เอ็มเค สุกี้งัดโมเดลปี40รับวิกฤติ

เอ็มเค สุกี้ อิงโมเดลปี 40 รับมือสู้วิกฤติแฮมเบเกอร์ปีหน้า ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย โยกงบโฆษณา โปรโมชั่นตามสถานการณ์ ลดความเสี่ยงขยายสาขาตามดิสเคาท์สโตร์

นายสุจินต์ ชุมพลกาญจนา รองกรรมการผู้จัดหาและจัดส่งสินค้า บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ จำกัด ผู้บริหารร้านสุกี้เอ็มเค เปิดเผยถึง แผนการขยายธุรกิจ ในปีหน้าว่า ขณะนี้บริษัทได้นำบทเรียนการทำธุรกิจช่วงปี 2540 ซึ่งเป็นปี ที่เกิดวิกฤติต้มย้ำกุ้งมาวิเคราะห์ เพื่อวางแผนการทำธุรกิจของเอ็มเค ในปี 2552 โดยต้องศึกษารายละเอียดเรื่องของพฤติกรรมผู้บริโภค และปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาประกอบ เพราะสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันเปลี่ยนแปลง ไปจากช่วง 10 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า ความรุนแรงของวิกฤติจะใกล้เคียงกัน
 

"แนวทางหลักๆ ที่ถูกนำมาใช้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างแรงงาน ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ลดการสูญเสียทุกขั้นตอนการทำงาน โยกงบการทำตลาดตามความเหมาะสมระหว่างการโฆษณากับโปรโมชั่น ไม่มีการลดจำนวนพนักงาน และใช้เงินลงทุนอย่างระมัดระวังในการขยายสาขาทั้งในประเทศ และต่างประเทศในรูปแบบของแฟรนไชส์



 

ผุดสาขาลดลงตาม ศก.

นายสุจินต์ กล่าวต่อว่า การขยายสาขาของเอ็มเค สุกี้ จะขยายตามการขยายตัวของดิสเคาท์สโตร์รายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น บิ๊กซี โลตัส คาร์ฟูร์ ซึ่งตามแผนที่วางไว้ประมาณ 25 สาขา หากดิสเคาท์สโตร์ทุกรายไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ต้องยอมรับว่า ปริมาณการเปิดสาขาในปี 2552 ลดจำนวนลง ตามภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จากเดิมที่ในปีนี้เอ็มเค สุกี้ขยายสาขาเพิ่มถึง 38 แห่งทั่วประเทศ และสิ้นปีนี้จะมีสาขารวม 290 สาขาและคาดว่าจะถึง 300 สาขาในเดือนมีนาคม-เมษายนปีหน้า ขณะที่การขยายสาขาแบบสแตนอะโลน คงไม่มี เนื่องจากใช้งบลงทุนสูงเฉลี่ยต่อสาขา 8-10 ล้านบาท ที่สำคัญสัดส่วน 2 ใน 3 ของพื้นต้องทำเป็นที่จอดรถ จึงไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน

" ส่วนการขยายในต่างประเทศอยู่ระหว่างการเจรจา กับคู่ค้าในประเทศเวียดนาม แต่ไม่แน่ใจว่า จะสามารถเปิดได้ตามแผนหรือไม่เพราะผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก ทำให้สถานการณ์ในประเทศเวียดนามได้รับผลกระทบค่อนข้างมากเช่นเดียวกัน จากปัจจุบันที่เอ็มเคมีสาขาหลักๆ อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นจำนวน 19 สาขา "

 

ลูกค้าใช้บริการลด 10%

ในส่วนของ ยาโยอิ แฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นนั้น นายสุจินต์ กล่าวว่า ปีหน้ามีแผนที่ขยายสาขาอีก 10 สาขาตามห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศจากที่มีอยู่ 32 สาขา ซึ่งปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ราคาไม่สูง เหมาะกับกำลังซื้อของผู้บริโภค ขณะเดียวกันในปีหน้าบริษัทจะให้ความสำคัญกับการบริการในรูปแบบดิลิเวอรี่ เพื่อรองรับกับสไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยร่วมกับบัตรเครดิตต่างๆ มากขึ้น
 

"ผลประกอบการในช่วงเดือนกันยายน ที่ผ่านมายอดขายและจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการ ลดลง 10% ถือเป็นสัญญาณที่ทำให้ต้องวางแผนเพื่อรับมือกับวิกฤติที่เกิดขึ้นในปีหน้า" นายสุจินต์ กล่าวและว่า เอ็มเค ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย โดยล่าสุดได้รับป้ายรับรองจากสถาบันอาหารว่า เป็นร้านอาหารที่ปลอดผงชูรส











อ้างอิงจาก กรุงเทพธุรกิจ