การบริหารงานจากรุ่นพ่อ สู่รุ่นลูก “มงคล รอดพาดา” ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท ส.รุ่งโรจน์ จำกัด เข้ามาบริหารธุรกิจครอบครัวตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 ได้พัฒนาธุรกิจทั้งมาตรฐานสินค้า กระบวนการผลิต การตลาด จนปัจจุบันมี 11 สาขาในฟู้ดคอร์ทของห้างสรรพสินค้า 

 

การพัฒนาธุรกิจไม่หยุดอยู่เท่านี้ ล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2548 “มงคล” ได้ขยายธุรกิจสู่รูปแบบแฟรนไชส์ เปิดให้เลือกลงทุน 2 รูปแบบช็อปและภัตรคาร ด้วยเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจ ส.รุ่งโรจน์ในภาพรวม และสนองกับความต้องการของนักลงทุนแต่ไม่มีโนว์ฮาว 

 

 

ด้วยความมั่นใจต่อระบบบริหาร จัดการ จากสาขาของบริษัททั้ง 11 สาขา จึงได้เริ่มสู่รูปแบบแฟรนไชส์ และรสชาติอาหารที่ได้รับความนิยมมากว่า 40 ปี 
 

แต่ภายใต้วิศัยทัศน์ของนักบริหารรุ่นใหม่ กลับมองว่า รสชาติที่เป็นที่ชื่นชอบนั้นเป็นนามธรรมนาม จับต้องไม่ได้ การอยู่อย่างยั่งยืนของธุรกิจต้องมีสิ่งที่สามารถวัดและรับประกันได้ จับต้องได้ 

 

จึงได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการ GMP “มงคล” กล่าวว่า กระบวนการมาตรฐานน่าจะแล้วเสร็จในปี 2549 แม้ว่าจะต้องลงทุนบริหารงานเพิ่มขึ้น 30% ก็ตาม 

 

“การเข้าสู่มาตรฐาน ความสะอาด ปลอดภัยดังกล่าว เพราะสามารถวัดได้ แต่รสชาติเป็นนามธรรม และการผลิตกี่ครั้ง กี่ครั้งต้องเหมือนกันหมด เราให้ความสำคัญ 3 ตัว แมตทีเรียล อีควิปเม้นท์ และโนว์ฮาว ทั้ง 3 ส่วนนี้ควบคุมการผลิต” 
  

ด้านผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ วัตถุดิบหลัก(เป็ดสด) บริษัทฯ จะใช้เป็ดสดจากบริษัท บางกอกแรนท์ จำกัด (มหาชน) เนื่องจากเป็นบริษัทฯ ที่มีการส่งออก ไปจำหน่ายต่างประเทศ จะต้องเลี้ยงเป็ด ในระบบปิด ทำให้ปลอดภัย จากโรคติดต่อทุกชนิด โดยจะต้องกำหนดจำนวนวันเลี้ยง และน้ำหนักของเป็ด ที่จะนำมาผลิต ให้สอดคล้องกับความต้องการของบริษัทฯ ทำให้เป็ดที่นำมาผลิต มีมาตรฐานเดียวกันทุกตัว 

 

 

ด้วยความมุ่งมั่น ทำให้การบริหารงานยุคสมัย “มงคล” เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ทั้งเมนูที่ให้บริการ การตกแต่งอาหารให้น่ารับประทาน รวมถึงการออกแบบหน้าตาร้าน สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้แฟรนไชซีมีความมั่นใจการการเข้ามาลงทุน 

 

“การขยายสาขาสู่รูปแบบแฟรนไชส์เพราะเรามีความพร้อม มีโนว์ฮาว โดยเราซัพพลายระบบ เป็นคู่มือที่แฟรนไชซีสามารถลงทุนทำธุรกิจได้เลย ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการประกอบการร้านอาหาร แต่ไม่เคยทำธุรกิจร้านอาหารมาก่อน และไม่รู้จะเริ่มต้นธุรกิจนี้อย่างไร เราจัดการให้ด้านคุ้กกิ้ง 70% และที่ต้องทำหน้างาน 30% เช่น ข้าวหน้าไก่ มีละลายแป้งหน้างาน เป็ดตุ๋นหั่นเป็นชิ้นให้ แต่ตุ๋นหน้างาน ซุปเป็นผงสำเร็จ มั่นใจเรื่องระบบ ว่าไม่ทำให้ชื่อเสียงของ ส.รุ่งโรจน์ เสียหาย แฟรนไชซีลงทุนไม่ต้องเข้ามาคุมเอง ขอให้มีแรงงานที่มีทักษะ เพราะเรามีมีรูปแบบการขายที่ชัดเจน ซึ่งจะทำให้แฟรนไชส์มีคุณภาพ” มงคลกล่าว 

 

ซึ่งการขยายธุรกิจสู่แฟรนไชส์นั้น เป็นเป้าหมายหลักของบริษัท ทำให้บริษัทได้เปลี่ยนการดำเนินงานใหม่ โดยทยอยปิดสาขาทั้ง 11 สาขา เพื่อให้แฟรนไชซีเข้าไปลงทุน คาดว่านี้จะทยอยปิด 6 สาขา เบื้องต้นแฟรนไชซี สามารถเปิดดำเนินการได้ที่บิ๊กซี คาร์ฟูและปั๊มน้ำมันบางจาก ซึ่งเป็นโลเคชั่นที่บริษัทบริษัทได้ประสานไว้ 

 

มงคล กล่าวในตอนท้ายว่า รูปแบบในการพัฒนาธุรกิจไม่หยุดอยู่เท่านี้อย่างแน่นอน และมีแนวคิดที่จะเพิ่มรูปแบบการให้บริการบนสถานีรถไฟฟ้า BTS เพื่อซื้อสินค้านำกลับไปรับประทาน 

 

อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์