สถานการณ์ที่ทัพแฟชั่นนอกบุกเข้ามา ยึดพื้นที่ในเมืองไทยเพื่อทำตลาด ทำให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมแฟชั่นมีสีสัน และมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 20% หรือกว่า 3-4 แสนล้านบาท ยิ่งถ้าเปิดเออีซีด้วยแล้ว มูลค่าตลาดรวมจะมหาศาล อย่างน้อยเติบโตกว่า 50% ตลาดแฟชั่นจึงหอมหวนสำหรับแบรนด์นอก

แต่สำหรับ "แบรนด์ไทย" แล้ว นี่คือจุดพลิกเปลี่ยนสำคัญ เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ปี 2556 แบรนด์สัญชาติไทยต้องออกอาวุธกันอุตลุดเพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า ยึดพื้นที่ขายเอาไว้ให้ได้
 

 

"สมชัย ส่งวัฒนา" ประธานบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ บริษัท แอท แบงค็อก จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าฟลายนาว ยอมรับว่า "วันนี้เราต้องการเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น และทำอย่างไรเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าในวัยที่เร็วขึ้น หรือวัยที่เด็กลง โดยไม่ต้องรอจนทำงานแล้วมีเงินก่อน"

 

 

 

ฟลายนาวจึงนำเสนอแบรนด์ใหม่ผ่านช่องทางเดิมซึ่งปี 2556 เตรียมออกแบรนด์ใหม่ชื่อ "การ์เด้น" และ "ทรี"

 

ขณะที่ "คลอเส็ทฯ" ที่มี "มลลิกา เรืองกฤตยา" เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท คลอเส็ท ดีไซน์ จำกัด ก็หันมาเลือกขยายไลน์สินค้าแอ็กเซสซอรี่เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าให้เด็กลง และเข้าถึงง่ายส่วนขาใหญ่ "ยัสปาล" เปิดตัวแบรนด์ใหม่เพื่อสร้างลูกค้าเพิ่ม คือ Royal Ivy Regatta และ Misty Mynx จากที่มี Jaspal, CPS Chaps, cc-oo, Lyn Around ฯลฯ
 

ไม่เพียงเท่านั้น หลายแบรนด์ยังเลือกหาช่องทางขายใหม่ ๆ ด้วยการหันไปให้ความสำคัญกับการขายผ่านออนไลน์ในรูปแบบฝากขายผ่านเว็บไซต์ช็อปปิ้ง หรือสร้างระบบอีคอมเมิร์ซของตัวเอง โดยผู้นิยมใช้คือมีทั้งแบรนด์ที่มีอยู่แล้ว และแบรนด์ใหม่ระดับล่างและกลาง 
 

 

โอกาสของแบรนด์ไทยจึงยังมี "แสงสว่าง"โดยเฉพาะโอกาสจากเออีซี ที่จะช่วยสร้างแรงส่งให้กับตลาดอย่างมหาศาล ซึ่งแฟชั่นจากฝีมือคนไทยก็ได้รับสิทธิ์นั้น หากเตรียมพร้อม ดังเช่นบริษัท พีน่า เฮาส์ จำกัด (มหาชน) ที่มีแบรนด์แฟชั่นในเครือ 4 แบรนด์คือ พีน่า, พีน่าพลัส, เท็นแอนด์โค, เซเว่นทีน คลับ จับลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่ม ซึ่งมองการขยายตลาดไปยังประเทศอินโดจีน อาทิ พม่า เวียดนาม ลาว ในรูปแบบการขายแฟรนไชส์ และปี 2556 จะมีแผนลงทุนที่ชัดเจนออกมา

 

ส่วนค่ายเอทูแซด และเวิร์คช็อป ของ "ปิยะ ธนากิจอำนวย" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท รีโน (ประเทศไทย) จำกัด ก็รุกหนักด้วยการตั้งเป้าหมาย 10 ปีข้างหน้า จะนำแบรนด์เอทูแซด และเวิร์คช็อป ก้าวสู่รีจินอลแบรนด์กับเครือข่าย 80-100 สาขาครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากเข้าไปทำตลาดเชิงลึกในดูไบ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน มาเลเซีย ตะวันออกกลาง กัมพูชา พม่า ลาว เพื่อปูทางมาแล้ว
 

 

 

ควบคู่ไปกับมองอนาคตระยะ 20 ปีด้วยเป้าหมายสูงสุดในการขยายตลาดให้ครอบคลุมภูมิภาคเอเชีย

 

ด้านหน้าใหม่ที่อยากเข้ามาในตลาด ก็ยังคงตบเท้าเข้ามาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะระดับกลางถึงบน อาทิ วิคธีร์รัฐ (Vickteerut) มิลิน (Milin) คูเรเทด (Curated) ขวัญข้าว (Kwankao) และวทานิกา (Vatanika) เพราะหากดูจากพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่ให้ความสนใจกับกลุ่มแฟชั่นเสื้อผ้าในอันดับต้น ๆ ปี 2556 นี้ คงจะเป็นปีที่อุตสาหกรรมแฟชั่นแข่งขันกันดุเดือด โดยเฉพาะแบรนด์ไทย คงต้อง เตรียมอาวุธลับเอาไว้อีกมาก

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ