ดาวเด่นแฟรนไชส์    แฟรนไชส์ D’Eng club พลิกตำราสอนภาษา ชูเก่งอังกฤษแค่เรื่องขี้ผง
6.4K
8 สิงหาคม 2553

แฟรนไชส์ D’Eng club พลิกตำราสอนภาษา ชูเก่งอังกฤษแค่เรื่องขี้ผง 
 

 

 จากความพยายามแก้ปมอ่อนภาษาอังกฤษของเด็กไทย นำมาสู่กระบวนการวิจัยและพัฒนาหลักสูตรการสอนแนวใหม่ ในชื่อ D’Eng club ซึ่งหันกลับไปสู่การปูพื้นฐานที่ดีให้เด็กตั้งแต่ยังเล็ก ผ่านกระบวนการเรียนรู้สนุกสนาน และเป็นธรรมชาติ พร้อมนำระบบไอทีมาสนับสนุนการสอนให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม
      

 

อุบล สุทธนะ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซัม ซิสเท็ม จำกัด เผยว่า จากที่บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ รูปแบบดิจิตอล มากกว่า 10 ปี และเพื่อต่อยอดกระบวนการสอนภาษาอังกฤษให้เกิดผลสูงสุด จึงร่วมกับนักวิชาการด้านภาษาศาสตร์ นำทีมโดย ดร.นิสสัย แก้วแสนไชย ผู้เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ เพื่อวิจัยและพัฒนาหลักสูตรภาษาอังกฤษแนวใหม่ขึ้น ใช้เวลาร่วม 5 ปี ด้วยงบประมาณหลักล้าน
       
หลักสูตร D’Eng club มีแก่นหลัก คือ กลับไปมาหาธรรมชาติของมนุษย์ ที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ดีที่สุดจากความคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษหากให้เด็กได้เรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งฟัง และออกเสียงถูกต้องเหมือนเจ้าของภาษา (Phonics) ในวัยเหมาะสม ตั้งแต่ 4-8 ปี จะช่วยปูพื้นฐานที่ดีให้เด็กเหล่านี้เติบโตขึ้นเป็นผู้มีรากฐานภาษาอังกฤษยอดเยี่ยม
      
ทั้งนี้ วิธีจะให้เด็กอยู่ใกล้ชิดกับภาษาอังกฤษได้ในเวลานานๆ ต้องให้เขามีความสุข และเพลิดเพลิน จนไม่เกิดความรู้สึกว่ากำลังเรียนอยู่ ดังนั้น การสอนจะเน้นผ่านกิจกรรมการเล่นต่างๆ และนำไอทีมาเป็นตัวกระตุ้นความสนใจ เช่น เล่นเกมส์ผจญภัยกับตัวการ์ตูนสอดแทรกภาษาอังกฤษผ่านสื่อมัลติมีเดีย มีเกมส์ออนไลน์ช่วยทบทวนความรู้ให้เด็กเวลาอยู่บ้าน เป็นต้น

 

อุบล ยอมรับว่า หลักสูตร D’Eng club ไม่ได้มีการรับรองผลสัมฤทธิ์จากหน่วยงานภาครัฐ อย่างกระทรวงศึกษาธิการ ทว่า ในความเป็นจริง แม้แต่บุคลากรด้านการสอนภาษาอังกฤษของกระทรวงศึกษาธิการ ยังต้องมาอบรมความรู้ และขอคำปรึกษาหลักสูตรภาษาอังกฤษจากบริษัทฯ ดังนั้น หากจะให้กระทรวงศึกษาฯ รับรองหลักสูตรนี้ เท่ากับบริษัทฯ การันตีคุณภาพให้ตัวเอง
      
อย่างไรก็ตาม จากที่นำหลักสูตรไปทดสอบใช้จริงกับสถาบันสอนภาษาเด็กเล็กแห่งหนึ่ง เสียงสะท้อนของผู้ปกครอง เกือบ100% ระบุตรงกันว่า เด็กที่ผ่านการเรียนมีพัฒนาภาษาอังกฤษโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด เหนือกว่าเพื่อนร่วมชั้น

 

 
เจ้าของธุรกิจ เผยต่อว่า เมื่อได้หลักสูตรที่เชื่อว่าเกิดประโยชน์จริง อยากขยายผลไปสู่เด็กไทยในวงกว้าง เพื่อสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นอนาคตของชาติ เป็นที่มาของการสร้างเครือข่ายแฟรนไชส์ ปัจจุบัน มีรวมกัน4 สาขา ได้แก่ ใน กรุงเทพฯ คือ ย่านถ.นวมินทร์ สุขุมวิท ส่วนต่างจังหวัด คือ จ.กาญจนบุรี และระยอง
       
สำหรับรูปแบบการสอนของ D’Eng club เน้นเรียนรู้ผ่านการเล่นที่มีกว่า 32 กิจกรรม ใช้สื่อต่างๆ มาเป็นส่วนสำคัญในกิจกรรม และเสริมความรู้โดยครูผู้สอน แบ่งการเรียนเป็น 6 Levels ตั้งแต่ออกเสียง ผสมคำ สนทนา เป็นต้น เรียนทั้งหมด 16 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมง รวม 32 ชั่วโมง คิดอัตรา 6,000 บาทต่อคน
      
นอกจากนี้ นำระบบกล้องวงจรปิดมาเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ปกครอง สามารถเห็นพัฒนาการของลูกได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เวลาใด ซึ่งกล้องจะจับภาพจากห้องเรียน ให้ผู้ปกครองเห็นบรรยากาศการเรียนรู้ของลูกผ่านอินเตอร์เน็ท ชมผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์

 

 
ข้อแตกต่างประการหนึ่ง ระหว่าง D’Eng club กับสถาบันสอนภาษาทั่วไป คือ เปิดโอกาสให้เด็กทดลองเรียน 1 ครั้ง แล้วให้เขาตัดสินใจเองว่า อยากจะเรียนหลักสูตรนี้ต่อหรือไม่
      
“โดยทั่วไปผู้ปกครองจะเป็นคนตัดสินใจส่งลูกเข้าเรียนพิเศษ ซึ่งบางครั้งเด็กไม่ได้อยากเรียน กลายเป็นการต่อต้าน แต่สำหรับ D’Eng club หัวใจสำคัญ คือ เด็กต้องสนุก ไม่ยัดเยียดความรู้ ผลสำเร็จจึงเกิดขึ้น ดังนั้น การให้เขาทดลองเรียน แล้วรู้สึกสนุกจากกิจกรรมต่างๆ เด็กจะอยากเรียนอีกด้วยตัวเอง ช่วยให้พัฒนาทักษะให้เขาได้รวดเร็วเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องท่องจำ และยังช่วยสร้างทัศนคติแง่บวกต่อภาษาอังกฤษติดตัวไปจนโต”
      
ในแง่การลงทุนแฟรนไชส์นั้น อุบล เผยว่า ทำเลที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง แนะนำว่า ควรเป็นโซนหมู่บ้านจัดสรร หรือย่านชุมชนที่ผู้ปกครองเดินทางสะดวก ตั้งเป้าว่า ภายในปีนี้ (2551) จะมีเด็กผ่านหลักสูตร D’Eng club รวมกว่า 1,000 คน กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ได้แก่ เด็กที่มีผู้ปกครอง ฐานะระดับ B ขึ้นไป
      
ทั้งนี้ ในฐานะแฟรนไชซอร์ มีระบบสนับสนุนผู้ร่วมธุรกิจ เช่น ทีมสำรวจและประเมินทำเล จัดวางระบบซอฟต์แวร์ให้ทั้งหมด อบรมและคัดเลือกบุคลากรเพื่อเป็นผู้สอน และกันงบ 15% จากรายได้ของบริษัทฯ ไว้ส่งเสริมการตลาด
 
เงื่อนไขลงทุน
ค่าลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ 5.4 แสนบาท (สัญญา 5 ปี) บวกกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าตกแต่งสถานที่ ค่าระบบอุปกรณ์ไอที ฯลฯ เฉลี่ยพร้อมเริ่มธุรกิจ ใช้เงินลงทุนเบื้องต้น ประมาณ 1 ล้านบาท ต่อสาขารองรับเด็กได้ประมาณ 90-200 คน คาดการณ์คืนทุนภายใน 1 ปี อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการสาขา จ.ระยอง ซึ่งเป็นสาขาแรก สามารถคืนทุน ได้ในระยะเวลา 8 เดือน
      
อุบล ทิ้งท้ายว่า แม้ปัจจุบัน ธุรกิจการศึกษาจะแข่งขันกันสูง ทว่า จุดเด่นที่น่าลงทุนของแฟรนไชส์ D’Eng club คือ หลักสูตรที่ผ่านการวิจัยพัฒนามาแล้ว กับทีมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านภาษาอังกฤษ และเทคโนโลยีของบริษัทฯ รวมถึง จุดยืนการคัดเลือกผู้ร่วมธุรกิจที่เฟ้นเฉพาะผู้มีอุดมการณ์อยากสร้างอนาคตที่ดีแก่เยาวชนไทยเหมือนกัน
      
“โลกปัจจุบัน และในอนาคต เราปฏิเสธให้เด็กไปพบเจอสิ่งล่อแหลมในสังคมไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำอยู่ หวังว่า ช่วยสร้างความรู้ และจิตสำนึกที่ดี ให้เขารู้เท่าทัน เพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน ฉะนั้น ผู้จะประสบความสำเร็จกับธุรกิจนี้ ต้องพร้อมเป็นผู้ให้ด้วย อย่าหวังเพียงผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างเดียว”
        
โทร.02-363-4362-64 , www.sumsystem.com

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์

ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
157,519
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,645
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,650
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,807
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,558
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
55,082
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด