6.7K
20 มกราคม 2552

บอนกรุ๊ปตั้งเป้ายอดขายโตแค่7% ลุ้นส่งออกภาพยนตร์รายได้ใหม่ 
 



เศรษฐกิจใน-นอกขาลง ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกกระทบถ้วนหน้า "บอนกรุ๊ป"ประกาศเป้ายอดขายปีนี้โตไม่เกิน 7% เหตุกำลังซื้อหด ลุ้นท่องเที่ยวไทยฟื้นช่วยประคองธุรกิจ ขณะที่รุกเงียบธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟในดูไบ ชิมลางตั้งบริษัทสร้างภาพยนตร์ส่งออกช่วยดันยอด


นางสาวธีรยา สีหาฤทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แองโกล สวิส เทรดดิ้ง(ประเทศไทย)จำกัด ในเครือบริษัท บอนกาแฟ(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ปัจจุบันเครือบอนประกอบด้วย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัทบอนกาแฟฯ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ เป็นโรงงานผลิตกาแฟสดทั้งชนิดเม็ดและบด เครื่องดื่มชาผงพร้อมชง รวมถึงอุปกรณ์สำหรับธุรกิจร้านกาแฟ จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยในประเทศมีกลุ่มลูกค้าหลักคือ  ร้านขายกาแฟแบรนด์ดังตามห้าง ร้านกาแฟทั่วไป ตลาดจนร้านขายอาหารทั่วประเทศ ส่วนตลาดส่งออก อาทิ กัมพูชา ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ ฮ่องกง ดูไบ และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น
 


สำหรับตลาดต่างประเทศบริษัทบอนฯยังมีธุรกิจแฟรนไชส์ร้าน "บอนกาแฟ"ด้วย ซึ่งได้เข้าไปขยายธุรกิจนี้ในดูไบเป็นแห่งแรก เริ่มในปี 2551 ที่ผ่านมา ขณะนี้มีเกือบ 10 สาขา บริษัทยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจส่งออกเมล็ดกาแฟไปยังสหรัฐอเมริกา ในลักษณะขายส่งให้กับร้านกาแฟดังๆ หากผู้บริโภคติดใจในรสชาติ และธุรกิจประสบผลสำเร็จมีแผนที่จะขยายธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟของเครือในสหรัฐฯเป็นลำดับถัดไป


ส่วนบริษัทที่สองคือ บริษัท แองโกล สวิส เทรดดิ้ง(ประทศไทย)ฯ เป็นบริษัทนำเข้าสินค้าเข้ามาจำหน่ายในไทย มีผลิตภัณฑ์หลักคือ เครื่องชงกาแฟ เครื่องจำหน่ายกาแฟสดแบบอัตโนมัติชนิดหยอดเหรียญ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อความงาม และพลาสเตอร์ยาติดบรรเทาอาการปวด


และบริษัทที่สามที่เพิ่งตั้งในปีที่ผ่านมาคือ บริษัท แองเจิล แอนด์ แบร์ จำกัด เป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์ และรับออกาไนซ์งานต่างๆ ซึ่งล่าสุดบริษัทได้สร้างภาพยนตร์ไทยเรื่อง bitter/sweet โดยดึงดาราไทยชั้นนำเช่น ทาทา ยัง ตอง -ภครมัย มะหมี่ และดาราฮอลลีวูดเข้าร่วมแสดง ถ่ายทำเสร็จเมื่อเดือนตุลาคม 251 และได้ส่งเข้าร่วมงานแสดงภาพยนตร์ที่ดูไบ และเยอรมนีเมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุดขายลิขสิทธิ์ได้แล้วในสหรัฐฯมีกำหนดฉายเร็วๆ นี้


"หนังเรื่องนี้ถือเป็นการชิมลางในธุรกิจบันเทิง ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัท โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับกาแฟ มีฉากประกอบทั้งในบริษัทเราเอง คอฟฟี่ช็อปของบริษัท ไร่กาแฟของชาวบ้านซึ่งเราตั้งใจโฆษณาแฝงให้ผู้ชมเห็นถึงคุณภาพกาแฟไทย และความงามของสถานที่ต่างๆ เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวด้วย หากหนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จเรามีแผนที่จะสร้างเรื่องที่สองสามตามมา ขณะเดียวกันเรายังได้รับความไว้วางใจจากบริษัทหนึ่งของฮอลลีวูดให้เป็นผู้จัดหาฉาก จัดหาคน และอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งจถ่ายทำเร็วๆ นี้"


นางสาวธีรยา กล่าวถึงรายได้หลักของบอนกรุ๊ปว่า ปัจจุบัน มาจากธุรกิจส่งออกสินค้าและแฟรนไชส์สัดส่วน 20% อีก 80% มาจากธุรกิจนำเข้าสินค้ามาจำหน่ายในประเทศ โดยในจำนวนนี้มีรายได้หลักจากการจำหน่ายเครื่องชงกาแฟสัดส่วนกว่า 50% ที่เหลือเป็นสินค้าอื่นๆ ช่วงที่ผ่านมาในแต่ละปีเครือจะตั้งเป้าอัตราการขยายตัวของยอดขายที่ 20% ซึ่งส่วนใหญ่ได้ตามเป้า แต่ในปี 2551 ที่ผ่านมาพลาด โดยขยายตัวเพียง 5% สาเหตุสำคัญเนื่องจาก การปิดสนามบิน ทำให้สินค้าของบริษัทไม่สามารถนำเข้าจำหน่ายได้ ขณะที่เป็นการปิดสนามบินช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเป็นลูกค้าหลักของโรงแรมที่ดื่มกาแฟได้เดินทางออกไป และไม่มีกลุ่มใหม่ๆเข้ามา ทำให้กระทบต่อยอดขายกาแฟของบริษัทอย่างมาก แต่หวังในปีนี้ท่องเที่ยวจะฟื้นตัว


สำหรับในปี 2552 นี้เครือตั้งเป้าอัตราการขยายตัวของยอดขายที่ 5% โดยกลยุทธ์ฝ่าปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ ไม่รับคนเพิ่ม(พนักงานประมาณ 700 คน) ใช้คนที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ขยายไลน์การลงทุนใหม่ แต่เน้นขายสินค้าไลน์เดิมๆ และเน้นบริการหลังการขาย


อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
อากิโกะที เปิด 2 สาขาใ..
5,918
สเต็กเด็กแนว สร้างรายไ..
2,712
ซอห์น ฟู้ด จัดโปรแรง! ..
1,184
ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส ..
779
“THE GRAND MALL” ทำเลด..
638
ธงไชย ผัดไทย ร่วมกับคน..
620
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด