ดาวเด่นแฟรนไชส์    Daddy Dough ขึ้นแท่นผู้นำ ‘พรีเมี่ยม โดนัท’
18K
17 ธันวาคม 2553

Daddy Dough ขึ้นแท่นผู้นำ ‘พรีเมี่ยม โดนัท’
 

 

ย้อนกลับไปประมาณ 4-5 ปี เชื่อว่า โดนัทแบรนด์ Daddy Dough (แด๊ดดี๊ โด) คงยังไม่ค่อยติดหูใครมาก นัก ทว่านาทีนี้ต้องถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง แบรนด์ที่มีผู้บริโภครู้จักในวงกว้าง และได้รับความนิยมในการเลือกรับประทานอันดับต้นๆ ไม่แพ้โดนัทสอง บิ๊กแบรนด์ที่ครองตลาดมาอย่างยาวนาน

โดนัท Daddy Dough นั้น ต้องถือว่าเป็นโดนัทพรีเมี่ยมสัญชาติไทยแท้ เพียงแบรนด์เดียวเท่านั้นที่เกิดขึ้นมาด้วยมันสมอง สองมือของคนไทย และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและมี สาขามากมายเพียงระยะเวลาอันสั้น


 

โดย คุณปีเตอร์ ทวีผลเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แด๊ดดี้ โด (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ในรอบปีนี้บริษัทได้วางแผน ธุรกิจครอบคลุมในทุกเรื่อง แต่ก็ได้รับ ผลกระทบทางการเมืองในช่วงต้นปีถึง กลางปี ทำให้แพลนที่วางไว้สะดุดอยู่บ้าง แต่ก็ได้ผลักดันบิ๊กแคมเปญออกมา คือ การนำเสนอนวัตกรรมสินค้าใหม่ “ซีโร่ แกรมส์ ทรานส์ แฟต” (ZERO GRAMS TRANS FAT) ซึ่งมีความ พิเศษที่ตัวแป้งโดนัทไขมันทรานส์ต่ำ เป็นการพัฒนาคุณภาพแป้ง เพื่อตอบสนองต่อกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ

“นวัตกรรมตัวนี้ถือว่าโดนัทของ เราเป็นแบรนด์เดียวและแบรนด์แรกที่นำแป้งสูตรนี้นำมาใช้กับโดนัท เราสามารถพูดเรื่องนี้ได้อย่างเต็มปาก เกี่ยวกับเรื่องโดนัทเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะการไม่ใช้วัตถุดิบที่ส่งผลต่อสุขภาพ ซึ่งไขมันที่ใช้ในการผลิตโดนัทนั้น จะไม่ทำให้เกิดการอุดตันเส้นเลือด หรือหัวใจ เราจึงเรียกว่า ทรานส์แฟต (Trans Fat) โดยการผลิตโดนัทแบบนี้จะพิถีพิถันมากขึ้น ต้นทุนก็จะเพิ่ม แต่แด๊ดดี้ โด ก็พร้อมจะนำเสนอ เพราะถือเป็นแนวทางของบริษัท เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า”

อย่างไรก็ตาม หลังกระแสของ คริสปี้ ครีม โดนัทพรีเมี่ยมระดับโลก เข้ามาเปิดตลาดในไทย ซึ่งมีผู้คนจำนวน มากหลั่งไหลไปต่อแถวยาวรอซื้อ ส่งผลให้ตลาดโดนัทครุกรุ่นและทวีความรุนแรง ในการแข่งขันมากขึ้นนั้น จากตัวแปรนี้ส่งผลให้แด๊ดดี๊ โด ตื่นตัวเช่นกัน

ผู้บริหารคนเดิม ระบุว่า ก่อนหน้า ที่โดนัทแบรนด์ดังกล่าวจะเข้ามาทำตลาดในไทย ได้รับรู้ข่าวมาระยะหนึ่งแล้ว ต่อเมื่อได้เปิดตัวก็สร้างกระแสได้ดี ทำให้บริษัทก็จำเป็นต้องกลับมาทบทวนว่า ควรจะทำอะไรบ้างสำหรับแบรนด์ แด๊ดดี๊ โด
 

 

“คิดว่าถ้าทำตลาดเราต้องทำให้ สุดๆ แต่มันจะต้องใช้งบประมาณค่อนข้างเยอะ มันเกินตัว และหลุดคอนเซปต์ การดำเนินธุรกิจของเรา เปรียบเหมือน อึ่งอ่าง ที่พยายามพองตัวให้เท่าช้าง ทำ อย่างไงก็เท่าไม่ได้หรอก เพราะอย่าง คริสปี้ ครีม เขาเงินทุนหนา แบรนด์แข็ง ฉะนั้นจึงต้องกลับมาสู่การทำการ ตลาดแบบเบสิกของเราคือการทำสินค้าให้ดีขึ้น เน้นเรื่องโปรดักต์อินโนเวชั่น เพื่อทำให้ช่องว่างระหว่างแบรนด์เรากับ เขาเหลือแคบที่สุด หรือให้เท่าเขาหรือ ดีกว่า เช่นเดียวกับการฝึกอบรมพนักงานเรื่องการบริการให้ดีขึ้น พัฒนาตกแต่งร้านให้สวยขึ้น เพื่อให้ลูกค้าประทับใจ และบริหารจัดการลดคอสต์ให้น้อยลง แต่ไม่ต้องลดคุณภาพ ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการดำเนินธุรกิจ ของเราในรูปแบบที่มั่นคงและยั่งยืน” ปีเตอร์ พูดจริงจัง

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะขยายสาขา เพิ่มอีก 1 สาขา ในช่วงปลายปีนี้ที่ปั๊ม ปตท.พระราม 2 จากปัจจุบันมี 20 สาขา เป็น 21 สาขา และวางแผนจะขยายเพิ่มอีก 10สาขาในปีหน้า แบ่งเป็นสาขา ของบริษัท 5 สาขา และจะแตกไลน์ธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์อีก 5 สาขา เท่านั้น โดยมุ่งเน้นขยายเอาต์เล็ตไปยัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก ทั้งที่นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุดรธานี เป็นต้น เนื่องจากเป็นเส้นทางลอจิสติกส์ของบริษัท
 

 

สำหรับเงื่อนไขแฟรนไชส์ของแด๊ดดี้ โด นั้น ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 4.5 แสนบาท ค่ารอยัลตี้ฟี 5% ของยอดขาย และค่ามาร์เก็ตติ้งฟี 3% ของยอดขาย ภายใต้อายุสัญญาแฟรนไชส์ 10 ปี งบลงทุนแต่ละสาขาขนาดพื้นที่ 30-50 ตร.ม.จะตกราว 1.7-2 ล้านบาท

“การตัดสินใจทำแฟรนไชส์นั้น เราจะไม่ทำแบบเหวี่ยงแห แต่จะตรวจสอบประวัติ สอบถาม ดูความสนใจของคนที่มาติดต่อ อีกทั้งพิจารณาว่าเคยเป็นแฟรนไชซีของแบรนด์อื่น มาก่อน สามารถดำเนินธุรกิจแบรนด์ นั้นๆ ได้ดีหรือไม่ ซึ่งน่าจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้น้อยลง หลังจากร่วมมือกันแล้ว เราก็จะช่วยหาพื้นที่ให้, เทรนนิ่งระบบ 30 วัน, ออกแบบร้าน, จัดแกรนด์โอเพนนิ่ง และจะมีคนเข้า ไปตรวจสอบคุณภาพทุกเดือน เพราะเราคิดว่าถ้ามีระบบการบริหารจัดการ ที่ดีจากแฟรนไชซอร์แล้ว แฟรนไชซีจะสามารถบริหารงานได้ดี ทำให้แบรนด์ ของเราประสบความสำเร็จ”
 

 

ปีเตอร์ กล่าวถึงทิศทางธุรกิจในปี 54 ว่า บริษัทจัดสรรงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เพื่อใช้ไปกับการขยายโรงงานเพิ่ม เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต อีก ทั้งเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่มาตรฐาน GMP ทั้งนี้ในปีหน้าบริษัทมีแผนจะออก แคมแปญและผลิตโดนัทนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาทุกๆ ไตรมาส พร้อมกับการลอนช์น้ำสุขภาพแนวใหม่ มาจำหน่ายเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีเครื่องดื่ม กาแฟ ช็อกโกแลต และฟรุตพันซ์ เป็นอาทิ พร้อมกันนี้จะจัดทำบัตรสมาชิกรูปแบบ ใหม่ ที่แตกต่างจากเดิมให้กับฐานสมาชิก ที่มีอยู่ประมาณ 2 หมื่นราย ให้ได้สิทธิประโยชน์ในการซื้อสินค้ามากขึ้น อย่างไรก็ดี คาดการณ์ว่าในปีนี้ รายได้ ทั้งหมดของบริษัทจะทำที่ 120 ล้านบาท เติบโตประมาณ 20%

“เชื่อว่าสถานการณ์การแข่งขัน ตลาดโดนัทในปีหน้าน่าจะดุเดือดรุนแรง มากขึ้น เพราะมีผู้เล่นเดิมและผู้เล่น รายใหม่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเพิ่ม ดังนั้น ทุกแบรนด์จำต้องหากลยุทธ์เพื่อ ให้ผู้บริโภคเกิดแบรนด์ลอยัลตี้ และในส่วนของเราเองนั้นก็มองว่าจะมุ่งแข่ง กับตัวเองมากกว่า โดยเฉพาะการเน้น ออกโปรดักต์ใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใครเพื่อให้สินค้าตัวเองมีความแตกต่างไป จากโดนัทแบรนด์อื่นๆ” เอ็มดีหนุ่ม กล่าวอย่างมุ่งมั่น
 
อ้างอิงจาก สยามธุรกิจ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  www.facebook.com/daddydough/timeline

ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
157,522
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,645
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,650
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,808
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,558
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
55,082
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด