ดาวเด่นแฟรนไชส์    พิษณุโลก ราม่า ลูกชิ้นคัดคุณภาพ ปูพรมแฟรนไชส์ทั่วไทย
2.3K
20 ตุลาคม 2560
พิษณุโลก ราม่า ลูกชิ้นคัดคุณภาพ ปูพรมแฟรนไชส์ทั่วไทย


 
ความเก่าแก่ของกิจการลูกชิ้นพิษณุโลก ราม่า ที่มีมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ คงจะพอการันตีได้ถึงความเก๋าของสินค้าว่า ถ้าไม่เจ๋งจริงก็คงไม่อยู่ตราบจนถึงทุกวันนี้ แต่ช่วงหนึ่งสินค้าเกิดถูกลอกเลียนแบบ แถมปราศจากคุณภาพ มาวันนี้เจ้าของกิจการเลยตัดสินใจลุกขึ้นประกาศศักดาว่าของจริง ยังไงก็เป็นของจริง พร้อมกับเฟ้นหาผู้ร่วมธุรกิจ
 
เลื่องชื่อมานาน 50 ปี เกือบวิกฤต เจอศึกราคา

คุณธนิตศักดิ์ อิงคะกิตติโรจน์ เจ้าของลูกชิ้น พิษณุโลก ราม่า เท้าความว่า ย้อนกลับไป 50 ปีที่แล้ว คุณพ่อเดินทางมาจากเมืองจีน ท่านเชี่ยวชาญการทำลูก ชิ้น พอเข้ามาอาศัยในประเทศไทยก็นำวิชาการทำลูกชิ้นมาประกอบอาชีพเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว โดยแรงงานหลักคือ ลูกๆ ทั้ง 6 คน ซึ่งลูกชิ้นที่ทำขายเริ่มแรกเป็นลูกชิ้นเนื้อวัว ตีด้วยมือไม่ใช้เครื่อง ไม่มียี่ห้อ เวลาขายจะใส่ถุงมัดด้วยเชือกฟางสีแดง ขายอยู่แถวโรงหนัง ลูกค้าในสมัยนั้นต่างเรียกขานกันว่า ลูกชิ้นโบแดง หรือ ลูกชิ้นราม่า และเนื่องจาก 50 ปีที่แล้ว ราคาเนื้อวัวไม่สูง ฉะนั้น จะขายลูกชิ้นกิโลกรัมละประมาณ 11 บาท


 
คุณธนิตศักดิ์ เล่าต่อว่า กิจการลูกชิ้นเนื้อของตนได้รับความนิยมสูงมาก คนในพิษณุโลกถึงขนาดซื้อไปฝากเพื่อนฝูงที่ต่างประเทศ ลูกค้าก็ร่ำลือปากต่อปาก จนมีชื่อเสียงโด่งดังข้ามจังหวัด ขายดิบขายดี มีลูกค้าหลายจังหวัดรับไปขายต่อ อาทิ อุตรดิตถ์ พิจิตร ชัยนาท จนกระทั่งปี 2540 คุณพ่อล้มป่วย ประกอบกับตลาดลูกชิ้นเกิดการแข่งขันสูงมาก เลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว
 
สำหรับลูกชิ้นเนื้อที่ครอบครัวของคุณธนิตศักดิ์ขาย เจ้าตัวบอกว่า เป็นสูตรโบราณ ใช้เนื้อวัวล้วนไม่ผสมแป้ง ปราศจากสารกันบูด ตีด้วยมือ ปั้นด้วยมือ ยุคแรกๆ ขายดีมาก เน้นขายส่ง จนประมาณปี 2540 มีโรงงานลูกชิ้นเกิดขึ้นเยอะมาก ส่วนใหญ่จะผลิตลูกชิ้นเนื้อขายในราคาถูกประมาณกิโลกรัมละ 30 บาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะเนื้อวัวก็กิโลกรัมละ 200 กว่าบาท เป็นไปได้ว่าลูกชิ้นอาจมีสิ่งปลอมปน เช่น สี วัตถุกันเสีย สารเหนียว ในฐานะคนที่อยู่ในวงการลูกชิ้นมานานเห็นใจผู้บริโภค ประกอบกับอยากประชาสัมพันธ์สินค้า เลยตัดสินใจเปิดหน้าร้าน ชูจุดขายลูกชิ้นเนื้อล้วน ปราศจากสารเคมี รวมถึงสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ

เพราะลูกชิ้นก็คือลูกชิ้น ลูกกลมๆ หน้าตาเหมือนกันหมด ฉะนั้น การที่คุณธนิตศักดิ์สร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองว่า “ลูกชิ้นพิษณุโลก ราม่า” หรือ “ลูกชิ้นราม่า” รวมถึงสร้างหน้าร้านให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จัก นับเป็นทางออกที่ดี
 
 
 
ขอผงาดอีกครั้ง กลยุทธ์เพียบ
 
เจ้าของร้าน บอกต่อว่า ช่วงที่ลูกชิ้นราคาถูกเข้ามาตีตลาด ทำให้ยอดขายลูกชิ้นของเขานั้นลดลงเกือบครึ่ง เป็นปัญหาที่ต้องรีบแก้ไข วิธีการก็คือ จากเดิมที่เน้นขายส่งก็เพิ่มขายปลีก เปิดหน้าร้านขายอาหารด้วย อาทิ สุกี้ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น ลูกชิ้นทอด ลูกชิ้นปิ้ง

“ผมตั้งใจจะโชว์ลูกชิ้นที่ทำมานานให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จัก มีลูกชิ้นเนื้อวัวแท้ ลูกชิ้นหมูสำหรับทอด ลูกชิ้นหมูสำหรับปิ้ง ความแตกต่างก็คือ ลูกชิ้นหมูสำหรับทอด เนื้อจะเนียนนุ่ม แต่ ลูกชิ้นหมูสำหรับปิ้ง เนื้อสัมผัสจะมีความเหนียว เคี้ยวหนึบได้รสชาติถึงเครื่องเทศ และเนื้อหมูล้วน”
 
คุณภาพลูกชิ้นราม่า นอกจากจะใช้เนื้อวัว เนื้อหมู 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ผสมแป้ง ปราศจากสารเคมี วัตถุกันเสีย เจ้าของสูตร ยังบอกต่อว่า เนื้อที่นำมาใช้ต้องคัดว่าสดจริงๆ เพราะไม่เช่นนั้น ลูกชิ้นจะยุ่ย ที่สำคัญจะเลือกใช้เนื้อส่วนสะโพกเท่านั้น เนื่องจากโปรตีนสูง สีสวย
 
“หัวใจสำคัญของกระบวนการทำลูกชิ้นคือ เนื้อสัตว์ต้องผ่านกรรมวิธีการเชือดที่ถูกต้อง เนื้อต้องสดใหม่ วันต่อวัน จะไม่ใช้เนื้อที่ทิ้งไว้นานเกิน 24 ชั่วโมง เนื้อวัวที่ดีต้องเป็นวัวที่ไม่แก่ เพราะถ้าแก่เกินไปจะมีกลิ่นสาบ”


 
ด้านกำลังการผลิต ทางร้านจะทำลูกชิ้นสดใหม่ วันต่อวัน เฉลี่ยวันละ 500 กิโลกรัม บนเนื้อที่ 7 ไร่ 60 เปอร์เซ็นต์ ขายส่ง ที่เหลือขายปลีก ราคาขาย ลูกชิ้นหมูกิโลกรัมละ 200 บาท ลูกชิ้นเนื้อ ราคากิโลกรัมละ 260 บาท อายุสินค้าหากแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาจะเก็บได้นาน 2 สัปดาห์ ไม่ควรแช่ลูกชิ้นในช่องฟรีซ เพราะจะทำให้เนื้อสัมผัสลูกชิ้นเสีย รสชาติ คุณภาพของลูกชิ้นก็จะเสียตามไปด้วย
 
สำหรับกลุ่มลูกค้า แน่นอนว่า ด้วยราคาและคุณภาพลูกชิ้นที่วางใจได้ ฉะนั้น กลุ่มลูกค้าก็เลยค่อนข้างจะมีกำลังซื้อ และคุณธนิตศักดิ์ ก็ยังย้ำว่า จะไม่ลดคุณภาพลูกชิ้นเพื่อมาขายราคาถูกๆ เพราะอย่างไรก็ตาม ยังคงยืนหยัดผลิตสินค้าดี มีคุณภาพ ใส่ใจสุขภาพผู้บริโภคต่อไป
 
 
 
เล็งขายแฟรนไชส์ เตรียมขยายอาณาจักรลูกชิ้น

ในส่วนของกลยุทธ์ที่จะใช้ประชาสัมพันธ์ลูกชิ้นราม่า ยังมีต่ออีก เจ้าของร้าน เผยว่า ด้วยความที่ขายมานาน เป็นกิจการเก่าแก่ ฉะนั้น คนรุ่นใหม่ๆ อาจไม่รู้จักเลยจะใช้ “โซเชียลเน็ตเวิร์ก” อย่างเฟซบุ๊กเข้ามาเป็นสื่อกลาง รวมถึงจะปรับปรุงหน้าร้านด้วยการจำลองพื้นที่ให้เป็นโรงหนัง ให้สอดคล้องกับยี่ห้อลูกชิ้นราม่า เนื่องจากแจ้งเกิดมาจากการขายหน้าโรงหนังในสมัยก่อน รวมถึงขายแฟรนไชส์ให้คนที่สนใจอยากมีอาชีพ
 
“ปีกว่าที่เปิดหน้าร้านและสร้างแบรนด์ลูกชิ้นราม่า ผลตอบรับถือว่าดี เพราะลูกค้าสามารถมาชิม มาซื้อลูกชิ้นได้เลยไม่ต้องผ่านคนกลาง รวมถึงในช่วงครึ่งปีหลัง 2556 ผมมีความคิดอยากขยายธุรกิจรูปแบบแฟรนไชส์ แต่มีเงื่อนไขว่าผู้ที่สนใจต้องมาคุยรายละเอียดด้วยตนเอง เพราะต้องการเฟ้นหาคนที่สนใจจะทำเป็นอาชีพจริงๆ”


 
ตอนนี้รูปแบบแฟรนไชส์ที่เจ้าของกิจการคิดไว้มี 3 รูปแบบคือ ขายอุปกรณ์กับวัตถุดิบ เปิดร้านได้เลย ราคา 6,000 บาท คีออสไม้เคลื่อนที่ได้ ขนาด 1x0.80 เมตร+อุปกรณ์+วัตถุดิบ ราคา 18,000 บาท และ คีออสโครงเหล็ก+อุปกรณ์+วัตถุดิบ ขนาด 1.5x0.80 เมตร ราคา 29,000 บาท
 
ผู้ประกอบการ ยังบอกต่ออีก ถึงแผนกิจการในอนาคตว่า เนื่องจากจังหวัดพิษณุโลกจะมีรถไฟความเร็วสูง ฉะนั้น คิดว่าอยากจะขยายตลาดไปภาคเหนือตอนล่าง รวมถึง ถ้าเป็นไปได้อยากมีบริการส่งลูกชิ้นทั่วประเทศ และนอกจากนั้นยังคิดอยากจะเลี้ยงวัว เลี้ยงหมูเพื่อนำมาใช้ผลิตลูกชิ้นเอง
 
ใครสนใจอยากไปลองชิม หรือสอบถามข้อมูลด้านแฟรนไชส์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่หน้าร้านอยู่ถนนบรมไตรโลกนารถ ตำบลในเมือง จังหวัดพิษณุโลก โทรศัพท์ (056) 258-884, (089) 708-8406
 

 
อ้างอิงจาก  มติชน เส้นทางเศรษฐี
ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
156,873
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,390
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,177
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,424
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,427
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
54,590
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด