เดิม วรนุช พงษ์พานิชย์ ทำงานเป็นแอร์โฮสเตส แต่มีมุมมองว่าการเป็นพนักงานไม่มั่นคง ต้องค่อยๆ ไต่ระดับไปเรื่อยๆ จากลูกน้องไปเป็นหัวหน้า จึงมองหาธุรกิจที่ลงทุนน้อยและอยู่ได้นาน และลงตัวที่ธุรกิจซัก อบ รีด เพราะเห็นว่าปัจจุบันคนไม่ค่อยมีเวลาดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเอง และบุคลิกของคนเราเสื้อผ้าก็มีส่วนสำคัญ มีวิวัฒนาการของมันเอง ทำให้ผู้สวมใส่ดูดีได้ โดยทั้งเธอและสามีซึ่งเป็นวิศวกร ได้ลาออกจากงานประจำมาเพื่อลุยธุรกิจอย่างเต็มที่ 

 

ด้วยที่ใน ซ.ลาดพร้าว 48 ของพ่อเป็นที่ว่าง และอยู่ในย่านชุมชนที่มีคนอาศัยเยอะ ทั้งสองจึงลงทุนสร้างเป็นมินิพลาซ่าชั้นเดียว ชื่อ โยโย่ พลาซ่า โดยเปิดเป็น “CLEANMATE” ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเปิดให้เช่าพื้นที่ทำร้านอื่นๆ ด้วย เช่น ร้านขายยา ร้านกาแฟ เพื่อเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง 

 

วรนุช กล่าวว่า ทุนเริ่มต้นใช้ไปประมาณเกือบหนึ่งล้านบาท เพราะต้องซื้อเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าด้วย โดยเป็นเครื่องมือสองที่คุณภาพดีแต่ราคาถูก เพราะซื้อต่อจากโรงงานที่พี่ชายทำงานอยู่ ซึ่งเป็นโรงงานที่รับซักผ้าของโรงแรม ส่วนพนักงานก็เริ่มต้นจาก 2 คน เตารีด 2 ตัว ทั้งนี้ อยู่ที่การบริหารจัดการด้วย ว่าจะเรียงลำดับการจัดการดูแลยังไงให้ทันเวลา 

 

“เดือนแรกๆ ก็มีลูกค้าประมาณ 50 คน ซึ่งก็เป็นคนในซอย ตอนนี้ก็มีลูกค้าประจำเป็นร้อยๆ เจ้าแล้ว ส่วนมากลูกค้าก็จะเป็นวัยทำงาน ระดับกลางถึงสูง ซักแห้งก็จะมีพวกผ้าไหมเยอะ ช่วงปลายปีที่มีงานแต่งงานเยอะๆ งานเราก็จะเยอะไปด้วย โดยซักอบรีดเรารับที่ชิ้นละ 20 บาท ซักแห้ง บาท” 

 

“CLEANMATE” มีหลักในการบริการด้วย 3C คือ Clean ความสะอาด Care คือการดูแลให้บริการลูกค้าด้วยความเอาใจใส่ และ Convenient การเพิ่มเดลิเวอรี่เซอร์วิสให้ หากที่อยู่ของลูกค้าอยู่ในทางที่รถตู้ผ่านระหว่างสาขาก็จะจัดส่งให้ฟรี เพราะไม่เป็นการเพิ่มต้นทุนมากเกินไป เป็นความสะดวกสบายของลูกค้า ตั้งแต่การรับสินค้าจนส่งมอบงานที่ลูกค้าพอใจ แต่ถ้าอยู่นอกพื้นที่ก็ต้องมารับที่สาขาที่ส่งซัก 
 

“เสื้อผ้าของลูกค้าเราจะดูแลเป็นพิเศษ เจ้าไหนเจ้านั้น ของใครของมัน แล้วก็เน้นความต้องการของแต่ละบุคคล เป็น One to One Service คนนี้ต้องการแบบนี้ ไม่เอาจีบนะ ไม่เอาแข็งมาก ขอหอมหน่อยนะ แล้วแต่เขาชอบ เราทำให้ดีที่สุด” 

 

ในแต่ละเดือน “CLEANMATE” จะมีการจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า เช่นในเดือนมิถุนายนนี้ ลด 20 เปอร์เซ็นต์ สำหรับพรมและผ้าม่าน และติดตั้งให้ฟรี โดยที่ผ่านมา 2 ปี ลูกค้าก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ มีการหาลูกค้าใหม่อยู่ตลอดเวลา และต้องรักษาลูกค้าเก่าไว้ให้ดีที่สุด เพราะวรนุชถือว่า งานบริการลูกค้าคือหัวใจสำคัญ
 

 
 

ตอนนี้ “CLEANMATE” มี 3 สาขา คือ โยโย่ พลาซ่า ลาดพร้าว 48, บิ๊กซี สะพานควาย และเมเจอร์ ฮอลลีวูด สุขสวัสดิ์ โดยทุกสาขาจะส่งเสื้อผ้าไปซักที่สาขาโยโย่ พลาซ่า 

 

“ปัญหาก็มีบ้างที่การดูแลลูกค้าไม่ทั่วถึง ผ้าอันนี้ไปหลงกับอันนี้ แต่ปัญหาเรื่องพนักงานจะไม่มี เพราะได้พนักงานที่ดี เราศึกษาหาความรู้อยู่ตลอด มีอะไรใหม่ๆ เราก็เพิ่มความรู้ให้พนักงานด้วย เขาจะได้มีความมั่นใจในการตอบคำถามลูกค้า มีความรู้เรื่องผ้า มีการตีราคาที่มีมาตรฐาน ไปสาขาไหนก็ได้ราคาเดียวกัน” 

 

ด้านการขายแฟรนไชส์ มีสาขาแรกที่เมเจอร์ ปากเกร็ด แต่ก็เป็นเพื่อนกัน ถือเป็นการทดลองแฟรนไชส์ โดยผู้ที่สนใจต้องเสียค่าแฟรนไชส์ 1 แสน 5 หมื่นบาท ค่าตกแต่ง 2 แสนบาท ตกแต่งหน้าร้านให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน มีการอบรมพนักงาน และระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเก็บฐานข้อมูลลูกค้า ซึ่งในอนาคตระบบคอมพิวเตอร์จะพัฒนาให้เป็นออนไลน์ถึงกันทุกสาขา 

 

“นอกจากนี้ก็มีเก็บรายเดือนอีกเดือนละ 1 พันบาท เป็นค่าการทำโปรโมชั่นแต่ละเดือน ค่าใบปลิวต่างๆ แต่ไม่ได้คิดเปอร์เซ็นต์ โดยมีอายุสัญญา 3 ปี หลังจากนั้นก็แล้วแต่คุณว่าจะทำต่อกับเราหรือเปล่า ซึ่งเราจะไม่เก็บเงินเพิ่ม หรือจะแยกไปทำเองก็ได้ เพียงแต่ต้องบอกเราให้รู้ด้วย เพราะเราจะเก็บโลโก้หรือสัญลักษณ์ของเราคืน ส่วนการคืนทุนเร็วที่สุด 10 เดือน ถ้าทำเลดี ซึ่งสาขาของตัวเองตอนนี้รายได้ต่อเดือนต่อสาขาหักค่าใช้จ่ายแล้ว ก็ได้ประมาณ 5 หมื่นบาทขึ้นไป” 

 

“ธุรกิจนี้ต้องหาทำเลให้ดีที่สุด เพื่อคืนทุนให้เร็วที่สุด อยากให้เขาได้ไปแล้วอยู่กับเราได้นาน เบื้องต้นเราพยายามให้ได้ปีแรก 3 เจ้าก็พอ อยากดูแลเขาให้ดีจริงๆ ต่างจังหวัดก็เป็นจังหวัดใกล้เคียงก่อน เพราะง่ายกับการที่เราจะไปดูแล” 

 

ในอนาคต “CLEANMATE” จะเพิ่มบริการซักพรมนอกสถานที่ด้วย และในเว็บไซต์ www.cleanmate.net ซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลเคล็ดลับการดูแลเสื้อผ้า ในอนาคตก็จะเพิ่มระบบให้ลูกค้าเข้ามาเช็คได้ว่า เสื้อผ้าที่เขานำมาซักตอนนี้อยู่ในขั้นตอนไหน เสร็จหรือยัง เพื่อเป็นการบริการลูกค้าอีกทางหนึ่งด้วย 

 

ทั้งนี้ วรนุชมองธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีด ว่า คนมองข้ามเยอะ ทำให้คู่แข่งน้อย อาจจะเห็นว่ามีร้านซักแห้ง-ซักอบรีดหลายร้าน แต่ที่มีระบบการจัดการที่ดี คุณภาพเยี่ยม ยังมีน้อย แต่ธุรกิจด้านนี้มีทางเติบโต คนจะใช้บริการมากขึ้น 

 

“ธุรกิจซักอบรีดมีฤดูของมันเหมือนกัน 2 ปีที่ทำมา ช่วงเดือน 8-10 จะค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยมีลูกค้าวอล์คอิน แต่ลูกค้าประจำก็ยังมีอยู่ปกติ ยังหาสาเหตุไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม แล้วช่วงปีใหม่จะเยอะ หน้าฝนก็เยอะ เพราะเขาซักตากเองลำบาก” วรนุช กล่าว 

 

ติดต่อ “CLEANMATE” โทร.0-2930-4971, 08-1854-0311 หรือ www.cleanmate.net 

 

อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์