8.9K
25 มีนาคม 2556
คอมมูนิตี้มอลล์ แบรนด์ "เดอะ ศาลายา" จ.นครปฐม กำลังจะมา
 
 

บมจ.พรพรหมเม็ท ทอล เล็งตั้งบริษัทย่อยบริหารคอมมูนิตี้ มอลล์ ภายใต้แบรนด์  "เดอะ ศาลายา" จะแล้วเสร็จไตรมาส 4และเปิดขายเพิ่มรายได้ปีละไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมคาดทะลุ 2 พันล้านบาท หลังธุรกิจอสังหาฯเริ่มฟื้นตัวเห็นแนวโน้มของ ความต้องการใช้ทองแดงและอลูมิเนียม ในภาคอุตสาหกรรม พร้อมลุยธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกปิดผนึกชนิดอลูมิเนียมชนิดอ่อนตัว ตั้งเป้ารายได้ที่ 200 ล้านบาทต่อปี
 
นางกนกกร แทนไกรศร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM กล่าวว่าบริษัทฯ เตรียมจัดตั้งบริษัทย่อย "เดอะ สตาร์เกท" ด้วยทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท โดยมี PPM ถือหุ้น 99% เพื่อดำเนินการบริหารโครงการ

 
 
 
คอมมูนิตี้มอลล์ แบรนด์ "เดอะ ศาลายา" จ.นครปฐม ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดขายโครงการได้ใน ไตรมาส 4 และสามารถเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯประมาณปีละไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะ  เวลา 6 ปี มีพื้นที่ให้เช่า 6,000 ตรม. โดยคิดราคาค่าเช่าเฉลี่ย 800-1,200 ต่อ ตารางเมตร/เดือน
 
โครงการ "เดอะ ศาลายา" เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ บนพื้นที่ 18 ไร่ มูลค่าโครงการ 185 ล้านบาท สัญญาเช่าต่อเนื่องจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 25 ปี ภายในโครงการประกอบไปด้วยธนาคาร ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า และอื่นๆเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ที่พักอาศัยบริเวณโครงการ อาทิ นักศึกษา อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึงข้าราชการในบริเวณใกล้เคียง
 
"การจัดตั้งบริษัทย่อยในครั้งนี้ เนื่องจาก บริษัทฯเล็งเห็นว่าควรแยกการบริหารที่ชัดเจน และเพื่อให้เห็นถึงแนวโน้มของแต่ละธุรกิจ ประกอบกับเป็นการวางแผนเพื่อรองรับแผนงานที่ จะขยายเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าโครงการแรกที่บริษัทฯเริ่มดำเนินการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และ รีเทลจะได้รับการตอบรับที่ดี อีกทั้งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯอีกทางหนึ่งนอกเหนือจากธุรกิจหลักที่ ดำเนินการอยู่" นางกนกกร กล่าว

 
 
 
สำหรับการดำเนินงานในปี 2556 นั้น ทางบริษัทฯ เชื่อว่าในส่วนของรายได้จะเติบโตขึ้น โดยคาดการณ์เบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นจากปี 2555 ประมาณ 43% ขณะที่ในส่วนของกำไรจะดีขึ้นในทิศทางเดียวกันเนื่องจากธุรกิจหลักของบริษัทฯ ที่ดำเนินการไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์วัตถุดิบอุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์วัสดุเพื่อใช้ในการก่อสร้าง มีแนวโน้มความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อ เนื่อง อาทิ ทองแดงและทองเหลืองชนิดแผ่นและม้วนและอะลูมิเนียมชนิดม้วนเกรดพิเศษเพื่อ อุตสาหกรรมหลังคา เป็นต้น บวกกับบริษัทฯมีศักยภาพในเชิงการแข่งขันที่ดี และจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพสูง
 
"ส่วน Margin หลักของธุรกิจนั้นมาจากธุรกิจหลักๆของ PPM คือทองเหลืองและทองแดงเป็นหลัก โดยที่ปัจจุบันราคาทองแดง ทองเหลือง และวัสดุอื่นๆ นับว่าค่อนข้างมีเสถียรภาพ ไม่ผันผวนมากตามสภาพเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในแถบยุโรป บริษัทฯ คาดว่าแนวโน้มราคาจะทรงตัวและไม่ต่ำไปกว่าปัจจุบันมาก

อย่างไรก็ดีทิศทางและนโยบายเศรษฐกิจของจีนค่อนข้างมีผลกระทบต่อปริมาณ ความต้องการและราคาแร่ ประกอบกับ อุตสาหกรรมโดยรวมในประเทศมีแนวโน้มสดใสและเติบโตต่อเนื่อง ธุรกิจไทยและผู้ประกอบการในประเทศก็มีความตื่นตัวมากขึ้นต่อการเปิดธุรกิจ เสรีประชาคมอาเซียน (AEC) ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลดีโดยตรงกับบริษัทฯ เนื่องจากทำให้วัตถุดิบที่นำเข้ามาเพื่อจำหน่ายมีต้นทุนต่ำลง อย่างไรก็ดีทั้งค่าเงินและราคาแร่ บริษัทฯ มีระบบจัดการและมาตรการป้องกันความผันผวนอย่างเหมาะสม และไม่มีนโยบายในการเก็งกำไร"

 
 
 
นอกจากนี้บริษัทฯ  อยู่ระหว่างเตรียมดำเนินกิจการบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัว (Flexible Packaging) เพื่อขยายธุรกิจใหม่เพิ่มเติม ซึ่งอยู่ในระหว่างการจัดตั้ง คาดว่าหลังสิ้นไตรมาส 2 จะพร้อมรองรับการผลิตได้เต็มที่โดยบรรจุภัณฑ์ชนิดปิดผนึกนี้ ตั้งเป้าในการเติบโตที่ 40% ต่อส่วนแบ่งการตลาดทั้งหมด โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักคือ เครือซีพีกรุ๊ปและสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และคาดว่าจะช่วยสร้างยอดขายให้กับธุรกิจเพิ่มไม่ต่ำกว่าปีละ 200 ล้านบาท

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สยามเซ็นเตอร์ เตรียมต้อนรับเทศกา..
447
งาน เมกาบางนา มหาสงกรานต์
420
งาน Chanthaburi Songkran Wonder ..
416
งาน Typeไทย
402
พาราไดซ์ พาร์ค เปิดฟลอร์เต้นรำ "..
396
งาน HAPPY SONGKRAN FESTIVAL
395
ข่าวทำเลค้าขายมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด