|
|
|
6 พฤษภาคม 2557 |
อีสตาร์ฝ่าร้อนการเมือง ผุด 2 โครงการใหม่
อีสตาร์ฝ่ากระแสการเมืองไม่นิ่งเปิดโครงการใหม่ร่วม 7 พันล้าน มั่นใจกำลังซื้อยังมีต่อเนื่องไม่หวั่นรายใหญ่ฮุบรายเล็ก ด้านบอร์ดไฟเขียวทุ่มงบซื้อแลนด์แบงก์3พันล้านรอพัฒนาคอนโดฯและแนวราบ ชี้เน้นทำเลกทม. ชะลอไปต่างจังหวัดเหตุไม่พร้อม คาดรับรู้รายได้ปี56 โตกว่า 372.8%
นายรัตนชัย ผาตินาวิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแข่งขันของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะการเปิดโครงการของผู้ประกอบการรายใหญ่จำนวนมากและจะทำให้รายเล็กไม่สามารถแข่งขันได้นั้นคิดว่าไม่เชื่อว่าตลาดจะเป็นเช่นนั้น เพราะการพัฒนาโครงการของแต่ละบริษัทต่างมีจุดเด่นเฉพาะตัวของแต่ละโครงการ เช่น ทำเลที่ตั้ง รูปแบบโครงการที่ดี เป็นต้น
แม้ว่ารายใหญ่อาจจะได้เปรียบในเรื่องแหล่งเงินทุนก็ตาม แต่รายกลางรายเล็กสามารถที่จะหาจุดแตกต่างมานำเสนอลูกค้าได้ ถือว่าจับลูกค้ากลุ่ม NicheMarket จึงทำให้ความได้เปรียบเสียเปรียบไม่แตกต่างกันมากนัก ทำให้รายเล็ก รายกลางสามารถแข่งขันกับรายใหญ่ในตลาดได้
สำหรับแผนการพัฒนาโครงการของบริษัทนั้น แม้ว่ามีสถานการณ์การเมืองที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ยืดเยื้อตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัวในช่วงไตรมาสแรก และกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการลงทุนของต่างชาติโดยตรงแต่ยังเชื่อว่ายังมีความต้องการซื้อบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยในเมืองที่อยู่ใกล้ระบบรถไฟฟ้าBTS หรือ MRT ที่มีการเดินทางสะดวกสบายเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมือง
ดังนั้นช่วงครึ่งปีหลัง จึงเตรียมเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการรวมมูลค่าโครงการประมาณ 7พัน ล้านบาท ทั้งยังได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการของบริษัทในเรื่องงบประมาณการซื้อที่ดินแลนด์แบงก์จำนวน 3พันล้านบาท เพราะเห็นว่าช่วงวิกฤติจะเป็นโอกาสดี ที่ราคาที่ดินกลับเป็นราคาปกติไม่สูงมากและไม่ต้องซื้อที่ดินแข่งขันกันเพราะผู้ซื้อหายหมดซึ่งการซื้อที่ดินเป็นแลนด์แบงก์นั้นหากเป็นผู้ประกอบการที่สายป่านไม่ยาวจะไม่สามารถทำได้ สำหรับฐานะของบริษัทมีสัดส่วนหนี้สินน้อยมากและคาดว่าปีนี้จะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมด
โดยช่วงไตรมาสที่ 2 และครึ่งปีหลัง คาดว่าบรรยากาศการเมืองจะเริ่มคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น หากไม่มีสถานการณ์ที่รุนแรง กำลังซื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการต่างจัดโปรโมชันเพิ่มยอดขายช่วงนี้เพราะต่างฝ่ายต่างดูสถานการณ์ความเป็นไปและเลื่อนการเปิดตัว-การจัดงานมาจากไตรมาสแรก จึงเตรียมเปิดตัวโครงการ "AMBER by Eastern Star" (แอมเบอร์ บาย อีสเทอร์น สตาร์) คอนโดมิเนียมสูง 37 ชั้น พื้นที่กว่า 2 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 2พัน ล้านบาท
มีจุดเด่นคืออยู่ติด MRT สถานีแยกติวานนท์ ราคาขายเฉลี่ยกว่า 8หมื่นบาทต่อตารางเมตร โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 27 เมษายนนี้ขายราคาพิเศษเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท มี 2 ขนาดคือพื้นที่ 35-57 ตารางเมตร จำนวน 421หน่วย และ 2 ห้องนอนขนาด55-76 ตารางเมตร จำนวน 142 หน่วย รวม 563หน่วยคาดว่าช่วงพรีเซลจะมียอดจองกว่า 200 ยูนิตทั้งมีแลนด์แบง์รอการพัฒนาพื้นที่ 8 ไร่บนถนนกรุงเทพฯ-นนท์และอยู่ระหว่างพิจารณาโครงการที่เหมาะสมต่อไป
ส่วนโครงการที่2คาดว่าจะเปิดช่วงไตรมาส 4 เป็นอาคารคอนโดมิเนียมมูลค่าโครงการประมาณ 5พันล้านบาท สำหรับยอดรับรู้รายได้ในปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดรับรู้รายได้รวม 1,542 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 372.8% เมื่อเทียบกับปี 2555 ซึ่งยอดรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นหลักๆมาจากการโอน 2 โครงการ คือ โครงการ Vantage (แวนเทจ) และโครงการ The Breeze (เดอะบรีซ)
ทั้งนี้ในปี 2557 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,800 ล้านบาท มาจากการขาย 6 โครงการที่กำลังดำเนินการ คือ
- โครงการ AMBER (แอมเบอร์) จำนวน 563 หน่วย
- โครงการ StarView (สตาร์วิว)
- โครงการ The Breeze (เดอะบรีซ)
- โครงการ Vantage (แวนเทจ)
- โครงการนาราไนน์ (Nara 9) และ
- โครงการ The Star Estate@Pattanakarn
ด้านกลยุทธ์การตลาดนั้นจะมีทั้งแผนเชิงรุกและเชิงรับ โดยวางแผนจัดงานอีเวนต์ที่สำนักงานขายทุกโครงการในช่วงครึ่งปีหลังเพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมถึงมีแผนการโฆษณาประชาสัมพันธ์โปรโมชันต่างๆผ่านทางป้ายโฆษณา อิเล็กทรอนิกส์ไดเร็กต์เมล์ สื่อสังคมออนไลน์ E-Newsletter เป็นต้น ตั้งงบประมาณไว้ประมาณ 55 ล้านบาท รวมถึงเตรียมแผนกิจกรรม CRM กับลูกบ้านโครงการต่างๆและ CSR กิจกรรมเพื่อสังคมด้วย
อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
|
|
|