ยูพีดีขยายแฟรนไชส์ 50 รายต่อปี
เศรษฐกิจ-การเมืองพ่นพิษ ยูพีดีระบุไม่กระทบการดำเนินธุรกิจ ตั้งเป้าหมายปีนี้เติบโต 10% พร้อมตั้งเป้าเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ 50 รายต่อปี ขณะที่โรงเรียนสอนขับรถยนต์ยูพีดี มีการอบรม ทั้งทฤษฎีและภาคปฏิบัติหลังสอบผ่านมอบใบรับรองผลการเรียนสอบเพื่อไปยื่นรับใบขับขี่ได้ทันที
นางสาวมนัญญา วิภัติภูมิประเทศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูพีดี โบรคเกอร์ จำกัด เปิดเผยว่า จากภาวะทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ยังไม่นิ่งไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจมากนัก เนื่องจากการประกันวินาศภัย ต่อประกันรถยนต์ ทำพ.ร.บ.ประกันภัยรถยนต์ มีกฎหมายที่ผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว แต่ในเบื้องต้นอาจจะกระทบต่อการตัดสินใจในการซื้อรถยนต์ใหม่ของผู้บริโภคบ้าง
ทั้งนี้ ภายในปี 2551 นี้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 10% จากปีก่อนเติบโตอยู่ที่ประมาณ 15-20% ขณะที่ธุรกิจแฟรนไชส์บริษัทตั้งเป้าไว้ประมาณ 50 รายต่อปี เนื่องจากบริษัทไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องปริมาณมากนัก จากที่บริษัทมีความต้องการที่จะพยายามหาคนที่ทำธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีความตั้งใจที่ต้องการทำธุรกิจเท่านั้น
โดยธุรกิจแฟรนไชส์จะมีอยู่ 2 รูปแบบซึ่งประกอบด้วย 1.การลงทุนเต็มรูปแบบ ซึ่งผู้ลงทุนจะต้องใช้งบลงทุนจำนวน 60,000 บาท โดยบริษัทจะมีการจัดเตรียมชุดอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งจะเป็นลักษณะเคาน์เตอร์ให้กับสมาชิก เป็นต้น จากที่ปัจจุบันมีสมาชิกที่ทำธุรกิจแฟรนไชส์เต็มรูปแบบอยู่จำนวน 20 แห่ง ส่วนรูปแบบที่ 2.ผู้ลงทุนจะต้องใช้งบลงทุนจำนวน 20,000 บาท ซึ่งบริษัทจะมีการจัดเตรียมชุดอุปกรณ์ต่างๆ ให้เช่นกัน โดยจะเป็นลักษณะกล่องไฟมีขนาดประมาณ 1.20 เมตร เป็นต้น ซึ่งขณะนี้มีอยู่จำนวน 200 แห่งทั่วประเทศ
ส่วนความคืบหน้าโรงเรียนสอนขับรถยนต์ยูพีดี ที่ได้เริ่มเปิดสอนแล้วนั้น ขณะนี้ที่โรงเรียนได้ดำเนินการเปิดเรียนทุกวัน โดยจะมีการอบรม ทั้งทฤษฎี และภาคปฏิบัติ รวมไปถึงมีการตรวจสายตา ตรวจความพร้อมของร่างกายก่อนที่จะขับรถยนต์
ทั้งนี้ ขั้นตอนการเข้ามาเรียนนั้นบริษัทจะมีหลักสูตรสำหรับผู้ที่จะมาฝึกหัดขับรถยนต์ โดยจะมี 2 หลักสูตรคือหลักสูตรแรกจะมีค่าใช้จ่าย 4,500 บาทต่อคนระยะเวลา 15 ชั่วโมง โดยหลักสูตรนี้จะเรียนรถยนต์เกียร์ธรรมดา อย่างเดียว โดยจะแบ่งเป็นภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ 10 ชั่วโมง เช่นกฎหมายจราจรต่างๆ การบำรุงดูแลรักษารถยนต์และมารยาทในการขับรถยนต์ ซึ่งจะเรียนในห้องรวมในแต่ละรุ่นของภาคทฤษฎี ส่วนภาคปฏิบัติจะเรียนกับครูสอนขับรถยนต์ 1 ต่อ 1 คือครู 1 คน นักเรียน 1 คน เรียน วันละ 2 ชั่วโมง พอหลังจากหัดขับรถยนต์ในสนามฝึกแล้วจะมีการฝึกหัดขับรถยนต์บนท้องถนนจริงเป็นต้น
สำหรับหลักสูตรที่ 2 คือหลักสูตร 18 ชั่วโมง มีค่าใช้จ่าย 5,500 บาท ซึ่ง หลักสูตรนี้จะเป็นรถยนต์เกียร์ธรรมดา และเกียร์ออโต้รวมกัน โดยจะแบ่งเป็นภาคทฤษฎี 6 ชั่วโมง และภาคปฏิบัติ 12 ชั่วโมง เป็นต้น
ดังนั้น เมื่อนักเรียนเรียนจบ 15-18 ชั่วโมงแล้ว ที่โรงเรียนจะมีการจัดสอบเป็นรุ่นๆ คือมีการจัดสอบทุกวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ ซึ่งการสอบจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางบกมาเป็นกรรมการในการสอบให้ด้วย เมื่อนักเรียนสอบผ่านแล้วทางโรงเรียนจะออกเป็นใบรับรองผลการเรียนและสอบ ให้นักเรียนเพื่อไปยื่นรับใบขับขี่ที่กรมขนส่งทางบกได้ทันที
สำหรับครูฝึกสอนในโรงเรียนนั้นขณะนี้มีอยู่ประมาณ 20 คน ขณะที่รถยนต์ที่ฝึกหัดขับนั้นจะเป็นรถยนต์ที่ฝึกหัดขับโดยเฉพาะและมีอุปกรณ์ที่มาตรฐาน ปลอดภัย เช่น จะมีป้ายติดสติกเกอร์ว่าเป็นรถยนต์สำหรับฝึกหัดขับอย่างชัดเจน มีเบรกสำหรับครูอีกด้านหนึ่งสำหรับคูรที่คอยช่วยเหลือที่จะสามารถช่วยเบรกได้ รวมทั้งยังมีกระจกมองด้านหลังสำหรับครูด้วย จึงถือว่าเป็นรถยนต์สำหรับฝึกหัดขับอย่างมาตรฐาน
อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่บริษัท ได้มีการเปิดโรงเรียนสอนขับรถยนต์แล้ว ขณะนี้มีผู้ที่มีความสนใจอยากจะทำธุรกิจแฟรนไชส์ของโรงเรียนด้วย จากที่ตอนแรกบริษัทไม่ได้มีการพิจาร ณาว่าจะทำธุรกิจแฟรนไชส์โรงเรียน สอนขับรถยนต์ เนื่องจากเงินลงทุนค่อนข้างสูงแต่ขณะนี้คนที่สนใจมีที่ดินแล้วซึ่งอยู่ต่างจังหวัดที่จะเปิดธุรกิจแฟรนไชน์โรงเรียน เช่นที่จังหวัดเพชร บูรณ์ ชลบุรี เป็นต้น
“เริ่มแรกเราเริ่มที่จากการขายประกันรถยนต์ตรวจสภาพรถยนต์ ต่อภาษีรถยนต์ รับจัดไฟแนนซ์รถยนต์ ซึ่ง ตรงนี้เราถือว่าเป็นบริการแบบครบวงจร แล้วถ้าเกิดเราจะขยายธุรกิจการ บริการอะไรแล้วคิดว่ามันจะต้องเกี่ยว ข้องกับรถยนต์ ตรงนี้ก็คือเราขยายมาตรงในส่วนที่โรงเรียนสอนขับรถยนต์ก็สามารถที่จะเกี่ยวเนื่องกันได้ แล้วคนที่จบไปจากโรงเรียนสอนขับรถยนต์ เราก็จะเปิดเสมือนกับสมาชิกของเราตรงนี้เขาก็สามารถที่จะมาใช้บริการประกันรถยนต์ ตรวจสภาพรถยนต์ ต่อภาษีรถยนต์เขาก็สามารถใช้บริการของเราได้ โดยที่เรามีบัตรสมาชิก ที่เป็นเมมเบอร์การ์ดให้ ส่วนหนึ่งเขา ก็สามารถที่จะได้รับส่วนลดพิเศษประมาณ 10-50%”
ขณะนี้บริษัทจะพยายามขยายรูปแบบของธุรกิจแฟรนไชส์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่บริษัทดำเนินธุรกิจ จะเป็นในส่วนที่เกี่ยวข้องของการ ประกันรถยนต์ แต่ตอนนี้บริษัทจะทำให้ ครบวงจรมากยิ่งขึ้น คือในส่วนของโรงเรียนสอนขับรถยนต์ เนื่องจากการ ลงทุนในส่วนนี้จะเป็นการลงทุนในส่วนของคนที่มีเงินลงทุนสูง และเป็นการลงทุนที่ครบวงจรจริงๆ
อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่มีความสนใจที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองหรือต้องการมีรายได้เสริม เนื่องจากขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันอาจจะมีเงินเดือนจากงานประจำไม่เพียงพอและต้องการมีรายได้เสริมจึงอยากให้พิจารณาว่าหากมีใจรักงานด้านการบริการและมีบุคลิกที่น่าเชื่อถือก็สามารถที่จะมาเป็นผู้ลงทุนกับบริษัทได้ ซึ่งบริษัทสามารถที่จะฝึกอบรมให้ความรู้เพียงแต่ว่ามีใจรักที่จะทำและเงิน ลงทุนถือว่าไม่มากนัก ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นงานบริการที่จะสามารถสร้างรายได้ ให้กับคนที่ต้องการอยากมีรายได้เพิ่ม ดังนั้นหากผู้ที่มีความสนใจสามารถเข้ามาดูรายละเอียดหรือสอบถามข้อมูลกับบริษัท ยูพีดี โบรคเกอร์ จำกัด ได้ที่ www.upd.co.th หรือสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ โทร.0-2540-4444-5
ที่มา : สยามธุรกิจ