คาลเท็กซ์รุกน็อนออยล์ ปรับเป้า 3 ปี หวังเพิ่มสัดส่วน 30-50% ดึง EXPRESSO by Gloria Jean’s กาแฟแบรนด์ดังสัญชาติออสเตรเลีย เอาใจฐานคอกาแฟคนรุ่นใหม่ ประเดิมปีแรกอัดแฟรนไชส์คอฟฟี่ช็อปทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 20 แห่ง พร้อมเปิดแฟลกชิปแห่งใหม่พื้นที่ 4 ไร่ พร้อมเดินหน้าขยายปั๊ม 150 แห่งใน 3 ปี ปรับโฉมปั๊มใหม่เน้น “smart design” รองรับรถอีวีอนาคต
 

นายชุตินธร ปักเข็ม รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายผลิตภัณฑ์ประเทศไทย บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าดำเนินแผนธุรกิจ ระยะ 3 ปี (2562-2564) โดยมุ่งปรับสัดส่วนธุรกิจน็อนออยล์ 30-50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 20% โดยขยายร้านอาหารและเครื่องดื่ม (local restaurant) Quick Service KFC ร้านสะดวกซื้อ Mini Big C รวมถึง Car Wash Automatic แฟมิลี่มาร์ท และลอว์สัน 108 เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้เข้ามาใช้สถานีบริการน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

“ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาโอกาสลงทุนในระยะยาว โดยคาดว่าอาจจะได้เห็นภาพชัดเจนภายในปลายปีนี้”

 

ล่าสุดบริษัทยังได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ บริษัท พรีโม ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่ ประเทศไทย ซึ่งเป็นกาแฟพรีเมี่ยมสัญชาติออสเตรเลีย มาเปิดให้บริการภายในสถานีบริการน้ำมันของคาลเท็กซ์ ซึ่งการเปิดร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์นั้นได้พัฒนาคอนเซ็ปต์และแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ เอ็กเพรสโซ่ บาย กลอเรีย จีนส์ (Expresso by Gloria Jean’s) ขณะนี้เปิดให้บริการไปแล้ว 2 แห่ง ในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ สาขาเพชรคลองหนึ่ง

และสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ สาขามาบเอียง จ.ชลบุรี โดยตั้งเป้าภายในกลางปี 2562 จะเปิดให้ครบ 10 แห่งทั่วประเทศ มั่นใจว่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยดึงผู้ใช้รถให้เข้ามาใช้บริการ และช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของทั้ง 2 บริษัท โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบร้านกาแฟพร้อมกับให้บริการลักษณะ coworking space นอกจากนั้นยังมีแผนลงทุนทำแฟรนไชส์ทั่วประเทศ โดยมีราคาตามขนาดของพื้นที่ เริ่มตั้งแต่ 18 ตารางเมตร ราคา 9.5 แสนบาท ไปจนถึง 120 ตารางเมตร 2 ล้านบาท เป็นต้น

 

“ปีนี้นับเป็นความท้าทายของบริษัทมาก โดยเฉพาะการทำร้านกาแฟแบรนด์ออสเตรเลีย ที่มีดีไซน์ของร้านตอบโจทย์นักเดินทางคนรุ่นใหม่ ให้อยู่ในพื้นที่ปั๊มน้ำมันของเรา เนื่องจากแบรนด์นี้มีเพียงให้บริการที่สนามบินเท่านั้น ดังนั้นเราจะให้ความสำคัญกับธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจน้ำมัน (nonoil) อย่างเดียว เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานีบริการให้ครบวงจร และเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจค้าปลีกของสถานีบริการ เพื่อขยายบริการและเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากกว่าการเติมน้ำมันเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจน็อนออยล์ด้วย”

 

นายชุตินธรกล่าวถึงแผนการขยายสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ว่า บริษัทตั้งเป้าขยายสถานีน้ำมันให้ได้ปีละ 50 สาขาในระยะ 3 ปี รวม 150 สาขา โดยในปีนี้เตรียมเปิดแฟลกชิปบนถนนตัดใหม่ แยกไฟฉาย กรุงเทพฯ ในพื้นที่ 4 ไร่ ซึ่งจะมีการปรับปรุงรูปแบบสถานีน้ำมัน “smart design” คาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันคาลเท็กซ์มีสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศกว่า 370 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรูปแบบของผู้ประกอบการเป็นเจ้าของและบริหารงานเอง (retailer owned retailer operated : RORO) ซึ่งการขยายสถานีบริการในรูปโฉมใหม่นี้ ยังมุ่งเน้นลักษณะของ RORO เช่นเดิม

 

พร้อมกันนี้ ในแผนกลยุทธ์ดังกล่าวจะมีการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันรูปแบบเดิมให้สอดคล้องกับรูปแบบ “smart design” ครั้งนี้ด้วย แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและขนาดพื้นที่ในแต่ละแห่ง

 

แผนกลุยทธ์ “smart design” ครั้งนี้จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการระดับคุณภาพ รวมถึงมุ่งขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันครบวงจร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและพันธมิตรในประเทศด้วย โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ smart station, smart services, smart platform, smart partnership และ smart products นอกจากนี้ยังเตรียมพื้นที่สำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้า (charging station) เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย


อ้างอิงจาก prachachat.net