ดั๊บเบิ้ล เอ ขึ้นแท่นแฟรนไชส์แห่งชาติ

ลุยเต็มสูบ ปั้นฝันอินเตอร์แบรนด์ร้านถ่ายเอกสาร

“ดั๊บเบิ้ล เอ” เผยแฟรนไชส์ศูนย์ถ่ายเอกสารในตลาดโลกยังมีโอกาสอวดรางวัลมาตรฐานแฟรนไชส์แห่งชาติ สยายปีกอีก 6 ประเทศ ขึ้น แท่นอินเตอร์เนชั่นแนลแฟรนไชส์ อัดงบ 15 ล้าน ย้ำภาพผู้นำในประเทศไทย ส่งแผนการตลาด 3 ระดับ และงบสื่อโฆษณากระตุ้นยอดขายให้แฟรนไชซี

ธุรกิจแฟรนไชส์ของดั๊บเบิ้ล เอทั้ง แฟรนไชส์ศูนย์ถ่ายเอกสาร “ดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์” และแฟรนไชส์ร้านเครื่องเขียน “ดั๊บเบิ้ล เอ สเตชั่นเนอรี่” ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน ภายใต้ “รางวัลคุณภาพมาตร ฐานแฟรนไชส์แห่งชาติ” (Thailand Franchise Quality Award 2009) ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ เชื่อมั่นว่า ด้วยรางวัลมาตรฐานนี้ประกอบกับคุณภาพกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ จะเป็น หัวใจสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจแฟรน ไชส์ของดั๊บเบิ้ล เอ เติบโตทั้งในประเทศไทยและในระดับโลกได้เร็วขึ้น

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ตลาดในระดับโลกในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ศูนย์ถ่ายเอกสาร ยังมี โอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะในหลายๆ ประเทศก็เหมือนประเทศไทยที่ยังไม่มีแฟรนไชส์ศูนย์ถ่ายเอกสาร โดยมาตรฐานใหม่นี้ จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ร่วมลงทุนมากขึ้น

ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ตั้งเป้าหมายจะเร่งขยายธุรกิจแฟรนไชส์ดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ออกไปใน 6 ประเทศ คือ จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน เกาหลี และเวียดนาม ซึ่งขณะนี้ดั๊บเบิ้ล เอ มีแฟรนไชส์ในต่างประเทศแล้ว รวมทั้งสิ้น 318 สาขา และจะผลักดันให้ดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ เป็นแฟรนไชส์ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลกต่อไปในอนาคต โดยอาศัยความสำเร็จจากการสร้างแบรนด์กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งมีการส่งออกแล้วถึง 120 ประเทศเป็นแนวทางนำร่อง

ในปี 2553 ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนการ ตลาดที่จะใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท เพื่อจัดทำสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ในประเทศไทย แนะนำมาตรฐานใหม่ของดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ ที่บริการถ่ายเอกสารด้วยระบบดิจิตอลทั้ง หมด เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในการให้บริการงานถ่ายเอกสารคุณภาพสูง ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้งานพิมพ์ที่สวยงามกว่าและคมชัดกว่า บนเนื้อกระดาษคุณภาพของดั๊บเบิ้ล เอ ทุกแผ่น ในราคามาตรฐาน เพียงแผ่นละ 50 สตางค์
 

รวมทั้งตอกย้ำกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อส่งเสริมยอดจำหน่ายให้กับแฟรนไชส์ซีของดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ และดั๊บเบิ้ล เอ สเตชั่นเนอรี่ โดยใช้การทำ การตลาด 3 ระดับ คือ การตลาดระดับ Nation Wide ซึ่งในปีหน้าจะเพิ่มความเข้มข้นในการจัดกิจกรรมปีละอย่างน้อย 3 ครั้ง และเพิ่มกลยุทธ์ในการเจาะลึกพื้นที่ ด้วยการตลาดในระดับภูมิภาค (Local Marketing) และระดับร้านค้า (Local Store Marketing) ซึ่งที่ผ่านมาดั๊บเบิ้ล เอ ได้เริ่มทดลองจัดกิจกรรมนำร่องร่วมกับแฟรนไชซีบางแห่งแล้ว ปรากฏว่า ได้รับผลตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายดีมาก และทำให้ยอดจำหน่ายของร้านค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

นายชาญวิทย์ กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ดั๊บเบิ้ล เอ จะไม่เน้นการขยายจำนวนสาขาของแฟรนไชส์ แต่จะเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้กับแฟรนไชซีที่เข้าร่วม โดยให้การสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาด และจะเฟ้นหาสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่จะช่วยให้เกิดผลกำไรหรือช่วยลดต้นทุนของร้านค้าได้มากขึ้น และเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกค้า อาทิ บริการเติมหมึก บริการส่งพัสดุและเอกสารไปต่างประเทศ บริการเติมเงิน บริการชำระเงิน เป็นต้น

นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้จัดกิจกรรม “2 โปรแกรมคุ้มค่า” เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้กับแฟรนไชของดั๊บเบิ้ล เอทั้งสองธุรกิจ คือ 1.ลอยัลตี้โปรแกรม ที่เปิดโอกาสให้แฟรนไชซีสามารถสะสมแต้มจากการซื้อผลิตภัณฑ์ของดั๊บเบิ้ล เอ 1 รีมต่อ 1 คะแนน เพื่อแลกรับสินค้าของ บริษัท หรือของรางวัลอื่นๆ โดยมีการปรับ ของรางวัลให้ดึงดูดใจมากขึ้น อาทิ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก พรินเตอร์ โทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกมากมาย และ 2.โปรแกรมสิทธิประโยชน์คูณ 4 เพื่อให้ผู้สมัครเข้าร่วมเป็นแฟรนไชส์ในช่วงนี้ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเป็น 4 เท่า
 

ผู้สมัครแฟรนไชส์ดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ จะได้รับการยกเว้นค่าแรกเข้า และชำระเพียงค่าธรรมเนียมรายปี 20,000 บาท เพื่อรับสิทธิประโยชน์คูณ 4 เช่น ค่าตกแต่งภายนอกและภายในร้าน ค่าการตลาด ค่าส่วนลดกระดาษ และของแถมรวมมูลค่ามากกว่า 80,000 บาท ส่วนผู้สมัครแฟรนไชส์ดั๊บเบิ้ล เอ สเตชั่นเนอรี่ เมื่อชำระค่าแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรวม 70,000 บาท จะได้รับสิทธิประโยชน์คูณ 4 เท่า เช่น ค่าตกแต่งภายนอก และภายในร้าน ค่าการตลาด และของแถมมูลค่ารวมมากกว่า 300,000 บาท

สำหรับ “ดั๊บเบิ้ล เอ” เป็นผู้ริ่เริ่มธุรกิจแฟรนไชส์ศูนย์ถ่ายเอกสารและแฟรนไชส์ร้านเครื่องเขียน เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย โดยมีจุดเริ่มต้นธุรกิจมาจากความมุ่งมั่นที่จะสนับ สนุนพันธมิตรคู่ค้าของดั๊บเบิ้ล เอ ให้มีความเข้มแข็งในการแข่งขันกับตลาด โดยการเปลี่ยนร้านในรูปแบบเดิมๆ ให้กลายเป็นศูนย์ถ่ายเอกสารและร้านเครื่องเขียน ที่ทันสมัย มีการบริหารจัดการร้านอย่างเป็นระบบ ตกแต่งร้านทันสมัย บริการลูกค้าอย่างดี ยกระดับมาตรฐานร้านให้ดูโดดเด่น เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถแข่งขันได้ และมีรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยแฟรนไชส์ดั๊บเบิ้ล เอ มีจุดเด่นอยู่ที่ เจ้าของร้าน คือ เจ้าของธุรกิจ และสามารถ บริหารกิจการด้วยตนเองภายใต้มาตรฐานของดั๊บเบิ้ล เอ
 

อ้างอิงจาก สยามธุรกิจ