“ช่วงหลายปีมานี้ถ้าถามว่า มีธุรกิจไหนที่คนให้ความสนใจมากที่สุดลำดับต้นๆ ต้องมีร้านกาแฟสดรวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอนโดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่แล้ว ร้านกาแฟสดล้วนเป็นธุรกิจที่หลายๆ คนอยากเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งก็เพราะภาพลักษณ์ของความเป็นธุรกิจชิวๆ ต้นทุนต่ำ กำไรงาม”

คุณจำรัส พานเพียรศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.อาร์.แอล.สยาม จำกัด และ บริษัท อกรินโนเวท จำกัด นักธุรกิจที่สวมหมวกหลายใบซ้อนๆ กันไปทั้งพ่อค้านักประดิษฐ์ นักวิจัย ผู้คลุกคลีในแวดวงของเครื่องจักรกลการเกษตร โดยเฉพาะอุปกรณ์การเลี้ยงสัตว์ ก่อนจะหันมาสนใจในธุรกิจกาแฟสดเปิดประเด็นขึ้น และระบุว่า

 

“ตอนนี้ไม่ว่าเราจะไปไหนก็จะเห็นร้านกาแฟสดเยอะมาก บางที่ตั้งใกล้ๆ กันผู้บริโภคก็มีตัวเลือกเยอะ แต่เจ้าของร้านคงไม่มีความสุขนัก บางที่ไปตั้งทำเลไม่ค่อยดี ขายได้น้อยแก้วไม่พอค่าเช่าหน้าร้านก็อยู่ไม่ได้ อย่างแถวๆ ออฟฟิศนี่อย่าคิดว่าดีเสมอ
 

ไปนะ บางสถานที่ขายได้แค่ช่วงกลางวันเท่านั้นเพราะตอนเช้าก็อาจจะมีกลุ่มลูกค้าบางคนก็รีบไปตอกบัตรเข้าออฟฟิศ ส่วนตอนเย็นก็อาจจะมีกลุ่มลูกค้าบางคนก็อาจจะรีบกลับบ้านก็มีเหมือนกัน”

 

ทั้งนี้ ด้วยความเป็นคนชอบดื่มกาแฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้วบวกกับไอเดียว่าอยากให้มีรถขายกาแฟสดเหมือนอย่างรถขายกาแฟโบราณที่สามารถเสิร์ฟกาแฟสดหอมกรุ่นได้ทุกที่ ทำให้คุณจำรัสซึ่งเข้าร่วมโครงการวิศวกรรมย้อนรอยกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อนในการวิจัยสร้างเครื่องชงกาแฟสดราคาประหยัดของไทยขึ้นมา จึงได้นำเครื่องชงกาแฟที่คิดค้นขึ้นมาเองมาผสานกับความเชี่ยวชาญในระบบแก๊สฮีตเตอร์ของทางบริษัท รวมทั้งแผงโซลาร์เซลล์มาประกอบรวมกันเป็น รถขายกาแฟสดเคลื่อนที่ หรือชื่อเก๋ๆ ที่คุณจำรัสเรียกว่า “กาแฟจรยุทธ” หรือ Moffee (Mobile Coffee)

“ตอนเราทำวิจัยร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ปัญหาหนึ่งที่เราพบหลังจากสร้างเครื่องชงกาแฟที่ราคาถูกกว่าเครื่องนอกที่ต้องนำเข้าก็คือ เรื่องของสถานที่ คนที่สนใจอาจซื้อเครื่องชงกาแฟสดของเราไปในราคาที่ต่ำกว่าของนอก แต่ใช้ได้เหมือน และบางอย่างดีกว่า แต่เขาก็ต้องประสบปัญหาเรื่องของสถานที่

ซึ่งถ้าไม่ดีจริงๆ ก็อยู่ไม่ได้และทางเราเองก็ไม่อยากให้คนที่สนใจในธุรกิจนี้ แต่ไม่มีทำเลที่ดี พอซื้อเครื่องชงกาแฟของเราไปแล้วทำธุรกิจเจ๋ง ก็เลยมาคิดหาทางเพิ่มตัวเลือกให้คนสนใจธุรกิจกาแฟสดให้เขามีทางเลือกนอกเหนือไปจากการตั้งเป็นร้านหรือขายอยู่กับที่เท่านั้น”

 

คุณจำรัส บอกว่า รถขายกาแฟสดจรยุทธนั้นถูกนำมาเปิดตัวใน “งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย” หรือ Technomart innomart 2012 ที่ไบเทค ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยี และนวัตกรรมของไทย ผลงานที่คนไทยคิดค้น เพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงนำมาต่อยอดทางธุรกิจ ลดการนำเข้าเครื่องจักร โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯช่วยสนับสนุนทุนและการวิจัย ร่วมกันซึ่งนับเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจอย่างมาก

 

คุณจำรัสบอกว่า ในงานนี้ได้แสดงโมเดลธุรกิจ ที่นำเทคโนโลยีที่เราคิดค้นมาต่อยอดธุรกิจ ไม่ได้เน้นขาย เพราะยังไม่มีของ แต่ต้องการให้คนที่มีโอกาสมาเที่ยวชมงานได้รู้ว่า ตอนนี้คนไทยทำได้แล้วนะ ซึ่งไม่เพียงรถขายกาแฟจรยุทธคันนี้ ซึ่งเป็นคันแรกของโลกเท่านั้นยังมีบูธชงกาแฟสด ราคาย่อมเยา กาแฟร้อน 15 บาท เย็น แก้วเล็ก 20 บาท และแก้วใหญ่ 22 บาท ให้ชิม พร้อมอวดเครื่องไม้เครื่องมือในการชงกาแฟสดอันเป็นผลงานร่วมกับทางกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบดเครื่องสีกะลากาแฟอัตโนมัติ เครื่องคั่ว และเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติระบบจอสัมผัส

 

สำหรับรถชงกาแฟจรยุทธที่เป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของงานเทคโนโลยี และนวัตกรรมของไทยในปีนี้นั้น ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีที่คนไทยคิดค้นขึ้นเองไม่ว่าจะเป็นระบบแก๊สฮีตเตอร์กับหม้อต้มที่สามารถทำงานได้ตลอดชงไป บดไป ตีฟองนมไปได้ด้วย เพราะสามารถควบคุมปริมาณแก๊สให้ใช้ได้อย่างพอเพียง และคุ้มค่าที่สุด นอกจากนี้ยังติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ไว้ที่หลังคารถ สำหรับชาร์จพลังงานเก็บไว้ได้ ทำให้สามารถบุกป่าฝ่าดงไปขายได้ทุกที
 

และสำหรับคนสนใจในธุรกิจกาแฟสดอยากมีร้านของตัวเอง คุณจำรัสบอกว่า ยินดีอบรมให้ฟรี และมีแฟรนไชส์อุปกรณ์ครบในราคา 80,000 บาท ส่วนใครอยากจะลองเป็นคนแรกๆ ของประเทศไทยหรือของโลกที่ขายกาแฟสดเคลื่อนที่นั้นรอไม่เกินปีหน้าน่าจะมีแฟรนไชส์รถ Moffee 1 คัน พร้อมอุปกรณ์อยู่ที่ราคาประมาณ 220,000 บาท ต่อไป

อ้างอิงจาก แนวหน้า