ไอศกรีมสอดไส้ ไอเดียรับลมร้อน หนุนแฟรนไชส์ LOVE LOAD
อากาศร้อนๆแบบนี้ อุณหภูมิความร้อนที่คล้ายว่ากำลังจะทะลุปรอท ทำให้ธุรกิจที่ดับกระหายคลายร้อน อย่างเครื่องดื่มเย็น หรือไอศกรีมเป็นสิ่งที่หลายคนมองหา และเช่นเดียวกัน สำหรับคนที่กำลังมองหาอาชีพ วันนี้มีร้านแฟรนไชส์ไอศกรีมแปลกมานำเสนอ
สำหรับชื่อ CLUB SWEETY หลายคนที่ชื่นชอบไอศกรีมโฮมเมดคงจะคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นสถานที่เปิดสอนการทำไอศกรีมที่มีผู้สนใจไปเรียนค่อนข้างมาก เพราะผู้สอน “ นิมณิชา กรรณเลขา” เจ้าของ ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลไปร่ำเรียนการทำไอศกรีมมาจากหลายประเทศ
เช่น สถาบันสอนทำไอศกรีมเจลาโตจากประเทศอิตาลี สิงคโปร์ และได้มีโอกาสไปเรียน Food Science ด้านไอศกรีมจากสหรัฐอเมริกา รวมถึงสถาบันชั้นนำอีกหลายแห่งด้านไอศกรีมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก่อนจะเป็นที่มาของ CLUB SWEETY
นิมณิชาเล่าว่า ส่วนตัวชื่นชอบการทำและกินไอศกรีมเป็นอย่างมาก เมื่อได้มีโอกาสไปศึกษาต่อต่างประเทศก็ได้รู้จักสถาบันสอนการทำไอศกรีมที่มีชื่อเสียงจึงตัดสินใจไปเรียนการทำไอศกรีม และมุ่งมั่นตั้งใจ ว่าเมื่อกลับมาเมืองไทยจะมาทำไอศกรีมในรูปแบบที่เป็นสากลให้คนไทยได้กินกัน และจากความรู้ที่ได้ไปเรียนมาทำให้ต้องการจะถ่ายทอดสู่ผู้ที่สนใจการทำไอศกรีม จึงได้เปิดสอนควบคู่ไปกับการทำไอศกรีมขาย
ปัจจุบัน CLUB SWEETY ทำธุรกิจไอศกรีมออกมาหลายรูปแบบ ทั้งการเปิดสอนผู้ที่สนใจ พร้อมจำหน่ายอุปกรณ์การทำไอศกรีมนำเข้าจากต่างประเทศ และจากการไปเรียนด้าน Food Science เกี่ยวกับไอศกรีมมาจากต่างประเทศ ทำให้เราสามารถคิดออกแบบไอศกรีมที่เหมาะต่อความต้องการของผู้บริโภค จึงได้เป็นที่มาของธุรกิจรับผลิตและออกแบบไอศกรีมตามคำสั่งของลูกค้า ซึ่งมีลูกค้าที่เป็นบริษัทชั้นนำที่ต้องการไอศกรีมในลักษณะของซิกเนเจอร์ให้สินค้าแบรนด์ของตนเอง
ล่าสุด ปีนี้ทาง CLUB SWEETY เอาใจกลุ่มคนที่ต้องการขายไอศกรีมแต่ไม่อยากลงทุนทำเอง ได้เปิดเป็นแฟรนไชส์ ชื่อว่า LOVE LOAD เป็นร้านขายไอศกรีมที่ทำออกมา 3 รูปแบบ คือ
- ชุดเล็ก Kiosk ราคา 69,000 บาท ได้อุปกรณ์ครบชุด และไอศกรีม 60 เซต
- แบบที่ 2 ขนาดกลาง Booth ได้อุปกรณ์ครบชุด และไอศกรีม 11 ถาด ราคา 200,000 กว่าบาท ให้ลูกค้าไปตักเสิร์ฟขายเองหน้าร้าน
- แบบที่ 3 ขนาดใหญ่ Corner ได้อุปกรณ์ครบชุด และไอศกรีม 11 ถาด ราคา 300,000 กว่าบาท
ในส่วนของไอศกรีม มีให้เลือกขณะนี้ทั้งหมด 5 หมวด 30 รสชาติ เป็นไอศกรีมรสชาติแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครในตลาดที่เป็นซิกเนเจอร์ของเรา เช่น ไอศกรีมวาซาบิ เฉาก๊วย กล้วยชีส ซอร์เบต ไอศกรีมผลไม้ไขมันต่ำ เน้นความเป็นผลไม้จริงในเนื้อไอศกรีม ไอศกรีมโยเกิร์ต และไอศกรีมผสมแอลกอฮอล์ และสำหรับหน้าร้อนเดือนเมษายน ปีนี้ ทางร้านได้แนะนำไอศกรีมตัวใหม่ คือ ไอศกรีมสอดไส้ เป็นการสอดไส้รสชาติต่างๆ ไว้ภายในไอศกรีม เช่น ผลไม้ต่างๆ มีทั้งสตรอเบอร์รี บลูเบอร์รี มะม่วง เป็นต้น ไอศกรีมสอดไส้ขนมไทยอย่างสังขยา และไอศกรีมอัลมอนด์
สำหรับราคาไอศกรีม ขายหน้าร้านถ้วยละ 49 บาท ขายส่งถ้วยละ 27 บาท ส่วนไอศกรีมสอดไส้ราคาถ้วยละ 80 บาท ตอนนี้ทำขายเองอย่างเดียว ยังไม่ได้ทำส่งลูกค้าแฟรนไชส์เพราะไอศกรีมสอดไส้ทำค่อนข้างยาก และต้นทุนสูง เนื่องจากตัวไส้ต้องใช้วัตถุดิบคุณภาพดีจึงจะได้รสชาติที่ไปกันได้กับตัวเนื้อไอศกรีม
ส่วนของการลงทุนแฟรนไชส์นั้น คาดว่าน่าจะคืนทุนได้ประมาณ 4-8 เดือน ซึ่งทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับต้นทุน และยอดขาย ส่วนกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เนื่องจากเป็นไอศกรีมโฮมเมดราคาค่อนข้างสูง จึงเจาะกลุ่มลูกค้าตลาดกลางไปจนถึงบน ซึ่งจุดเด่นและจุดขาย LOVE LOAD อยู่ที่การคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพ และเป็นไอศกรีมที่มีการครีเอตรูปแบบใหม่ตลอดเวลา และลูกค้าแฟรนไชส์ได้นำเสนอสิ่งใหม่แก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
โดยแผนการตลาด ตั้งเป้าขยายแฟรนไชส์เพียงแค่ 10 สาขาต่อปี เพราะไม่ต้องการให้ลูกค้าแฟรนไชส์เกิดการแข่งขันกันเองสูงเกินไป และเนื่องจากเป็นไอศกรีมที่ราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น ทำเลในการขายจึงเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับแผนการตลาดที่ตั้งไว้คือ การทำให้ไอศกรีมแบรนด์ของคนไทยได้มีโอกาสไปเติบโตในต่างประเทศเช่นเดียวกับแบรนด์ชั้นนำ เพราะมั่นใจในเรื่องของคุณภาพ และดีไซน์ว่าสามารถสู้แบรนด์ต่างประเทศได้อย่างแน่นอน โดยเริ่มจากตลาดในภูมิภาคอาเซียน AEC ก่อน และค่อยขยับไปยังประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง ต่อไป
29 พฤษภาคม 2556 
157,522
