แม้ว่านโยบายการลงทุนของภาครัฐที่กระหน่ำออกมาอย่างต่อเนื่อง จะกลายเป็นความหวังที่เข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีหน้า แต่ดูเหมือนว่าการลงทุนในภาคธุรกิจจะยังคงระมัดระวังและจับตาเรื่องของกำลังซื้อ 

 

ขณะเดียวกัน เป็นที่น่าสังเกตด้วยว่าเซ็นทรัลยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของไทย ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้เปิดศูนย์การค้ารูปแบบต่าง ๆ ทั่วประเทศจำนวนมาก แต่ปี 2559 ที่จะถึงนี้มีสาขาขนาดใหญ่ที่นครศรีธรรมราชเพียงแห่งเดียว โดยที่เซ็นทรัล โคราชซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างน่าจะเปิดในปี 2560 ส่วนโรบินสันมีการขยายสาขาในปี 2559 เพียง 2 แห่ง จากปกติ 4 แห่ง 

 

นายปริญญ์ จิราธิวัฒน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะเริ่มดีขึ้น แต่การวางแผนธุรกิจยังคงระมัดระวังและประเมินกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยแผนการลงทุนในปีหน้าจะชะลอการลงทุนบางส่วน และลดเม็ดเงินลงทุนลงจากปกติเฉลี่ยปีละ 3-4 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ภาพการเติบโตของธุรกิจในปีหน้า ยังคงเติบโตและเดินได้ต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์การเน้นปรับปรุงและยกเครื่องสาขาเดิมให้ทันสมัย 

 

สอดคล้องกับนางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินบัญชีและบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ขยายความว่า แผนลงทุนปี 2559 จะเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครศรีธรรมราช 1 สาขา โดยปีหน้าจะให้ความสำคัญการรีโนเวตสาขาเดิมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเป็นหลัก เพื่อปรับปรุงให้ทันสมัยและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า

ซึ่งในปีนี้เซ็นทรัลได้เปิดศูนย์การค้า 4 แห่ง คือ เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต, เซ็นทรัลพลาซาระยอง และเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ รวมถึงโครงการรีโนเวต 2 แห่ง คือ เซ็นทรัล บางนา และเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า นอกจากนี้บริษัทได้แตกไลน์ธุรกิจลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบเต็มรูปแบบด้วยการเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียม3 แห่งที่ได้ลงทุนในจังหวัดระยอง ขอนแก่น และเชียงใหม่ มูลค่าโครงการราว 1,600 ล้านบาท โดยเริ่มเปิดขายทั้ง 3 โครงการได้ในช่วงเดือน ม.ค. 2559 และพร้อมเริ่มก่อสร้างในช่วงกลางปี 2559 

 

ทั้งนี้ แผนการลงทุนของกลุ่มเซ็นทรัลยังคงต่อเนื่อง ในปี 2556 เปิด 3 สาขา คือ เซ็นทรัล อุบลราชธานี, เชียงใหม่เฟสติวัล และหาดใหญ่ ในปี 2557 เปิด 2 สาขา คือ เซ็นทรัล สมุย และเซ็นทรัล ศาลายา

 

เช่นเดียวกับทิศทางการลงทุนของ "โรบินสัน" ห้างสรรพสินค้าในเครือกลุ่มเซ็นทรัลที่ชะลอแผนขยายสาขาในปี 2559 เหลือ 2 สาขา จากเดิมกำหนดเป้า

 

เปิด 4-5 สาขาต่อเนื่องมาทุกปี นายอลัน จอร์จ ทอมสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ปรับแผนการลงทุนรอบใหม่ในช่วง 2 ปีจากนี้ คือ ปี 2559-2560 อาจจะเปิดสาขาใหม่เพียง 2 สาขาต่อปีเท่านั้น จากเดิมที่จะมีการเปิดสาขาใหม่เฉลี่ยปีละ 4-5 สาขา เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ค่อนข้างชะลอตัว โดยประเมินว่าในปี 2561 จะกลับมาลงทุนในเชิงรุกปีละ 4-5 สาขาได้อีกครั้ง

 

โดยปีหน้าสาขาใหม่จะเปิดที่โรบินสัน นครศรีธรรมราช และโรบินสัน ลพบุรี ควบคู่กับการเน้นลงทุนปรับปรุงสาขาเดิมให้ทันสมัย ซึ่งตามแผนจะรีโนเวต 4 สาขาในปีหน้า คือ สาขาเชียงใหม่ ที่เปิดมานานกว่า 20 ปีแล้ว, พระราม 9, สระบุรี และสาขาตรัง ซึ่งเป็นสาขาที่มียอดขายอันดับต้น ๆ ของโรบินสัน 

 

 

นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ รองประธานกรรมการฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ

"ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การชะลอตัวเปิดของห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ไม่มีผลต่อทิศทางการขยายสาขาร้านอาหารของบริษัทที่มีเป้าหมายขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศเพิ่ม 8-10% ต่อปี เพราะยังมีโอกาสเปิดในคอมมิวนิตี้มอลล์หรือมอลล์ระดับกลาง-เล็กที่ยังคงขยายตัวในต่างจังหวัด รวมทั้งโอกาสการขยายตัวในประเทศอื่น ๆ ที่จะทำให้ยังเปิดสาขาใหม่ตามแผนที่วางไว้ได้

 

นางอุษณีย์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอ ประธานกรรมการ บริษัท เคดีเอ็น จำกัด ผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ คริสปี้ ครีม ประเทศไทย กล่าวว่า การที่ศูนย์การค้าขยายตัวน้อยลงจะมีผลต่อบริษัทในแง่ของตัวเลือกพื้นที่สำหรับการขยายสาขาที่ลดลง ซึ่งต่อจากนี้ต้องพิจารณาหาสถานที่ที่เหมาะสมกับแต่ละแบรนด์ที่มีอยู่ในมือมากขึ้น รวมทั้งยังเตรียมนำร้านแบรนด์ใหม่มาทำตลาดเพิ่มเติมในปี 2559 ซึ่งยังอยู่ระหว่างหาพื้นที่

 

นายนิธิ พัฒนภักดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2559 ศูนย์การค้าขนาดใหญ่เปิดน้อยลงโดยเฉพาะในกรุงเทพฯไม่มีการเปิดศูนย์การค้าใหม่ ขณะที่ต่างจังหวัดก็มีบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งการเปิดศูนย์การค้าขนาดใหญ่จะเริ่มต้นอีกครั้งในปี 2560 เช่น บางกอกมอลล์ หรือไอคอนสยาม เป็นต้น แต่เมเจอร์รอไม่ได้จึงปรับทิศธุรกิจเน้นขยายสาขาร่วมกับบิ๊กซี และเทสโก้ โลตัส รวมถึงห้างท้องถิ่นในแต่ละจังหวัด ด้วยสาขาที่มีขนาดเล็กลง 2-3 โรง

อย่างไรก็ตาม การไปร่วมกับบิ๊กซีและเทสโก้ โลตัส มีจุดเด่นของทำเลที่ดี สามารถเจาะเข้าไปตามอำเภอต่าง ๆ "หลาย ๆ จังหวัดมีศักยภาพและความต้องการของตลาดที่ดี สามารถเปิดได้ 2-3 สาขาในบางจังหวัด และส่วนใหญ่ปีหน้าจะขยายไปในสเกลเล็กมากขึ้น เพราะสาขาของบิ๊กซีและเทสโก้โลตัสมีพื้นที่น้อย" 

 

นายโยธิน ทวีกุลวัฒน์ รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนลงทุนปี 2559 เตรียมเปิดสาขาใหม่รูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ต 6 แห่ง งบฯลงทุน 300-400 ล้านบาทต่อสาขา มาร์เก็ต 3 แห่ง งบฯลงทุน 30-40 ล้านบาทมินิมาร์เก็ต 75 สาขา งบฯลงทุน 3-4 ล้านบาท โดยจะเน้นไปที่สาขาขนาดใหญ่มากขึ้น ควบคู่กับการปรับปรุงสาขาเดิมให้ทันสมัย และขยายพื้นที่โซนพลาซ่าเท่าตัวจากเฉลี่ย 5,000-7,000 ตร.ม. รองรับร้านค้าทั้งอินเตอร์แบรนด์และโลคอลแบรนด์ 

 

"ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเน้นเปิดต่างจังหวัดเพราะมีช่องว่างทางการตลาด เมืองขยายตัวและกำลังซื้อสูงขึ้น โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจการค้าชายแดน" 

 

ด้านนายแมทธิว สไควร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาศูนย์การค้าเทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ปี 2559 เทสโก้ โลตัสจะทยอยปรับพื้นที่เช่าในสาขาเดิมอีก 15-20 แห่ง ควบคู่กับการเปิดสาขาใหม่ โดยเน้นเพิ่มพื้นที่เช่ากว่า 80-90% ของแบรนด์ที่ไปด้วยกัน คือ เอ็มเค เคเอฟซี แม็คยีนส์ ส่วนโรงภาพยนตร์เมเจอร์ที่มีอยู่ 22 สาขา และคาดว่าจะครบ 30 แห่งในปี 2559

อ้างอิงจาก  ประชาชาติธุรกิจ