Frutti Mania ไอศกรีมผลไม้สด ต่อยอดนวัตกรรมสู่ธุรกิจแฟรนไชส์

 

หากเอ่ยถึงไอศกรีมซอฟท์เซิร์ฟ (Soft Serve) ขณะนี้มีให้คนไทยได้เลือกลิ้มรสเพียง 2 รสชาติคือ วนิลา และช็อคโกแลต หรือรสชาติผสม และอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งก็มีข้อด้อยในเรื่องของความบ่อยในการรับประทาน เนื่องจากมีส่วนของของนม และน้ำตาลค่อนข้างมาก ทำให้ผู้บริโภคเบื่อหน่าย ซึ่งจุดนี้เองทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร ปฏิวัติรสชาติ โดยได้นำผลไม้ไทยมาเป็นส่วนผสมหลัก จนก่อเกิดเป็น “ไอศกรีมซอฟท์เซิร์ฟรสผลไม้” เจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ด้วยรสชาติไอศกรีมผลไม้กว่า 57 รสชาติ
 
       พรทิพา เพชรรัตน์ เจ้าของสิทธิบัตรผงไอศกรีมผลไม้แบรนด์ Graeter กว่า 57 รสชาติ ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญา ที่สามารถมาต่อยอดเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ เล่าว่า ทางทีมงานเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร ทำให้ไม่หยุดนิ่งที่จะคิดแปรรูปสินค้าทางการเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลไม้ไทย ที่มักประสบปัญหาราคาตกต่ำ ทำให้ชาวสวนขาดรายได้ จึงมองว่าผลไม้ไทยน่าจะนำมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้โดยที่ผู้บริโภคทั้งคนไทยและต่างชาติรู้จักดีและบริโภคได้

       สุดท้ายจึงมาลงตัวที่ไอศกรีมซอฟท์เซิร์ฟผลไม้ไทย โดยได้แปรรูปเป็นผงผลไม้เพื่อนำมาทำเป็นไอศกรีมกว่า 57 รสชาติ ที่มีทั้งรสผลไม้ และสมุนไพรไทยที่ดีต่อสุขภาพ เช่น รสเสาวรส สาหร่ายสไปรูริน่า สับปะรด องุ่น ฝรั่ง มะม่วง มะเขือเทศ และมะขาม เป็นต้น โดยได้รับการจดสิทธิบัตรในเรื่องของผงผลไม้เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย
      
       “เรามองเห็นปัญหาในเรื่องราคาผลไม้ไทยที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวสวนและเกษตรกรได้รับความเดือนร้อน อย่าง สับปะรด ราคาที่ออกจากสวนประมาณ 1 บาท/กิโลกรัม แต่เมื่อเรานำมาแปรรูปเป็นผงเพื่อนำไปผลิตเป็นไอศกรีม จะตกราคากิโลกรัมละ 300 บาท ซึ่งถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลไม้ไทย รวมถึงยังสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย เนื่องจากการแปรรูปเป็นผงจะเก็บรักษาไว้ได้นานถึง 2 ปีและสะดวกในการขนส่ง”
 

       เมื่อความคิดในการนำผลไม้มาแปรรูปดังกล่าวประสบความสำเร็จ และสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจไอศกรีมซอฟท์เซิร์ฟได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับพรทิพา ต้องการเป็นเพียงผู้ผลิตให้เท่านั้น โดยไม่คิดที่จะทำการตลาดเอง จึงเปิดโอกาสให้กับนักธุรกิจหน้าใหม่อย่าง "นายปูรัณ แก้วรัตนอัมพร" ที่ต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายผงผลไม้อย่างเป็นทางการ โดยที่สามารถต่อยอดเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ด้วยการขายไอศกรีมซอฟท์เซิร์ฟ เป็นผู้ดูแลด้านแฟรนไชส์ทั้งหมด
      
       โดยนายปูรัณ ถือเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และมีความตั้งใจจริงที่จะขยายธุรกิจไอศกรีมผลไม้ โดยมองว่า ธุรกิจนี้มีโอกาสในเติบโตสูง เนื่องจากเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย ยังไม่มีคู่แข่ง ซึ่งนายปูรัณ ได้เล่าว่า การเริ่มต้นธุรกิจนี้เกิดจากความบังเอิญ และการที่ต้องคลุกคลีอยู่ในแวดวงอาหารและของว่างในการนำมารับรองลูกค้าของธนาคาร ทำให้ได้ลิ้มรสชาติของไอศกรีมผลไม้ที่มีรสชาติไม่ซ้ำใคร และลูกค้าต่างชื่นชอบ ทำให้ตัดสินใจเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ให้กับผงไอศกรีมแบรนด์ Graeter และใช้แบรนด์ในธุรกิจแฟรนไชส์ที่ชื่อว่า “Fruitti Mania”

       “การที่เราเป็นจ้าของแรกของไอศกรีมผลไม้แบบซอฟท์เซิร์ฟ ที่เข้าไปเปลี่ยนรสชาติที่มีเพียง 2 รสชาติ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเบื่อหน่าย และสำหรับไอศกรีมผลไม้ที่มีให้เลือกกว่า 57 รสชาติ จึงถือเป็นการโอกาสให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองรสชาติที่แปลกใหม่ๆ รวมถึงชื่อเสียงของผลไม้ไทยก็เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ จึงถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจเติบโตในต่างประเทศได้”
      
       สำหรับการลงทุนในรูปแบบของแฟรนไชส์จะใช้เงินลงทุนประมาณ 180,000 บาท โดยผู้ลงทุนจะได้รับคือ

1.เครื่องทำไอศกรีม 3 หัว ที่ใช้เวลาเพียง 15 นาที หลังจากนำผงผลไม้ผสมกับน้ำในปริมาณที่กำหนดก็สามารถจำหน่ายได้ ซึ่งราคาขายอยู่ที่ 12 บาท/โคน
2.ผงไอศกรีม 10 กิโลกรัม (เลือกรสชาติตามต้องการได้)
3.เครื่องผสมไอศกรีมไฟฟ้า ในกรณีที่ขายดีจนทำไอศกรีมในเครื่องไม่ทัน
4.ป้ายราคา
5.ป้ายชื่อร้าน โดยพื้นที่ขนาด 1.5 x 1.5 เมตร

ในทำเลย่านสถานศึกษา ชุมชน และแหล่งท่องเที่ยว อัตราการคืนทุนอยู่ที่ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนการจำหน่ายและทำเล
สนใจติดต่อโทร. 089-788-8318

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์