เอสแอนด์พีเปิดเกมแฟรนไชส์เร่งเครื่องเปิดร้านใหม่ นำร่องสาขาดอนเมือง ปีหน้าเตรียมทุ่ม 300 ล้าน เพิ่มกำลังการผลิตอาหารแช่แข็ง-เบเกอรี่ พร้อมโฟกัสจัดการต้นทุน พัฒนาสินค้า สร้างแบรนด์ ดันยอดขาย เล็งเปิดสาขาในเมียนมาย้ำภาพรีจินอลแบรนด์

 

นายกำธร ศิลาอ่อน รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสสายการผลิตและซัพพลายเชน บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ไม่ดีนัก ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่าย ทำให้ยอดขายเอสแอนด์พีในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาโต 4% จากตั้งเป้าโต 2 หลัก และขณะนี้มู้ดการจับจ่ายโดยรวมก็ยังไม่กลับสู่สภาวะปกติ ส่วนนโยบายช็อปช่วยชาติ คาดว่าจะช่วยปลุกบรรยากาศการจับจ่ายได้

 

สำหรับแผนการดำเนินงานจากนี้ไป บริษัทมีแผนลงทุนเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง จากปัจจุบันมี 480 สาขา โดยปีหน้าได้เตรียมงบฯกว่า 200 ล้านบาท สำหรับรีโนเวตสาขาเดิมและขยาย 30-40 สาขา โฟกัสทำเลที่มีศักยภาพ มีทราฟฟิกสูง
 

ภาพจาก snpfood.com

รวมทั้งจะใช้โมเดลแฟรนไชส์เพื่อช่วยให้สามารถขยายสาขาได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งล่าสุดได้เริ่มให้สิทธิแฟรนไชส์ 1 แห่งในสนามบินดอนเมือง ควบคู่กับการบริหารจัดการต้นทุนภายในให้ดีขึ้น พัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น รวมทั้งสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงจากแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาต่อเนื่อง และตลอดทั้งปี 2560 จะมีแคมเปญต่าง ๆ ออกมาเป็นระยะ ๆ ไม่ต่ำกว่า 10-15 แคมเปญ

 

นอกจากนี้ ปีหน้ามีแผนลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเบเกอรี่ในโรงงานบางนา และกลุ่มอาหารแช่แข็งที่โรงงานย่านสุขุมวิท เพื่อรับการเติบโตในอนาคต จากล่าสุดที่ได้ใช้งบฯกว่า 30 ล้านบาทติดตั้งโซลาร์รูฟขนาด 510 กิโลวัตต์ นำร่องบนหลังคาโรงงานเบเกอรี่บางนา เพื่อเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าในการผลิตสินค้า ก่อนจะพิจารณาลงทุนเพื่อติดตั้งในโรงงานอื่นเพิ่ม

 

ด้านทิศทางในต่างประเทศที่คิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว10-15%นางภัทรา ศิลาอ่อน ประธานกรรมการ บริษัท เอส แอนด์ พีฯกล่าวว่า บริษัทต้องการให้เอสแอนด์พีเป็นเชนร้านอาหารและเบเกอรี่ระดับโกลบอล

โดยจะเน้นขยายสาขาในต่างประเทศมากขึ้น ระยะแรกจะเน้นในอาเซียน โดยใช้ "เอส แอนด์ พี" เป็นแบรนด์หลัก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่ขณะนี้อยู่ระหว่างหาพาร์ตเนอร์เพื่อเปิดสาขาในเมียนมา จากปัจจุบันเปิดในกัมพูชา2 แห่งและพร้อมจะขยายเพิ่ม จากเดิมที่บริษัทเน้นการใช้แบรนด์ ภัทรา และสุดาไปเปิดสาขาในต่างประเทศ เช่น ในอังกฤษ
 

ภาพจาก snpfood.com

 

ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ผ่านมาเอสแอนด์พีได้รายงานผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2559) ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯซึ่งพบว่า เอสแอนด์พีมีรายได้ 5,737.78 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 3.9% จากการเปิดสาขาใหม่ และการทำกิจกรรมการตลาดส่งเสริมการขาย

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารอยู่ที่ 2,193.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.74% จากการออกสื่อโฆษณาและกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อเพิ่มยอดขาย ค่าแรงงาน และค่าเช่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งปัจจัยจากต้นทุนวัตถุดิบอาทิ เนื้อสัตว์ วัตถุดิบผลิตขนมไหว้พระจันทร์ที่สูงขึ้น ทำให้กำไรสุทธิลดลง

อ้างอิงจาก  ประชาชาติธุรกิจ