บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพรส์ อิงค์ เริ่มก่อตั้งในปี 2527 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย มร.เบล็ค โรนีย์ ที่ได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มและศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจขายตรง และด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนบนโลก จึงได้ขยายธุรกิจไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ใน 45 ประเทศทั่วโลก ด้วยรายได้มากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
สำหรับประเทศไทยนั้น นู สกิน ได้เข้ามาดำเนินการธุรกิจขายตรงเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2540 วันแรกของการเปิดตัวรับสมัครผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยได้สร้างประวัติการณ์มีคนแห่มาสมัคร 1 แสนคนภายใน 3 วันแรก และเป็นบริษัทที่ริเริ่มแนวคิดการดูแลผิวพรรณแบบภายนอกสู่ภายใน และภายในสู่ภายนอก ด้วยผลิตภัณฑ์เริ่มต้นเพียง 27 รายการ จนปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เพอร์ซันนัลแคร์ 150 รายการ อาทิ นู สกิน 180˚,นู สกิน ไตร-เฟสิค ไวท์ ,ชุดนูทริเซนเชี่ยล ,ชุดกัลวานิค สปา ซิสเต็ม ,นู สกิน เคลียร์ แอคชั่น และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง นู คัลเลอร์
นอกจากนี้ยังมีอาหารเสริมเพื่อสุขภาพในแบรนด์ฟาร์มาเน็กซ์อีก 20 รายการ เช่น ไลฟ์แพ็ก ,จี 3 ,มารีนโอเมก้า ,ทีกรีน 97,คอร์ดีแมกซ์ และทีอาร์เอ แต่ Flagship Product ก็คือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไลฟ์แพ็ก และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า นู สกิน 180
นู สกิน มีปรัชญาการทำงานว่า “All of the Good, None of the Bad” สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม นู สกิน ซึ่งหมายถึงผลิตภัณฑ์ของ นู สกิน ทุกชิ้นจะต้องผลิตจากวัตถุดิบหรือส่วนผสมที่มีแต่คุณประโยชน์และไม่เป็นโทษต่อผิวพรรณ และสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มฟาร์มาเน็กซ์ มีปรัญชาการทำงานว่า “Measurable difference” คือผลิตภัณฑ์ฟาร์มาเน็กซ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถวัดประสิทธิภาพการใช้ได้จริงในทางวิทยาศาสตร์
ดังนั้น ที่ผ่านมา นู สกิน จึงมีอุปกรณ์การวัดผลหลังใช้สินค้า นู สกิน เช่น เครื่องไบโอไฟโตโฟนิค สแกนเนอร์ เป็นนวัตกรรมเครื่องแรกของโลกที่วัดระดับแคโรทีนอยด์สารต้านอนุมูลอิสระที่ผิวหนังเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างระดับของสารแคโรทีนอยด์และพฤติกรรมต่างๆได้แก่ การบริโภคผักและผลไม้ การสูบบุหรี่ และการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินเกลือแร่ปี
เครื่องโปรเดิร์มขนาดเท่าฝ่ามือพกพาสะดวกสำหรับตรวจวัดสภาพผิวก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์เพอร์ซันนัลแคร์ นอกจากเครื่องโปรเดิร์มจะถูกออกแบบมาเพื่อใช้วัดประสิทธิภาพของสินค้าแล้ว ยังเป็นการตอบโจทย์ทุกความต้องการในแต่ละบุคคลแบบ Personalize Service รวมถึงแนะนำสินค้าให้เหมาะกับบุคคลนั้น โดยไม่จำเป็นต้องซื้อครบชุด แต่สามารถซื้อแยกในแต่ละชุดผลิตภัณฑ์ได้
ปัจจุบัน นู สกิน เป็นบริษัทขายตรงอันดับ 4 ในประเทศไทยด้วยยอดขาย 1,200 ล้านบาท ในปี 2549 และมีตัวแทนจำหน่ายประมาณ 2.3 แสนรหัส โดยวางเป้าหมายการเติบโตอีก 5 ปีข้างหน้าไว้