เชนอาหารดังปั้นยอดคนรุ่นใหม่ 'ร้านสีฟ้า'รีแบรนด์ให้ทันสมัยขณะที่เชียงการีล่าโหมจัดโปรโมชัน 

2 เชนอาหารดังเมินเศรษฐกิจผันผวน ทำกำลังซื้อคนรุ่นใหม่ทรุด "ร้านสีฟ้า" เดินหน้าปรับโมเดล เน้นทันสมัย ย้ำภาพลักษณ์ขยายฐานลูกค้านิวเจเนอเรชัน หวังสร้างรีเลชันระยะยาว พร้อมเสริมทัพเบเกอรี่และราเมนต่อยอด ขณะที่ "เชียงการีล่า" จ่ออัดโปรโมชันเพียบ ทั้งไอศกรีมบาทเดียว ติ่มซำ เทศกาลปูขนผ่านร้านคิทเช่น หวังกระตุ้นยอดขายหลังพิษเศรษฐกิจดันยอดขายตกแล้วตกอีก

นายกร รัชไชยบุญ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ห้องอาหารสีฟ้า จำกัด ผู้บริหารร้านอาหารไทย-จีน ภายใต้ชื่อ สีฟ้า เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาจะเกิดความผันผวนและส่งผลกระทบทำให้ลูกค้าของร้านสีฟ้าหายไปบ้าง แต่บริษัทจะเดินหน้าสร้างแบรนด์อิมเมจให้กับร้านสีฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยจุดแข็งที่เปิดให้บริการมากว่า 70 ปีและมีฐานลูกค้าเก่าแก่ แต่อย่างไรก็ดีเป้าหมายของร้านคือ การสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี เพื่อให้ผูกเป็นลูกค้าระยะยาวในอนาคต ดังนั้นบริษัทจึงรีแบรนด์ร้านสีฟ้า ให้มีภาพที่ทันสมัย โดยการปรับโมเดลร้านใหม่ ให้มีตำแหน่งที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันเริ่มทำการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเพื่อสร้างการรับรู้

ปัจจุบันสีฟ้ามีลูกค้าที่เป็นนักเรียน นักศึกษา คนเริ่มทำงานประมาณ 30% ของลูกค้าทั้งหมด จากเดิมที่เคยมีสัดส่วน 50% ซึ่งการรีโนเวตภาพลักษณ์ใหม่ครั้งนี้ เชื่อว่าจะกระตุ้นให้ลูกค้ากลุ่มนี้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น เพราะเชื่อว่าเป็นลูกค้ากลุ่มที่มีศักยภาพ อีกทั้งที่ผ่านมาในธุรกิจร้านอาหารมีแบรนด์ใหม่ๆเข้ามาเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น

"เชื่อว่ากลุ่มลูกค้าวัยรุ่นจะกลับมา แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องสร้างให้เขารู้จักเรา และเข้าใจเรา" นายกรกล่าวและว่า แม้การรีแบรนด์สีฟ้าในครั้งนี้จะไม่ได้ทำแบบ 360 องศา แต่เป็นการรีแบรนด์ให้มีความชัดเจนมากขึ้น ด้วยการปรับรูปแบบร้าน เมนูอาหาร แคมเปญต่างๆให้สอดรับกัน

ปัจจุบันร้านสีฟ้า มีสาขารวม 19 แห่ง แบ่งเป็นร้านที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า 60% ส่วนอีก 40% เป็นร้านสแตนด์อะโลน โดยในปีนี้เปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง คือสาขาสมาคมศิษย์เก่าแพทยศาสตร์ ศิริราช และสาขาศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร



นายกร กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จาก 3 กลุ่มธุรกิจ คือ ร้านอาหารสีฟ้า 60% กลุ่มสีฟ้า ลุมพินี 25% บริการอาหารเครื่องดื่มให้กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แบรนด์บลูสไปซ์ และร้านอิ่มไทยราเมน ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มพร้อมขยายการลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ จากปัจจุบันที่มีอยู่สาขาเดียวที่ไลฟ์ เซ็นเตอร์ ลุมพินี และอีก 15% เป็นรายได้ที่มาจากสีฟ้า แพททิสเซอรี่ ร้านจำหน่ายเบเกอรี่ ที่เดิมผลิตแซนด์วิชสำหรับบริการบนสายการบินไทยแอร์เอเชีย ทั้งนี้ในเดือนหน้าจะเริ่มขยายร้านเบเกอรี่ของตนเองควบคู่ไปกับร้านสีฟ้า โดยสาขาแรกคือสาขาสยามสแควร์ ก่อนที่จะเปิดให้บริการร้านแบบสแตนด์อะโลนต่อไป

ด้านนายบัญชา พจชมานะวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัตตาคารแกรนด์เชียงการีล่า จำกัด กล่าวว่า ในกลุ่มลูกค้าดั้งเดิมของภัตตาคารเชียงการีล่าไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจเท่าใดนัก แต่สำหรับลูกค้าในเชียงการีล่า คิทเช่น ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษา คนเริ่มทำงาน มียอดขายลดลง 5% อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการรักษายอดขายและกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ทางร้านจัดโปรโมชันต่อเนื่อง ทั้งติ่มซำราคาพิเศษ 18-24 บาทต่อเข่ง, อร่อย 1 บาท กับไอศกรีม และในเดือนหน้าจะมีการจัดรายการเทศกาลปูขนด้วย

"แม้ขณะนี้จำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการจะไม่ลดลง แต่ยอดใช้จ่ายลดลงเฉลี่ย 8,000 บาทต่อโต๊ะ จากเดิมที่เคยทานเฉลี่ย 10,000 บาทต่อโต๊ะ ส่วนในเชียงการีล่า คิทเช่น เฉลี่ย 160 บาทต่อคน ซึ่งการจัดกิจกรรมโปรโมชันอย่างต่อเนื่องเชื่อว่าจะทำให้กลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นและทำให้บริษัทรักษายอดขายได้เท่ากับปีก่อน หรืออาจจะเติบโตได้อย่างน้อย 5% จากเดิมที่ตั้งเป้าเติบโต 5-10%" นายบัญชากล่าว


อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ