แฟรนไชส์ “ร้านชา (เขียว) ราคาเดียว 25 บาท” หายไปไหน?
"ชาเขียวราคาเดียว" ทำการเปิดศึกรบกันอย่างหนักหน่วงทั้งฝั่งผู้ขายแฟรนไชส์ และผู้ชื้อแฟรนไชส์ เมื่อช่วงประมาณ 5-6 ปีก่อน
ส่วนมากเจ้าของแฟรนไชส์จะใช้กลยุทธ์การขายแฟรนไชส์แบบขายขาดไม่ต้องหักส่วนแบ่งรายได้
ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้
- คีออส และ การตกแต่งร้าน
- สูตรการชง
- มีหม้อต้ม เครื่องชง
- วัตถุดิบต่างๆ
ซึ่งราคาแฟรนไชส์มีตั้งแต่หลัก 10,000-100,000 บาท
แต่ว่า! ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องหาทำเลเปิดร้านเองและลงพื้นที่เผชิญศึกแบบสู้ยิบตาเต็มๆทั้งการเผชิญหน้ากับลูกค้าหรือคู่แข่งรวมทั้งค่าเช่า เจ้าของพื้นที่ไม่ต่อสัญญาทำให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องหาทำเลใหม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทำให้อยู่ไม่ได้
ซึ่งปัจจุบันไม่แน่ใจว่าแบรนด์เหล่านี้ยังมีอยู่หรือไม่ มาดูว่ามีแบรนด์อะไรบ้าง
เช่น ชาพะยอม, ชาพะเยา, ชาขุนพล, ชาจอมพล,ชาท่านขุน, ชาปักษ์ใต้, ชาตันหยง, ชาละมุน, ชานะ, ชาช้าง, ชากะช่อง, ชาแม่สลอง, ชาชบา,ชาชักฟองเบียร์, ชาม่อนช้าง, ชาเบตง,ชาหอม 168, ชาชักป่านม, ชอบชา, ชาปากยูน,ชาอันดามัน, ชาลิบง, ชาพริ้ง, ชาวอลแตร์ และอื่นๆ
แม้สินค้าจะได้รับความนิยมแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะขายดีไปตลอดยิ่งสินค้าที่คนทำกันเยอะ คู่แข่งเยอะก็จะยืนหยัดอยู่ได้ไม่ยาวนานผู้ประกอบการต้องรู้จักปรับตัวศึกษาตลาดและคู่แข่ง พัฒนาสินค้าใหม่ๆต่อเนื่อง ดูโอกาสของธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคด้วย