1.ประเมินศักยภาพตนเอง 

มีเวลาบริหารธุรกิจมากน้อยแค่ไหนมีเงินลงทุนเพียงพอไหมพร้อมรับความเสี่ยงได้ไหมหากขาดทุน

2.หาความรู้เรื่องแฟรนไชส์ 

เช่น โครงสร้างทางการเงิน ค่าใช้จ่ายในระบบแฟรนไชส์ สัญญาแฟรนไชส์หน้าที่ของแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซี

3.เลือกแฟรนไชส์ที่ชอบ

เช่น หากไม่ชอบทำงานกับคนหมู่มากให้เลือกแฟรนไชส์สะดวกซัก คาร์แคร์ตู้หยอดเหรียญ เป็นต้น

4.เปรียบเทียบแฟรนไชส์ 

เลือก 2-3 แบรนด์มาเปรียบเทียบดูว่าลงทุนเท่าไหร่ แบรนด์มีชื่อเสียงหรือไม่สินค้า/บริการเป็นที่ต้องการในตลาดไหม

5.พูดคุยกับแฟรนไชส์ซี 

สอบตามร้านสาขาแฟรนไชส์รายอื่นๆเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ยอดขาย รายได้ ปัญหา

6.หาทำเลเปิดร้านแฟรนไชส์ 

ทำเลที่ดีควรอยู่ใกล้แหล่งชุมชนคนสัญจรผ่านไปมา เช่น ปั๊มน้ำมันตลาด หมู่บ้าน สำนักงานออฟฟิศ ฯลฯ

7.พูดคุยกับแฟรนไชส์ซอร์ 

นัดเจอ ขอดูข้อมูลผลประกอบการสอบถามแผนธุรกิจในระยะยาวหรือโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ

8.เซ็นสัญญาแฟรนไชส์ 

ก่อนเซ็นสัญญาแฟรนไชส์อาจจ้างที่ปรึกษาแฟรนไชส์หรือทนายมาช่วยดูข้อกำหนด เงื่อนไขแฟรนไชส์

9.ฝึกอบรมการปฏิบัติงาน 

แฟรนไชส์ซอร์จะฝึกอบรมการบริหารงานต่างๆ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติให้แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์

10.เปิดร้านดำเนินกิจการ 

แบรนด์แฟรนไชส์จะให้ความช่วยเหลือผู้ซื้อแฟรนไชส์เตรียมความพร้อมก่อนเปิดร้านดำเนินกิจการ