นมพาสเจอไรส์ “ซอนต้า” เร่งขยายตลาดรับมือไทยเปิดเอฟทีเอกับยักษ์ใหญ่ คลอดแฟรนไชส์นมสดเกล็ดหิมะเป็นเจ้าแรก โดยชูจุดเด่นทำจากนมสด 100% และปรุงรสชาติให้ถูกปากคนไทย เผยทดลองตลาดจากการออกงานแฟร์ ยอดขายทะลุ 1,300 แก้วต่อวัน เชื่ออนาคตธุรกิจสดใส 

 

วรนพ เกิดทวี เจ้าของธุรกิจ เปิดเผยว่า จากที่เป็นผู้ผลิตนมพาสเจอไรส์ ยี่ห้อ “ซอนต้า” (Zonta) อยู่ในหมู่บ้านซอนต้า ต.จอมบึง จ.ราชบุรี แต่เมื่อรัฐบาลไทยทำบันทึกข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่ของโลก ทำให้ประเมินสถานการณ์ในอนาคต ผงนมต่างชาติจะมาตีตลาดนมของคนไทย ส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงวัวนมทั่วประเทศแน่นอน จึงพยายามหาทางขยายตลาด ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมวัว 100% ของเกษตรกรไทยให้เป็นที่นิยมของผู้บริโภคชาวไทย โดยทำนมสดเกล็ดหิมะ ใช้แบรนด์ว่า “ซอนต้า” ขยายให้รูปแบบแฟรนไชส์ ด้วยจุดเด่นผลิตด้วยนมสด 100% และปรุงรสชาติให้ถูกปากคนไทย 

 

“ในตลาด ตราบใดที่ยังมีการนำนมผงเข้ามามหาศาลปีละ 85,000 ตันเช่นในปัจจุบัน และกำลังจะเพิ่มขึ้นจากการเปิดเอฟทีเอ การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากนมก็ยังต้องใช้นมผงเป็นหลัก ดังนั้น เราต้องการให้เปลี่ยนมาใช้นมวัวแท้ๆ เป็นหลัก แฟรนไชส์นมสดเกล็ดหิมะของผม ก็เป็นวิธีทางหนึ่งที่ทำให้คนไทยรู้จักการบริโภคนม 100% ซึ่งเป็นการผสมระหว่างไอศกรีม กับนมพาสเจอไรซ์ เพราะวัยรุ่นจะไม่ชอบดื่มนม ในขณะที่ผู้สูงอายุ ไม่ชอบทานไอศกรีม ดังนั้น เรานำมารวมกัน ผมเชื่อว่า นมสดเกล็ดหิมะเป็นสินค้าที่มีอนาคต เหมาะกับประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อน ได้ทั้งประโยชน์ และความอร่อย” 

 

เจ้าของธุรกิจ เผยต่อว่า เนื่องจากนมพาสเจอไรซ์ “ซอนต้า” ได้รับคัดเลือกเป็นโอทอป 5 ดาวของ จ.ราชบุรี ทำให้ได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าโอทอปต่างๆ จึงนำนมสดเกล็ดหิมะมาทดสอบตลาด ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมาก เพราะในตลาดไม่มีใครทำมาก่อน 
 

 
 

“เราเริ่มเปิดตลาดครั้งแรกเมื่องานโอทอปซิตี้ เมื่อปลายปี 2547 และต่อเนื่องถึงงาน โอทอป แกรนด์ เซลล์ ที่เพิ่งผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเกินคาด ในงานต่อวัน ขายได้เฉลี่ยกว่า 1,300 แก้ว ทำให้มั่นใจว่าแฟรนไชส์นี้ จะไปได้ดี” 

 

ส่วนสูตรของนมสดเกล็ดหิมะนั้น ได้เชิญตัวแทนของบริษัทผู้ผลิตไอศกรีม รายใหญ่ของประเทศไทยมาเป็นผู้อบรมความรู้ จากนั้น นำมาปรับปรุงสูตรด้วยการใช้นม 100% แทนนมผง แล้วแต่งกลิ่น และรสหวาน ให้ถูกปากคนไทย ปัจจุบัน มี 2 รส คือ รสนม กับรสชอกโกแลต แต่ในอนาคตจะเพิ่มรสอื่นๆ อีกทั้ง กำลังดำเนินการจดสิทธิบัตรสูตรการผลิต เพื่อจะขายแฟรนไชส์ได้อย่างเต็มรูปแบบ 

 

เขา กล่าวถึงการซื้อแฟรนไชส์ ผู้ลงทุนต้องมีเงินทุนเป็นค่าตู้ทำเครื่องดื่มเกล็ดหิมะ ซึ่งนำเข้าจากประเทศอิตาลี สามารถทำนม และน้ำผลไม้ให้เป็นเกล็ดหิมะได้ โดยแบบ 3 ช่อง ราคา 85,000 บาท หรือแบบ 2 ช่อง ราคา 55,000 บาท (แล้วแต่เลือก) กับเงินทุนหมุนเวียน สำหรับซื้อวัตถุดิบนมสดของ “ซอนต้า” ในราคาลิตรละ 40 บาท โดยจะมีบริการส่งให้ทุกวัน สามารถเก็บไว้ได้นาน 10 วัน 

 

สำหรับผู้ซื้อแฟรนไชส์สามารถนำไปทำเป็นนมเกล็ดหิมะได้ประมาณ 6.5 แก้ว ขายได้ราคาตั้งแต่ 15-25 บาท แล้วแต่สถานที่ โดยขั้นตอน ทำได้ง่ายๆ แค่ใส่นม ลงไปในตู้ 20 นาที รอให้เป็นเกล็ด หลังจากนั้น ก็สามารถขายได้เลย 

 

ด้านเกณฑ์ในคัดเลือก ผู้จะซื้อแฟรนไชส์ต้องมีสถานที่เหมาะสม เช่น ย่านธุรกิจ สถานศึกษา และต้องมีความรับผิดชอบ รักที่จะทำธุรกิจนี้จริงๆ 
 

 
 

ส่วนจุดเด่นอีกประการ ผู้ขายจะแต่งกายในชุดคาวบอย เพิ่มสีสันให้การขาย และแผนต่อไป จะพัฒนาแฟรนไชส์นมสดเกล็ดหิมะให้มีระบบครบวงจรมากขึ้น โดยกำลังออกแบบคีออส และผลิตแก้วที่มีโลโก้ติดอยู่ด้วย 

 

“ทุกวันนี้ ปล่อยไปแล้วประมาณ 10 จุด และมีผู้ยื่นความประสงค์มาอีกกว่า 30 ราย โดยเราจะจัดสรรพื้นที่ไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน และมีการอบรมความรู้ให้ด้วย ส่วนปัญหาที่ผ่านมา คือ ผู้บริโภคชาวไทย ยังแคร์ด้านคุณภาพน้อย ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญที่ราคาถูก ดังนั้น จึงต้องพยายามเร่งทำความเข้าใจกับผู้บริโภค ส่วนอีกปัญหา คือ ผู้ประกอบการบางรายที่มาลงทุน พอเริ่มขายดี ก็นำนมผงไปผสม เพื่อลดต้นทุน ทำให้คุณภาพต่ำลง ซึ่งเราได้ส่งทีมงานไปตรวจสอบและแก้ไขแล้ว” 

 

วรนพ เปิดเผยถึงการเริ่มต้นของธุรกิจนมของพาสเจอร์ไรท์ “ซอนต้า” เกิดมากว่า 30 ปีแล้ว ทำงานในรูปแบบสหกรณ์โคนมซอนต้าจอมบึง จำกัด อยู่ในหมู่บ้านซอนต้า ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี มีการผลิตนมวัวครบวงจร ได้รับมาตรฐานโรงงาน GMP และมาตรฐานสินค้า GMP CODEX จากองค์การอาหารและยา มีสมาชิกที่ส่งนมวัวดิบมาขายกว่า 50 ครัวเรือน ซึ่งจากอาชีพนี้ ทำให้หมู่บ้านซอนต้า มีรายได้เฉลี่ยสูงสุดใน อ.จอมบึง 

 

ทั้งนี้ กำลังการผลิต ต่อวันประมาณ 7 ตัน โดยมาจากกลุ่มสมาชิก ประมาณ 2.5 ตัน รับซื้อจากกลุ่มเกษตรชะอำ 2 ตัน และซื้อจากสหกรณ์โคนมหนองโพอีก 2.5 ตัน ตลาดของสินค้า 40% ขายให้โรงเรียนรัฐบาล ในจ.ราชบุรี ตามโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียน และอีก 40% ส่งให้โรงเรียนเอกชน ในแถบจังหวัดราชบุรีถึงชลบุรี ส่วนที่เหลือจะวางตลาดทั่วไป โดยรายได้ปีที่ผ่านมา เดือนละ 2.5 ล้านบาท แบ่งจ่ายเป็นค่านมดิบแก่สมาชิกประมาณ เดือนละ 1 ล้านบาท

 

 

สนใจติดต่อ โทร. 08-1858-9235 

 

อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์