ดาวเด่นแฟรนไชส์    เมี่ยงปลาเผา อาหารพื้นบ้านยกระดับสู่ธุรกิจแฟรนไชส์
14K
29 สิงหาคม 2554

"เมี่ยงปลาเผา" อาหารพื้นบ้านยกระดับสู่ธุรกิจแฟรนไชส์

 

เมี่ยงปลา อาหารพื้นบ้านที่คนอีสานรู้จักกันดี แต่ด้วยรสชาติจัดจ้านของน้ำจิ้มและเครื่องเคียง ผักสด ถูกใจคนรักสุขภาพยิ่งนัก ทำให้เมี่ยงปลาอาหารพื้นบ้านภาคอีสานได้ถูกนำมาปรับโฉมหน้าใหม่ในแบบฉบับที่คนทุกภาครับประทานได้
      
สำหรับร้านเมี่ยงปลาเผามีสูตรให้ได้เลือกรับประทานกันหลายรูปแบบ และหนึ่งในนั้น เป็นสูตรแฟรนไชส์เมี่ยงปลาทับทิมของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด ที่ได้ถือกำเนิดธุรกิจแฟรนไชส์ดังกล่าวขึ้นมาจาก ทางบริษัทได้ผลิตสายพันธุ์ปลาทับทิมออกสู่ตลาด และเมี่ยงปลาเผา น่าจะเป็นช่องทางในกระจายปลาทับทิมออกสู่ตลาดได้ และเป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับผู้ที่ต้องการมีอาชีพ
 


 

นายอดิศร์ กฤษณวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสธุรกิจอาหารสัตว์น้ำจืด เล่าว่า สำหรับแฟรนไชส์เมี่ยงปลาทับทิมของทางบริษัท แตกต่างจากเมี่ยงปลาของรายอื่นๆ เพราะทางบริษัทจะผลิตและคัดปลาที่มีคุณภาพ ที่ผ่านการเลี้ยงจากบ่อ และฟาร์มจากเกษตรกรที่ทางบริษัทส่งเสริมเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีอยู่เกือบทั่วประเทศประมาณ 5,000 บ่อ แต่ที่ทางบริษัทคัดเลือกมาทำเมี่ยงปลาย่าง จะนำมาจากบ่อที่มีคุณภาพน้ำที่ดี เนื่องจากปลาทับทิมนั้นหัวใจสำคัญอยู่ที่คุณภาพของน้ำ ซึ่งปลาที่นำมาทำเป็นปลาย่างส่วนใหญ่จะมาจากบ่อในแถบลุ่มน้ำแม่กลอง แม่น้ำแควใหญ่ แควน้อยในแถบจังหวัดกาญจนบุรี

 

      
ดังนั้น เนื้อปลาที่ได้จะมีความหวาน และไม่เหม็นคาว อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นจังหวัดที่อยู่ไกลๆ ทางบริษัทก็จะเลือกใช้แหล่งผลิตปลาที่อยู่ใกล้ๆจังหวัดนั้น เพื่อสะดวก และง่ายต่อการขนส่ง ที่สำคัญทำให้แฟรนไชส์ได้ปลาที่สดใหม่ทุกวัน นอกจากนี้ ในส่วนของน้ำจิ้มทางบริษัทจะมีสูตรน้ำจิ้ม ที่เป็นสูตรเฉพาะของเรา ซึ่งไม่เหมือนคนอื่นๆ อย่างแน่นอน ลูกค้าแฟรนไชส์จะต้องเลือกใช้น้ำจิ้มของเราเช่นกัน
 

 

สำหรับแฟรนไชส์ 2 รูปแบบ

  1. แฟรนไชส์ออกจากบริษัทโดยตรง
  2. แฟรนไชส์ที่เกิดขึ้นจากตัวแทนจำหน่ายเป็นผู้ดำเนินการขยายสาขาเอง โดยอยู่ภายใต้กรอบการควบคุมดูแลคุณภาพของปลาสดและปลาย่างจากทางบริษัท
ส่วนราคาแฟรนไชส์ 15,000 บาท ลูกค้าจะได้รับอุปกรณ์ ดังนี้ ตู้ย่างปลาขนาด 10 หัว (แบบให้ยืม) ผ้ากันเปื้อน ธงญี่ปุ่น และลูกค้าแฟรนไชส์จะต้องรับปลาและน้ำจิ้มจากของเราเท่านั้น ส่วนวัตถุดิบ ผักสด และของอื่นๆ ลูกค้าแฟรนไชส์สามารถจัดซื้อได้เอง ลูกค้าแฟรนไชส์จะต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนในการซื้อวัตถุดิบประมาณ 3,000 บาท ถึง 4,000 บาท

      
ทั้งนี้ โอกาสการคืนทุนขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง ส่งผลให้ยอดขายของแฟรนไชส์แต่ละรายมีรายได้มากน้อยไม่เท่ากัน โดยยอดขายขั้นต่ำต่อวันไม่ควรจะต่ำกว่า 20 ตัว ซึ่งถ้าจะให้ดีอยู่ที่ประมาณ 30-40 ตัวต่อวัน ถ้ามีปัญหาเรื่องของยอดขายที่มาจากทำเล ทางเราช่วยแนะนำและหาทำเลใหม่ให้
 

 


ส่วนราคาขายหน้าร้านของแต่ละแฟรนไชส์ไม่เหมือนกัน โดยทางเราอนุญาตให้แฟรนไชส์แต่ละแห่งตั้งราคาขายกันเอง ว่าต้องการจะขายเท่าไหร่ ซึ่งราคาเริ่มต้นอยู่ที่ตัวละประมาณ 70 บาทถึง 80 บาท ไปจนถึงหลักร้อยบาท มีแฟรนไชส์บางรายสามารถขายได้ถึงตัวละ 250 บาท ทั้งนี้ ราคาก็คงต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยต้นทุนหลายๆอย่าง ซึ่งทางบริษัทไม่บังคับ แต่สิ่งที่แฟรนไชส์ทุกรายต้องปฏิบัติเหมือนกัน คือ ต้องผ่านการอบรมจากเราและใช้อุปกรณ์และวัตถุดิบตามที่บริษัทจัดให้ โดยต้นทุนราคาปลาสดที่ทางบริษัทจัดส่งให้ในปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 75 บาท ซึ่งลูกค้าแฟรนไชส์จะได้กำไรประมาณ 15-20%
      
นายอดิศร์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของแฟรนไชส์เมี่ยงปลาทับทิม ถือว่าประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก เพราะเพิ่งเปิดตัวได้ประมาณ 5 ปี สามารถขยายสาขาได้มากถึง 500 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ ปริมณฑล 300 สาขา และในต่างจังหวัด 200 สาขา ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ คือ ประมาณ 20% ต่อปี หรือ 100 สาขาต่อปี ส่วนหนึ่งที่ทำให้แฟรนไชส์ปลาเผาขยายตัวอย่างรวดเร็ว คงมาจาก ปัจจุบันคนหันมาใส่ใจเรื่องของสุขภาพ และหันมากินปลามากขึ้น
 

 


"ส่วนของการแข่งขันปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ทำเมี่ยงปลาขาย เช่นกัน ซึ่งบางรายจะใช้ปลานิล และปลาทับทิมเหมือนกับเรา แต่เรามั่นใจในคุณภาพปลาที่เพาะเลี้ยงจากฟาร์มของเราว่ามีคุณภาพดี และลูกค้ามั่นใจเรื่องของความปลอดภัย เพราะเราจะให้ความสำคัญในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค จึงไม่ได้มองเรื่องคู่แข่งมากนัก ซึ่งต้องยอมรับว่าสินค้าในตลาดส่วนใหญ่จะราคาถูกกว่าเรา แต่คุณภาพปลาไม่เหมือนกันสุดท้ายต้องหันมาเลือกซื้อและกินของเรา"

นอกจากนี้ ในช่วงนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนาสายพันธุ์ปลาทับทิมทะเล เพื่อช่วยเหลือเกษตกรที่อยู่ทางภาคใต้ติดทะเล และต้องการเลี้ยงปลาทับทิม ในตอนนี้ได้มีการทดลองเป็นผลสำเร็จ และกำลังลงไปแนะนำเกษตรกรที่สนใจ โดยแนะนำให้เลี้ยงในกระชังปลา หรือ เลี้ยงในบ่อกุ้งเดิมที่มีน้ำกร่อย เพราะสายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นมา พบว่าถ้าเลี้ยงในบ่อเลี้ยงน้ำกร่อยจะเติบโตได้ดี ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะขยายแฟรนไชส์เมี่ยงปลาทับทิมทะเลในภาคใต้ด้วยเช่นกัน ใครสนใจ โทร.02-675-8800 ต่อ 1828 


อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์

ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
157,522
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,645
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,650
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,808
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,558
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
55,082
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด