99K
27 เมษายน 2552
"มหาราชา เมี่ยงปลาเผา" เมนูสุขภาพทำเงิน...ฝ่าเศรษฐกิจ
 
 
 
ยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองวันนี้ หลายคนตกงานและอาจจะกำลังมองหาอาชีพใหม่ๆ เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว "มหาราชา เมี่ยงปลาเผา" แม้จะเป็นกิจการเล็กๆ แบบพอเพียง แต่เป็นทางเลือกอาชีพที่สร้าง รายได้ไม่น้อย กระทั่งพัฒนาสู่แฟรนไชส์
 
"มหาราชา เมี่ยงปลาเผา" เป็นกิจการของสองพี่น้อง "นายสมบัติ พยอมสวย" และ "นางประดับพร พยอมสวย" พี่สาว ทั้งคู่เริ่มสร้างกิจการนี้ในปี 2550 โดยเริ่มขายเมี่ยงปลาเผาหลังจากเลิกราอาชีพรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวหน้าโรงงาน ที่อำเภอบ่อวิน จังหวัดชลบุรี
 
ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าเห็นร้านข้างเคียง ทำเมี่ยงปลาเผาขายดี มีรายได้สูง ใช้เวลาไม่นานก็ขายหมด
 
"ระยะแรกทดลองทำเป็นเตาปิ้ง วันแรกๆ ขายได้ 5-6 ตัวเท่านั้น มีปลาตายเหลือเป็นร้อยตัว คิดท้อใจจะเลิกขาย แต่ฮึดสู้ใหม่ ปรับเปลี่ยนจากเตาเผาเป็นร้านรถเข็นและพยายามปรับปรุงน้ำจิ้ม ใช้เวลา 5-6 เดือนจึงเริ่มลงตัว

 
หัวใจสำคัญอยู่ที่ "สูตรน้ำจิ้มรสเด็ด" โดยมีให้เลือก 3 รสคือ เปรี้ยว เค็ม หวาน และมีเคล็ดลับรสจัด (ออกเผ็ด) จากนั้นปลาเผาก็เริ่มขายดีขึ้นเรื่อยๆ จากวันละ 80 ตัว เพิ่มเป็น 100 ตัว และ 120 ตัว มีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
 
อย่างไรก็ตามบริเวณตลาดนัดเทศบาลเมืองชลบุรี มีร้านเมี่ยงปลาเผาอื่นๆ ทยอยเปิดเพิ่มกว่า 10 ร้าน จึงคิดหากลยุทธ์สู้กับคู่แข่ง กลยุทธ์แรกที่ใช้คือ โปรโมชั่น 10 ตัวแถม 1 ตัว ต่อมาทุกร้านก็หันมาใช้โปรโมชั่นนี้เหมือนกันหมด
 
สมบัติบอกว่า จึงคิดขยายฐานลูกค้าด้วยการขายแฟรนไชส์ ในราคา 55,000 บาท ซึ่งประกอบด้วยรถเข็นพร้อมอุปกรณ์ปิ้งปลาสเตนเลส 15 ชุด (15 ตัว) หม้อแปลงไฟฟ้า 220 โวลต์เป็น 12 โวลต์ ราคา 40,000 บาท และค่าสูตรน้ำจิ้ม 15,000 บาท เบ็ดเสร็จแล้วลูกค้านำไปประกอบอาชีพได้เลย โดยใช้ทุนหมุนเวียนอีกประมาณวันละ 3 หมื่นบาท สำหรับการปิ้งปลา 30 ตัว
 
"เพิ่งจะเริ่มขายแฟรนไชส์เมื่อ 3-4 เดือนเท่านั้น มีลูกค้าประมาณ 10 รายทั้งในชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ผมต้องการจะให้คนที่ต้องการทำมาหากินจริงๆ เพราะแฟรนไชส์ทั่วๆ ไปจะไม่ยอมให้สูตรไปทำเอง จะให้น้ำจิ้มที่ปรุงเสร็จแล้ว แต่ที่นี่บอกสูตรให้เลย แต่ขอขายเป็นเงินสดเท่านั้น" สมบัติเล่าด้วยความปลื้มใจ พร้อมทั้งสรุปว่า
 
ปลาเผาเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เครื่องเคียงมีผักหลายชนิดให้เลือก รับประทานแล้วไม่อ้วน จึงกลายเป็นเมนูอาหารยอดฮิตของลูกค้าทุกระดับ ทั้งครอบครัวและวัยรุ่น
 
พร้อมทั้งมีเทคนิค เคล็ดลับจูงใจลูกค้าให้หวนกลับมาอุดหนุนครั้งต่อไปอีก คือ "ปลาสด รสชาติอร่อย น้ำจิ้มรสเด็ด กลมกล่อม และบริการประทับใจ"
 
ทุกวันนี้ มหาราชา เมี่ยงปลาเผา เปิดบริการตั้งแต่ประมาณ 4-5 โมงเย็นจนถึงเที่ยงคืน สามารถนั่งลิ้มรสที่ร้าน หรือซื้อกลับบ้านได้ด้วย ปลาที่ใช้ย่างมี 2 ชนิด คือ ปลากะพง และปลาทับทิม ราคาแตกต่างกันไปตามขนาดของปลา เช่น ปลาทับทิมขนาด 9 ขีดถึง 1 กิโลกรัมขายดีที่สุด ราคาประมาณ 180-200 บาท

ส่วนปลากะพงขนาดเดียวกันนี้ ราคา 220-240 บาท หรือปลาขนาด 1.1 กิโลกรัม ปลากะพง 250 บาท ปลาทับทิม 220 บาท ขนาด 1.2 กิโลกรัม ปลากะพง 270-280 บาท ปลาทับทิม 240 บาท

 
ตอนนี้ก็ยังมีโปรโมชั่นซื้อ 10 ตัว แถม 1 ตัว
 
ส่วนใหญ่ราคาปลาเผาแต่ละร้านไม่ต่างกัน จึงต้องมีเทคนิคสร้างความแตกต่างให้ลูกค้าประทับใจ คือต้องใช้ปลาเป็นๆ ที่เลี้ยงในกระชัง ไม่ใช้ปลาจากบ่อดินเพราะมีกลิ่นดิน เมื่อเผาสุก เนื้อปลาจะหอม รสนุ่ม น้ำจิ้มจะออกรสจัดแต่กลมกล่อม คือเปรี้ยว หวาน เค็ม จะใช้พริกขี้หนูสวนสุกๆ เพราะมีกลิ่นหอมและมีสีสวย
 
ในช่วงวันจันทร์-พฤหัสบดี ขายได้วันละ 200-250 ตัว แต่ถ้าเป็นวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ขายดีกว่า เฉลี่ยวันละ 300 ตัว เคยขายได้สูงสุดในช่วงเทศกาลวันละ 500 ตัว สร้างรายได้วันละกว่า 1 หมื่นบาท
 
"มหาราชา เมี่ยงปลาเผา" เป็นอีกตัวอย่างของคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความพยายามและตั้งใจจริง สร้างอาชีพใหม่ให้ตนเอง สามารถยืนหยัดอยู่ได้ทั้งในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้นหรือขาลง
 
 
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
งานมอบประกาศนียบัตรธุร..
1,398
“นาด้า” จัดแข่งขันจินต..
746
กำหนดการแข่งขันชิงแชมป..
647
ธงไชย ผัดไทย ร่วมลุ้นฟ..
540
ข่าวดี! Yale Smart Sho..
520
ยิ่งใหญ่! Smart Brain ..
514
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด