ดาวเด่นแฟรนไชส์    “พฤกษรักษ์ฯ” สปาไทยแท้ ไม่ง้อลูกค้าฝรั่ง มุ่งเจาะชานเมือง
7.4K
27 มกราคม 2551
“พฤกษรักษ์ฯ” สปาไทยแท้ ไม่ง้อลูกค้าฝรั่ง มุ่งเจาะชานเมือง

 
 
เริ่มต้นจากการเป็นผู้บริโภคที่ใช้บริการสปาเป็นประจำ เมื่อได้ไปใช้บริการสปาต่างๆ หลายๆ ที่ ก็มีข้อคิดเห็นว่าสปาที่ดีราคาค่อนข้างแพง แต่ในร้านนวดธรรมดาที่ราคาถูก บรรยากาศจะไม่ดี ของใช้ไม่สะอาด และบริการไม่ดี ส่วนสปาหรูก็มักจะเอาใจใส่ดูแลชาวต่างชาติมากกว่าคนไทยด้วยกัน จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้สองเพื่อนรัก คือ นภาพร แสงเทียนฉาย และนงลักษณ์ แดงสุภา ร่วมลงทุนทำธุรกิจที่จุดกึ่งกลางของตลาดสปาไทย 
 
“ตรงนี้เป็นช่องว่างของตลาดที่เราน่าจะเข้ามาทำได้ จึงวางคอนเซ็ปต์งานที่ว่า เป็นสปาของคนไทย เน้นให้บริการลูกค้าคนไทย ในราคาไทยๆ ลูกค้าจะได้รับความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป โดยตั้งอยู่ในชุมชนชานเมือง เพราะค่าเช่าที่ไม่แพง ลูกค้ามาใช้บริการได้สะดวก ใกล้บ้าน เพราะเขาต้องการมาผ่อนคลาย เมื่อนวดเสร็จแล้วก็กลับไปพักผ่อนที่บ้านต่อได้” นภาพร แสงเทียนฉาย หนึ่งในหุ้นส่วน กล่าว 
 
โดยสาขาแรกของ “พฤกษรักษ์ ไทย สปา” ตั้งอยู่ที่เขตทุ่งครุ ถ.ประชาอุทิศ เปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคม 2546 ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี จนมีลูกค้าที่มีเงินทุนสอบถามถึงเรื่องการทำธุรกิจสปา ทั้งสองจึงสนใจลองทำเป็นแฟรนไชส์ เพราะเห็นว่ารัฐบาลเองก็กำลังส่งเสริมเรื่องนี้ด้วย จึงได้ไปปรึกษาอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องระบบแฟรนไชส์หลายๆ ท่าน ได้เข้าอบรมเรื่องแฟรนไชส์อยู่หลายคอร์ส เมื่อวางระบบแฟรนไชส์เสร็จแล้ว จึงได้พูดคุยกับลูกค้าที่สนใจ แต่ก็มีหลายคนที่คุยกันแล้วคอนเซ็ปต์ไม่ตรงกัน จนกระทั่งได้เปิดแฟรนไชส์สาขาแรกที่แยกวัชรพล เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2547 และสาขาหมู่บ้านเมืองเอก เป็นแฟรนไชส์สาขาล่าสุด และกำลังคุยกับอีกหนึ่งที่ใน จ.เชียงใหม่ 
 
นภาพร กล่าวต่อว่า “พฤกษรักษ์ ไทย สปา” นำเสนองานที่เป็นสปาของคนไทย การตกแต่งจึงเป็นแนวบ้านไทยสมัยปลายรัตนโกสินทร์ มีการปล่อยกลิ่นหอมของดอกไม้ไทย เพื่อบำบัดความเครียดของลูกค้า การต้อนรับก็ดูแลแบบอบอุ่นด้วยมารยาทไทย และใช้ผลิตภัณฑ์ "พฤกษรักษ์" ที่ผลิตในประเทศไทย มีส่วนผสมของสมุนไพร และมีกลิ่นหอมของไม้ดอกไม้ไทย แต่อาจจะมีส่วนผสมบางตัวที่ผลิตในประเทศไทยไม่ได้ ก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศบ้าง เช่น น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสและน้ำมันโจโจบา 
 
 
 
ที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือพนักงานนวด ที่ต้องคัดเลือกจากสถาบันที่มีใบรับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข แล้วจึงนำมาอบรมฝึกฝนกันกว่า 1 เดือน ทั้งด้านมารยาท คำพูด การไหว้ การยิ้ม ให้มีเอกลักษณ์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนไทยมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีอย่างไร ให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของ “พฤกษรักษ์ ไทย สปา” ก่อนที่จะมาให้บริการลูกค้า 
 
“การฝึกของเราค่อนข้างหนัก มีหลายคนถอดใจ เพราะรับกับกรอบระเบียบของเราไม่ได้ เช่น ต้องสุภาพเรียบร้อย เล็บมือเล็บเท้าต้องสะอาด ผมเผ้าต้องไม่รกรุงรัง ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาไม่ผ่านการทดสอบของเรา” 
 
นอกจากนั้น การนวดของ “พฤกษรักษ์ ไทย สปา” ยังมีเอกลักษณ์ โดยเป็นการปรับท่านวดไทยให้มีความสุภาพอ่อนน้อม ไม่มีการสัมผัสเนื้อตัวที่มากเกินควร 
 
“เราดูแลพนักงานอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องการขายบริการทางเพศ ซึ่งเป็นภาพที่ชาวต่างชาติมองเรา เราไม่มีเรื่องพวกนี้ เพราะเราได้รับการตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุขแล้วว่า สถานที่ถูกต้องได้มาตรฐานการทำสปา ประตูไม่สามารถล็อกได้ ไม่มีห้องที่ปิดมิดชิดเกินไป ไม่มีการส่อไปในทางการขายบริการทางเพศแน่นอน” นภาพร กล่าว 
 
 
 
ด้านค่าแรกเข้าแฟรนไชส์ “พฤกษรักษ์ ไทย สปา” นั้น อยู่ที่ 5 แสนบาท ระยะเวลาสัญญา 3 ปี โดยจะดูแลตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้ง ออกแบบปรับพื้นที่ ออกแบบตกแต่งภายใน คัดเลือกพนักงาน และสั่งซื้ออุปกรณ์ทุกอย่างให้ และมีค่ารอยัลตี้ฟีอยู่ที่ 5,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลาการคืนทุน 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี ส่วนการดูแลคุณภาพของแฟรนไชซีนั้น จะมีผู้สอดแนมเข้าไปใช้บริการที่สาขา โดยไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า เพื่อตรวจสอบว่าการให้บริการได้มาตรฐานหรือไม่ 
 
“ผู้สนใจต้องคุยกับเราก่อน ถ้าคิดตรงกัน เข้าใจกันก็เริ่มลงทุนได้ ที่สำคัญคือเราจะเป็นผู้จัดหาพนักงานให้ด้วย โดยเรามีเทรนเนอร์ส่วนกลาง ทุกสาขาจะได้พนักงานที่มีคุณภาพเหมือนกัน หลังจากนั้น 1 เดือนก่อนเปิด คุณต้องเข้าไปเรียนรู้งานจริง ทั้งที่สาขาต้นแบบและที่แฟรนไชซีสาขาอื่นๆ เพื่อเรียนรู้ระบบบัญชี การบริการลูกค้า และเจอลูกค้าจริงๆ ปัญหาจริงที่เกิดขึ้น” 
 
ทั้งนี้ ภายใน 6 เดือนแรก แฟรนไชซอจะการันตีพนักงานให้ คือหากแฟรนไชซีมีปัญหาพนักงานลาออก ก็จะช่วยหาและฝึกพนักงานใหม่ให้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่หลังจาก 6 เดือน ถ้ามีปัญหาด้านพนักงานอีก ก็จะคิดค่าใช้จ่ายที่ประมาณ 7,000-10,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายกินอยู่ ค่าน้ำมันนวด ค่าอุปกรณ์ต่างๆ ของพนักงาน 1 คนต่อ 1 เดือน 
 
 
 
“แฟรนไชซีของเราต้องเป็นผู้บริหารที่ดี ดูแลพนักงานตามระบบ ถ้าเขาแหกกฎเมื่อไหร่ แล้วพนักงานลาออกหมด นั่นคือเขาเดือดร้อน ถ้าเราไม่คิดเงินตรงนี้ เขาก็จะดูแลพนักงานไม่ดี เพราะคิดว่ายังไงเดี๋ยวเราก็ต้องหาให้ใหม่” 
 
ทั้งนี้ นภาพร มองว่า การขายแฟรนไชส์ คือการขายระบบงาน ไม่ใช่ขายสินค้าหรือบริการ เพราะฉะนั้น หากวางระบบงานได้ชัดเจน และแฟรนไชซีนำระบบที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีคุณภาพนั้นไปใช้ ก็จะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน 
 
“ส่วนการขยายแฟรนไชส์สู่ต่างประเทศ ก็เป็นเป้าหมายของเราเหมือนกัน แต่ยังไม่ใช่ในตอนนี้ เราต้องการให้พร้อมมากขึ้นกว่านี้ก่อน ฐานต้องแน่นกว่านี้ ต้องแน่ใจว่าออกไปแล้วต้องไม่เสียชื่อความเป็นไทยสปา” นภาพร กล่าว 
 
 
สนใจแฟรนไชส์ “พฤกรักษ์ ไทย สปา” ติดต่อ 0-1933-7765 หรือ 0-2873-4455
 
อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์
ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
157,522
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,645
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,650
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,811
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,558
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
55,082
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด