อยากรวย ทำธุรกิจอะไรดี ??
 

คำถามแรกของนักธุรกิจมือใหม่ ที่กำลังแสวงหาความร่ำรวยจากการทำธุรกิจ ธุรกิจนั้นมีมากมายหลากหลาย เราสามารถเลือกได้ว่า ธุรกิจแบบไหนเหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด เมื่อเราต้องการเป็นนักธุรกิจสิ่งสำคัญ เราจะต้องรู้ว่าเราชอบอะไร อะไรที่เหมาะสมกับเรา หรือเรามีความหลงใหลกับสิ่งใด หาตัวเองให้เจอค่ะ 

 

และถ้าคำตอบของคุณคือ ชอบเรื่องสวยๆงามๆ มีเงินลงทุนไม่มาก ไม่มีหน้าร้าน ไม่อยากลงทุนจ้างพนักงาน หรือ อยากทำเป็นอาชีพเสริม อยากหารายได้เสริม อยากมีรายได้พิเศษ ธุรกิจเครื่องสำอาง ธุรกิจครีม สร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง จะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของคุณในยุคนี้

วันนี้เราเอาใจท่านผู้อ่านทุกท่าน ที่อยากมีธุรกิจ ครีม เครื่องสำอาง มีแบรนด์ครีมเป็นของตัวเอง เราจะพาท่านผู้อ่านไปพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เจ้าของโรงงานรับผลิตครีมชื่อดัง ที่รับสร้างแบรนด์ครีมให้กับดารา นักธุรกิจในวงการเครื่องสำอางหลายท่าน จนประสบความสำเร็จมามากมายแล้ว

จนผู้คนเรียกกันติดปากกว่า ครีมหมอยูมิ พญ.ธวลิดา เวชชวณิชย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง แพทย์ที่ปรึกษาด้านผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ครีมชั้นนำระดับสากลกรรมการบริหาร หัวหน้าทีมวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์โรงงานรับผลิตครีม Bangkok Beauty LAB โรงงานรับผลิตครีม เครื่องสำอาง สร้างแบรนด์ครีม โดยแพทย์ผิวหนัง ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพครีม The Best Quality Product ในงาน Asian Award 2017

ทางคุณหมอแนะนำว่า การทำธุรกิจครีม เครื่องสำอาง กับโรงงานที่น่าเชื่อถือ น่าจะเป็นธุรกิจที่ปลอดภัย ความเสี่ยงต่ำที่สุดในยุคนี้ และยิ่งใครที่มีใจรักในเครื่องสำอาง ความงามอยู่แล้วเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็จะยิ่งสนุกเพราะเครื่องสำอาง จะมีลูกเล่น มีนวัตกรรมใหม่ๆ มีสารactive นู้นนี่นั้นต่างๆมากมาย เข้ามาช่วยตอบโจทย์ด้านความงามได้หลายรูปแบบ

และที่สำคัญไม่ว่าคุณต้องการจะทำจริงจัง หรือทำเป็นอาชีพเสริม คุณสามารถลองตลาดด้วยเงินเริ่มต้นที่หลักพัน หลักหมื่นได้ สามารถทำตลาดด้วยการใช้ social network ได้ โดยไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องเสียค่าเช่าร้าน ค่าน้ำไฟ ค่าพนักงาน

สิ่งเหล่านี้คือตัวเงินที่คุณต้องจ่ายทั้งนั้น การขายเครื่องสำอางออนไลน์หรือแม้แต่ ออฟไลน์ในกรณีที่คุณมีหน้าร้านอยู่แล้ว จะทำให้คุณได้กำไรเพิ่มขึ้น มีเงินเก็บเพิ่มขึ้น เพราะสามารถลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปได้

อีกทั้งเครื่องสำอางมีอายุการเก็บที่ยาวนาน ประมาณ 3-5 ปีแล้วแต่ชนิดถ้าเก็บในอุณหภูมิห้อง ไม่มีเน่า ไม่มีเสีย เหมือนของสดที่อายุการเก็บไม่นานอยู่ได้แค่เป็นหลักอาทิตย์ ดังนั้น คุณสามารถค่อยๆศึกษาหาตลาดและค่อยๆขายไปได้เรื่อยๆ ไม่บีบตัวเอง ไม่ต้องบังคับตัวเอง ว่าถ้าขายไม่ได้แล้วจะขาดทุน คุณกำไรแน่นอนอยู่แล้ว แต่เพียงแต่ว่ากำไรเร็วหรือช้าเท่านั้น 

 

แล้วขายเครื่องสำอางอย่างไรให้รวย ?
 

เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนมักตั้งคำถามกับตัวเอง เมื่อตอนเริ่มทำธุรกิจขายเครื่องสำอางออนไลน์ เห็นคนโน้นทำแล้วดี คนนี้ทำก็รวย เราก็อยากรวยบ้าง อยากขายให้ได้เยอะๆปังๆ มันมีหลักการอะไรที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ

ทางคุณหมอยูมิและทีมฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาดของโรงงานรับผลิตครีม Bangkok Beauty LAB แนะนำเราเลยว่า ถ้าอยากทำธุรกิจครีม เครื่องสำอาง สร้างแบรนด์ครีมเอง แล้วประสบความสำเร็จ มีกฎเหล็ก 10 ข้อที่นักธุรกิจขายครีมต้องรู้ คือ
 

1. คุณภาพสินค้า อย่างแรกเลย ไม่ว่าจะขายสินค้าอะไร คุณภาพสินค้าที่ดี มีมาตรฐาน ใช้แล้วปลอดภัย ไม่มีสารอันตราย เป็นสิ่งสำคัญมาก ควรเลือกโรงงานรับผลิตครีม เครื่องสำอางที่ได้มาตรฐาน มีแล็ป และทีมวิจัยผลิตภัณฑ์ ที่มีใบรับรองจากหน่วยงานราชการว่าปลอดภัย

อย่างโรงงานรับผลิตครีมและเครื่องสำอาง  Bangkok Beauty LAB ก็จะมีเอกสารนำเข้าสาร เอกสารทดสอบความปลอดภัยจากหน่วยงานราชการ และ เอกสารทดสอบครีมและเครื่องสำอางโดยแพทย์ผิวหนัง ให้ลูกค้าอยู่แล้ว

ดังนั้นลูกค้า นักธุรกิจที่มาผลิตครีม เครื่องสำอาง กับทางโรงงาน รับผลิตครีม Bangkok Beauty LAB จะสามารถปั้ม หรือติดฉลากข้างขวดได้ว่า Dermatologic Test ทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง หรือ ปราศจาก สารอันตรายได้ ทำให้เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าได้คะ 
 

2. Display และ วิธีการนำเสนอสินค้า อันนี้สำคัญมากๆ ... เพราะถ้าของเราดีแล้ว เราจะทำอย่างไร ให้คนอื่นเขารู้ว่าของเราดีด้วย สำคัญที่สุดคือ เราต้องใส่ใจกับวิธีการ display สินค้า และ นำเสนอมันให้ออกมาดี + หลากหลายที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ พยายามสร้างเนื้อหาที่สดใหม่ไม่ซ้ำ ถ่ายรูปบ้าง ถ่ายvdoบ้าง ทำ clip บ้าง ทำรีวิวบ้าง สลับๆวิธีการนำเสนอไป

แล้วหาจุดที่ลูกค้าคุณชอบว่าการนำเสนอแบบไหนมันโดนลูกค้าคุณแล้วก็พัฒนาตรงจุดนั้น ถ้าใครทำพวกนี้เองเป็น ก็จะประหยัดเงิน ประหยัดเวลาไปได้เยอะ แต่ถ้าใครทำไม่เป็น ก็สามารถจ้างทางโรงงานรับผลิตครีม Bangkok Beauty LAB ทำให้ก็ได้คะ

เพราะทางโรงงานมีทีมช่วยดูแลด้านการตลาด ทำAds โฆษณา display ให้ลูกค้าด้วย การทำ display จะเป็นการสื่อ และบอกให้ลูกค้าเข้าใจสินค้าของเราโดยภาพ หรือคำเพียงไม่กี่ประโยค

ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก ที่ทำให้ลูกค้าที่ยังไม่เคยลองใช้สินค้า ตัดสินใจจ่ายเงินซื้อสินค้าของเรา มีนักธุรกิจหลายคนเหมือนไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด บางคนถ่ายรูปของก็ถ่ายไปงั้นๆ

บางคนเป็นตัวแทนจำหน่ายนี่ใช้ระบบ copy รูปอย่างเดียวเลย ที่หนักสุดคือเอาแต่โพสซ้ำๆ เนื้อหาเดิมๆอยู่ตลอด แบบนี้ไม่ถูก จะทำให้ลูกค้าเบื่อ  content เดิมดูไม่น่าสนใจ การทำ content ให้ดึงดูด ดูน่าอ่าน น่าสนใจ  caption คิดคำใหม่ๆทุกครั้งเวลาโพส จะช่วยกระตุ้นยอดขาย ยอดไลค์ ยอดแชร์ได้มากเลยทีเดียว 
 

3. หาจุดขายของแบรนด์ให้ได้ : คุณต้องหาจุดขายของคุณให้ได้ว่า ทำไมลุกค้าต้องซื้อครีมร้านคุณ? จุดขายที่มากกว่าคนอื่น  ถ้าแค่บอกว่าสรรพคุณสินค้าคุณ ดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ หรือ รีวิวมากๆ มันก็มีข้อดี มีข้อมูลให้ลูกค้าตัดสินใจเพิ่มขึ้น แต่เดี๋ยวนี้ใครๆก็ทำแบบนั้นได้ และ ที่สำคัญลูกค้าเดี๋ยวนี้เค้าไม่ได้ดูแค่เรื่องพวกนี้เพียงอย่างเดียว เขาดูหลายด้าน หลายมุม
 

4. อย่ารับตัวแทนจำหน่ายมั่ว วาง Position ตัวเองให้ถูกว่าจะทำธุรกิจแบบไหน จะเน้นขายปลีก จะเน้นขายส่ง หรือจะเน้นรับตัวแทน ต้องตั้งเป้าหมายให้ชัด จะขายปลีก หรือ จะรับตัวแทนวางแผนให้ดีๆ เพราะถ้าคุณวางแผน หรือ ระบบการทำงานไม่ดี สุดท้ายตัวแทนก็จะ “แย่งลูกค้ากันเอง และ แย่งลูกค้าตัวคุณเอง” ตัวแทนก็ขายไม่ได้ คุณก็ขายไม่ได้ แย่กันหมด
 

5. ตอบคำถามลูกค้าให้เร็ว ยุคนี้เป็นยุค 4G ทุกคนมี smart phone มี facebook ,IG, line กันหมด มี application สามารถโอนเงินผ่านมือถือได้ ถ้ามีลูกค้าสนใจสินค้าเรา เราควรให้ความสำคัญ ไม่ใช่รอ2-3 วันแล้วค่อยตอบ จนลูกค้าหมดความสนใจ ไปซื้อของยี่ห้ออื่นก่อน อย่าลืมว่าลูกค้าไม่ได้เห็นครีมของเรายี่ห้อเดียว ใครๆก็สามารถโฆษณาออนไลน์ได้ 
 

6. เลือกสินค้าตัวเด่นๆ มาเป็นตัว top บางแบรนด์มีสินค้าเป็น 100 ชนิด อันนั้นก็ดี อันนี้ก็ใช่ โฆษณาทุกตัว ลูกค้างง เลือกไม่ถูก 
 

7. ทำ Ads โฆษณา ไม่ต้องเขียนเยอะ เขียนเท่าที่จำเป็น ต้องการสื่ออะไร ขายอะไร ดีและแตกต่างกับคนอื่นอย่างไร สั่นๆ ได้ใจความ บางคนอยากให้ข้อมูลลูกค้าเยอะๆ อยากให้โลกรู้ว่า เรามีดีอย่างไร ใส่ข้อมูลเต็มที่ สุดท้ายลูกค้าไม่รู้ เพราะไม่ได้อ่าน เห็นข้อมูลมันเยอะ เลยขี้เกียจอ่าน 
 

8. ต้องสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างเพจของคุณ กับลูกค้าของคุณให้ได้ : ยิ่งคุณทำให้คนที่กด like เพจของคุณคอยติดตามเพจคุณอย่างต่อเนื่องได้ นั่นก็แปลว่าเค้าก็ยังมีความสนใจในสินค้าคุณอยู่ “เพียงแต่อาจจะยังไม่ซื้อด้วยสาเหตุบางอย่าง” แต่ใครจะไปรู้ เห็นคุณโพสนู้น นี่ นั้น มีเล่นเกม แจกของ ตอบคำถาม ชิงรางวัล บ่อยๆ เขาอาจจะเกิดอยากซื้อ สนใจสินค้าเราบ้างก็ได้

9. ใช้สื่อในการทำงานให้หลากหลาย : FB , IG , Line หรือ เว็บไซต์ ยิ่งคุณสามารถใช้สื่อเหล่านี้ได้มากก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการที่คุณจะ หาลูกค้าเพิ่ม “ส่วนใหญ่พวกเราทุกคนมีแพลตฟอร์ม Social Network ตัวหลักๆที่เล่นทุกวันแทบทุกคนอยู่แล้ว แต่ละอันใช้มากใช้น้อย ไม่เท่ากัน”

บางคนถนัดเล่น IG บางคนเล่นแต่ line บางคนสมัครไว้ทุกอันแต่ใช้เฉพาะ Facebook บางคนชอบซื้อของในเว็บ เพราะฉะนั้นการที่เรามีสื่อที่หลากหลาย ก็จะยิ่งทำให้ฐานลูกค้าเรากว้างขึ้นคะ แต่ห้ามลืมกฏข้อสำคัญคือ มีแล้วต้องดูแลให้ดีด้วย เพราะถ้าคุณสร้างของพวกนี้มาแล้วปล่อยทิ้งร้าง หรือ ไม่สนใจมันจะยิ่งส่งผลเสียต่อธุรกิจคุณนะคะ
 

10. ราคามีผลต่อการตัดสินใจ แน่นอนว่า เงินในกระเป๋าลูกค้านั้น มีผลต่อการซื้อสินค้าของลูกค้า ของบางอย่างถือว่าราคาถูกสำหรับคนกลุ่มหนึ่ง แต่อาจจะแพงสำหรับคนอีกกลุ่มก็ได้ ดังนั้นวาง positioning ตลาดให้ดี ว่าเราต้องการขายคนกลุ่มไหน และพยายามเข้าใจกลุ่มตลาดที่เราต้องการขายว่า เขาต้องการอะไร จะทำให้สินค้าของคุณขายง่าย ขายดีขึ้น เพราะตรงใจกลุ่มเป้าหมายคะ

เห็นไหมคะ ว่าการทำธุรกิจครีม เครื่องสำอางนั้น ถ้าเราใส่ใจรายละเอียด รักในสิ่งที่ทำ ขยันทำการตลาด ประกอบกับ มีสินค้าครีม ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ไม่มีสารอันตราย ผลิตจากโรงงานรับผลิตครีม เครื่องสำอางที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังคอยควบคุม ดูแล ความสำเร็จ รวยเร็ว รวยนาน ก็เป็นจริงได้ง่ายๆคะ ใครอ่านแล้ว สนใจอยากทำธุรกิจครีม เครื่องสำอาง อยากสร้างแบรนด์ครีมตัวเอง

ติดต่อโรงงานรับผลิตครีม เครื่องสำอาง Bangkok Beauty LAB  www.bangkokbeautylab.com

เบอร์โทร 02-675-5166, 081-902-5002

Line: bangkokbeautylab ได้นะคะ ให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ