2.1K
2 กรกฎาคม 2558
ฟาสต์แฟชั่น ปักธงอินเดีย ชิงค้าปลีก 5.5 แสนล้าน



นอกจากธุรกิจฟาสต์ฟู้ดแล้ว จำนวนประชากรที่มีมากกว่า 1.26 พันล้านคน การเป็นตลาดเกิดใหม่ รวมถึงมูลค่าตลาดค้าปลีกปีนี้ที่คาดว่าจะสูงถึง 5.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ จะทะยานขึ้นเป็น 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 ของอินเดียยังดึงดูดธุรกิจอื่น ๆ ให้เข้าไปลงทุนอย่างไม่ขาดสาย

ล่าสุดสำนักข่าว "อินไซด์รีเทลเอเชีย" รายงานว่า "มูจิ" (Muji) เชนร้านค้าปลีกสัญชาติญี่ปุ่นประกาศแผนเปิดสาขาแรกในอินเดียกลางปีหน้า ด้วยการจับมือกับกลุ่มทุนอินเดีย "รีแลนซ์ อินดัสทรี" ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนกับแบรนด์สินค้าต่าง ๆ กว่า 20 แบรนด์ เช่น ดีเซล ทิมเบอร์แลนด์ อัมโบร ซูเปอร์ดราย และแฮมเลย์ เป็นต้น

โดยร้านมูจิสาขาแรกจะตั้งอยู่ในเมืองเดลีและมุมไบ ด้วยพื้นที่ 650-930 ตารางเมตร อย่างไรก็ตาม ด้วยกฎหมายของอินเดียที่ห้ามเปิดคาเฟ่ในร้านสาขาของมูจิในอินเดีย จึงยังมีสินค้าเพียงเสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน และเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น

"ซาโตรุ มัสซึซากิ" ประธานและตัวแทนผู้อำนวยการของเรียวฮิน เคคาคุ (Ryohin Keikaku) บริษัทแม่ของมูจิกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมุ่งเน้นขยายสาขาในต่างประเทศ ซึ่งอินเดียถือเป็นตลาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียและมีศักยภาพการเติบโตสูง อีกทั้งเชื่อว่ามีชาวอินเดียจำนวนมากที่พร้อมเปิดรับสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของบริษัท

นอกจากมูจิแล้วในช่วงใกล้เคียงกันนี้เอชแอนด์เอ็มแบรนด์แฟชั่นจากสวีเดนได้ประกาศตั้งร้านแฟลกชิพในอินเดียช่วงต.ค.-พ.ย.นี้เช่นกันโดยสาขาแรกตั้งอยู่ในกรุงนิวเดลี ด้วยพื้นที่กว่า 2.3 พันตารางเมตรภายใน "ซีเลกต์ซิตี้วอล์กมอลล์" ห้างสรรพสินค้าทางตอนใต้ของเมืองนิวเดลี

ในส่วนของสินค้าจะยังคงมีสินค้าครบทุกหมวดสำหรับผู้หญิง ผู้ชาย วัยรุ่น รวมถึงเด็ก และหลังจากนี้เอชแอนด์เอ็มยังตั้งเป้าที่จะขยายสาขาในอินเดียอีกกว่า 50 สาขาในอีก 2-3 ปี

ไม่เพียงเท่านี้ ห้างซีเลกต์ซิตี้วอล์กมอลล์ ยังมีแบรนด์แฟชั่นข้ามชาติอีกแบรนด์ นั่นคือ "แก๊ป" (GAP) ที่ได้ออกตัวแซงหน้าคู่แข่งไปก่อนแล้ว ด้วยการเปิดร้านแฟรนไชส์สาขาแรกในห้างแห่งนี้ไปเมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากร่วมมือกับบริษัทอาร์วิน ไลฟ์สไตล์แบรนด์


 
โดยแก๊ปได้อาศัยข้อได้เปรียบที่มีกับวงการภาพยนตร์ของอินเดียหรือบอลลีวูด ซึ่งที่ผ่านมาดารานำหลายคนได้สวมเสื้อแก๊ปเข้าฉากในภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง เช่น "ชาห์รุค ข่าน" ซูเปอร์สตาร์คนดังของบอลลีวูด จนทำให้เกิดกระแสนิยมเสื้อฮูดของแก๊ปในช่วงยุคปี 1990 หลังจากที่เขาใส่เสื้อของแก๊ปแสดงในภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์ของอินเดีย "Kuch Kuch Hota Hai"

รวมถึง "คานกานา ราเนา" ดาราดังอีกคนที่ใส่เสื้อของแก๊ปในภาพยนตร์ที่ฉายไปเมื่อเดือน พ.ค. "โอลิเวอร์ เคย์" ผู้บริหารแบรนด์แก๊ปในอินเดียกล่าวว่า เป็นเรื่องโชคดีมากเพราะบริษัทไม่ได้จ่ายค่าสปอนเซอร์ให้กับนักแสดงหรือภาพยนตร์เลย อีกทั้งยังช่วยให้ทราบว่าสไตล์แฟชั่นของบริษัทที่เน้นสีสันสดใสเป็นสีพื้น ซึ่งมักถูกวิจารณ์ว่าตกยุคจากแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นอื่น ๆ นั้นไปได้ดีกับรสนิยมชอบสีสันจัดจ้านของชาวอินเดีย

นอกจากนี้ บริษัทยังเน้นทำตลาดเสื้อผ้าเด็กซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่ยังไม่มีคู่แข่งเป็นพิเศษ ด้วยการจัดพื้นที่ถึง 40% ของร้านสำหรับเสื้อผ้าเด็กและเด็กทารกตั้งแต่รองเท้าไปถึงชุดว่ายน้ำ ทั้งนี้ แก๊ปวางแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 40 สาขาภายในเวลา 5 ปี และตั้งเป้ารายได้ปี 2020 ไว้ที่ 156 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจค้าปลีกของอินเดียยังคงมีความท้าทายอยู่ โดยสำนักข่าว "วอลล์สตรีต เจอร์นัล" รายงานว่า ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในอินเดียกำลังประสบปัญหาขาดแคลนลูกค้า

เนื่องจากการขยายตัวของชนชั้นกลางอินเดียไม่เป็นไปตามที่ประเมินไว้เมื่อทศวรรษก่อนว่าจะมีจำนวนถึง 400 ล้านคน แต่ปัจจุบันกลับมีเพียง 10 ล้านคนเท่านั้น ส่งผลให้ห้างสรรพสินค้ากว่า 250 แห่งอยู่ในสภาพกึ่งร้าง เรื่องนี้จึงเป็นความท้าทายสำหรับแบรนด์ค้าปลีกในอินเดียที่จะต้องแก้ปัญหากันต่อไป

อ้างอิงจาก  ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
อากิโกะที เปิด 2 สาขาใ..
3,592
สเต็กเด็กแนว สร้างรายไ..
1,640
ซอห์น ฟู้ด จัดโปรแรง! ..
876
ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส ..
715
“THE GRAND MALL” ทำเลด..
571
โรบอท สเตชัน คลับ จัดโ..
548
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด