสอบแรงงานมาตรฐานวิชาชีพ เป็นต้น
สำหรับความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศที่ผ่านมา กรมฯ มีความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจากหลายประเทศ อาทิ องค์กร Japan International Cooperation Agency (JICA) และ The Overseas Human Resources and Industry Development Association (HIDA) ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นศูนย์ฝึกอบรมด้านเทคนิคให้กับบุคลากรในอุตสาหกรรมสนับสนุนของกลุ่มประเทศ CLMV และประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งในปีนี้ได้เตรียมนำร่องกับอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของประเทศเวียดนามและแอฟริกาใต้
อีกทั้งอุตสาหกรรมสนับสนุนของพม่าและลาว ซึ่งนอกจากจะเป็นการถ่ายทอดความรู้กับบุคลากรในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ยังมีการเชื่อมโยงเครือข่ายกับหน่วยงานภาคอุตสาหกรรมทั้งภาครัฐและเอกชนของประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์และก่อให้เกิดการเชื่อมโยงธุรกิจให้กลุ่มประเทศ CLMV และแอฟริกาใต้อีกด้วย ซึ่งกิจกรรมนี้จะเริ่มต้นในเดือนมีนาคม 2558 นี้ เป็นต้นไป นายอาทิตย์ กล่าว
สำหรับด้านการวิจัยและพัฒนานั้น ในเดือนพฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ลงนามความร่วมมือ ด้านงานวิจัยและพัฒนากับสถาบันวิจัยเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมแห่งมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Industrial Technology Research Institute : TIRI)
ซึ่งเป็นสถาบันของญี่ปุ่นที่ให้บริการทางด้านเทคนิคกับ SME ในประเทศญี่ปุ่น มีการดำเนินการกว่า 100 ปี ได้ตัดสินใจเลือกประเทศไทย (กสอ.) เป็นที่ตั้งสำนักงานในต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยเป็นการให้บริการในหลายด้าน ได้แก่
- Technical Assistance เช่น การรับจ้างทดสอบผลิตภัณฑ์ การให้คำปรึกษา เป็นต้น
- Supporting Product Development เช่น ให้บริการเช่าห้องทดลอง และเครื่องมือเครื่องจักร เป็นต้น
- Research and Development เช่น การวิจัยร่วมกัน
- การพัฒนาบุคลากร เช่น การให้การฝึกอบรม
- การเผยแพร่ข้อมูลอุตสาหกรรม เช่น การจัดนิทรรศการ การพิมพ์บทความ เป็นต้น
- Supporting Technology Management เช่น การจัดการสิทธิบัตร เป็นต้น
- Collaboration in Industrial Circle โดยการบริการจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2558 เป็นต้นไป
อีกทั้ง หน่วยงานวิจัยและพัฒนา จากประเทศจีน ยังพร้อมที่จะเข้ามาให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกแก่สถานประกอบการไทยในการปรับปรุงเทคโนโลยีกระบวนการผลิตและเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ โดยจะขยายการบริการเป็นโต๊ะจีน (China Desk) นอกเหนือจากโต๊ะญี่ปุ่น (Japan Desk) ที่มีอยู่เดิม
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศในการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานใหม่ให้กับภาคอุตสาหกรรม เช่น มาตรฐานระบบอัตโนมัติ IEC/TC65 มาตรฐานฟองอากาศระดับอนุภาค (Fine Bubble Technology) ISO/TC281 เป็นต้น
ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีสมัยใหม่โดยเฉพาะเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติได้เข้ามามีบทบาทต่ออุตสาหกรรมไทยมากยิ่งขึ้น หลายครั้งที่อุตสาหกรรมได้ซื้อและลงทุนในระบบอัตโนมัติมากมาย แต่ขาดซึ่งการเรียนรู้เทคโนโลยีและมาตรฐานสากล ทำให้ส่งผลต่อการซ่อมบำรุงรักษาและความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานได้ กรมฯ จึงได้ให้ความสำคัญกับสัมมนาด้านมาตรฐานและเทคโนโลยีนอกเหนือจากฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมที่เป็นบทบาทหลักของ กรมฯ อีกด้วย
นายอาทิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2558 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน (สพส.) ได้กำหนดนโยบายเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสนับสนุน ดังต่อไปนี้
- สนับสนุนการเจรจาทางการค้า (Business Matching) และขยายการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ตั้งเป้าขยายการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะ SME เพิ่มขึ้นประมาณ 500 ตลอดจนการใช้เครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการสนองนโยบายดิจิทัล เอสเอ็มอี (Digital SMEs)
- ยกระดับบุคลากรและผู้ประกอบการ โดยการเสริมสร้างองค์ความรู้ทั้งในเชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัติ และพัฒนาฝีมือแรงงานให้พร้อมรับกับการขยายตัวของอุตสาหกรรม ตั้งเป้าพัฒนาบุคลากร 30,000 คน
- พัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติ ตลอดจนพัฒนาผลิตภาพการผลิตให้มีประสิทธิภาพทั้งคุณภาพ ปริมาณ และรักษาสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าพัฒนาเทคโนโลยีและเครื่องจักร 2,000 กิจการ
- สนับสนุนให้สถานประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อเพื่อพัฒนาผลิตภาพการผลิต อย่างน้อย 500 กิจการ โดยร่วมมือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ เอสเอ็มอีแบงค์ (SME Bank) ตามโครงการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการตามแผนยุทธศาสตร์กระทรวงอุตสาหกรรม
- ส่งเสริมและสนับสนุนในการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคตอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ มีการสร้างเครือข่ายผู้ผลิตไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการเห็นโอกาสใหม่ในอุตสาหกรรมดาวรุ่งแห่งอนาคตที่มีมูลค่าเพิ่มสูง
อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
|
|
|
|