คุณธนกร สังขรัตน์ รองนายกสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ ได้กล่าวว่า ธุรกิจเฟรนไชส์ที่กำลังมาแรงที่สุดในขณะนี้ คือ ธุรกิจแฟรนไชส์ด้านการศึกษา เพราะประเทศไทย กำลังก้าวสู่การเป็นหนึ่งในสมาชิกอาเซียน สถาบันการสอนพิเศษต่าง ๆ  จึงช่วยเพิ่มศักยภาพของบุคลากรได้ โดยเฉพาะการตลาดที่เกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ เพราะเราต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางในการรวมตัวของเออีซี (AEC)

 

“การทำธุรกิจในยุคเออีซี ควรเน้นการทำธุรกิจเกี่ยวกับการศึกษา ตั้งแต่การเริ่มพัฒนาศักยภาพของเด็ก ในทุกด้าน ผลักดันให้เด็กมีแนวทางในการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเรียกว่า การพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญาของเรา”

 

รองนายกสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ ยังได้กล่าวถึงตลาดของกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีมากขึ้นในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการบริการ การอุปโภคบริโภค ควรเจาะตลาดแฟรนไชส์นี้ให้มากยิ่งขึ้นด้วย และยังแนะนำให้มองภาพรวมของธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งครอบคลุมประชากรจำนวน 600 ล้านคนในอาเซียน เพราะอีกไม่นาน เมื่อเกิดการรวมตัวของกลุ่มตลาดขนาดใหญ่ ทุกสิ่งจะเชื่อมโยงถึงกันหมด

 

คุณธนกร สังขรัตน์ ได้เล่าว่า ตนได้เดินทางไปเยือนประเทศเมียนมา พบว่า แฟรนไชส์ที่กำลังโด่งดังในประเทศเมียนมา ชื่อว่า ‘แฮปปี้’ เป็นธุรกิจการขายติ่มซำ ซาลาเปา ก๋วยเตี๋ยว ในราคาไม่แพง เพียง 35-40 แต่สามารถนำแฟรนไชส์ขึ้นในห้างสรรพสินค้าได้ มีจำนวนถึงสิบสาขาเลยทีเดียว แสดงให้เห็นว่า ถ้าคุณจัดการระบบ การดำเนินการของคุณได้ดี ก็สามารถสร้างแฟรนไชส์จากสิ่งใกล้ตัว ที่ดูเรียบง่าย ให้เกิดมูลค่าได้

 

ข้อดีอีกอย่างของการทำธุรกิจแฟรนไชส์ คือ แฟรนไชส์ มีนวัตกรรมที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดี แถมมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและให้ความรู้ จึงสามารถรู้วิธีบริหารแฟรนไชส์ให้อยู่รอด อีกทั้งได้ความมีชื่อเสียงจากแบรนด์อีกด้วย

 

“ถ้าคุณจะซื้อแฟรนไชส์สักตัว แนะนำให้ซื้อแฟรนไชส์ ที่วมีราคาแพงสักนิด เพราะจะสามารถดูระบบการทำงานของแฟรนไชส์ที่มีคุณภาพ นำความรู้ไปต่อยอด พัฒนาเป็นธุรกิจของตนเอง”

 

คุณธนกร สังขรัตน์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ เหมือนต้นไม้ ต้องรดน้ำ พรวนดินให้แก่ธุรกิจ ทำธุรกิจแฟรนไชส์ตามแบบที่ตัวเองสนใจ และถนัดจริง ๆ ใส่ความมุ่งมั่น รวมถึงความเอาใจใส่ลงไปในงาน จึงจะประสบความสำเร็จครับ

อ้างอิงจาก   smartsmeexpo.com