กลุ่มหนุ่มสาวนักโฆษณา ผันตัวเองเข้าสู่เส้นทางสายธุรกิจ สร้างแบรนด์ “เกี๊ยวซ่า & ซาเปา” ในรูปแบบแฟรนไชส์ ทีเด็ดนอกจากรสชาติคุณภาพการันตีส่งออก ยังเติมไอเดียสร้างตัวการ์ตูนหนุนอิมเมจ เจาะกลุ่มสาวใส หนุ่มซ่า ชาวมหาวิทยาลัย ตั้งเป้าขยาย 144 สาขา ทั่วประเทศ 

 

จากคนโฆษณาสู่เส้นทางสายธุรกิจ 

 

จุดเริ่มต้นของ “เกี๊ยวซ่า&ซาเปา” เกิดจากกลุ่มเพื่อน 7 คนที่ทำงานประจำอยู่ในวงการโฆษณา ออกมาร่วมกันตั้งบริษัทของตัวเอง ในนาม “ดูไอดีล” รับผลิตงานออกแบบกราฟิกตามที่ถนัด โดยมี ปัทมาวดี พัวพรหมยอด และรัตน์รวี แก้วมีแสง เป็นแกนหลักก่อตั้ง 

 

“ตอนแรกตั้งใจทำงานกราฟฟิกดีไซน์อย่างเดียว แต่งานที่เข้ามา ส่วนมากจะเป็นแนวของอาหาร ไม่ว่าจะเป็นออกแบบแพ็กเกจจิ้ง สร้างแบรนด์สินค้า วางแผนการตลาด จนกระทั่ง มีโอกาสได้ร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตอาหารประเภทติ่มชำแห่งหนึ่ง ซึ่งกว่า 90% ของกำลังการผลิตส่งออกทั้งหมด จึงเห็นช่องทางความเป็นไปได้ ถ้าจะขยายตลาดสินค้าตัวนี้ เนื่องจากมั่นใจในคุณภาพสินค้าที่เป็นมาตรฐานส่งออก หน้าที่ของพวกเรา เพียงแต่ทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จเท่านั้น จึงได้มานั่งคุยกันว่า ทำโฆษณาให้บริษัทอื่นมามากแล้ว เราลองเอาความรู้มารวมกัน ให้เกิดสินค้าของเราเอง ด้วยความสามารถของพวกเราที่แตกต่างกัน ซึ่งมีทั้งจบด้านวิทยาศาสตร์อาหาร , ออกแบบ และการตลาด เมื่อมาร่วมกัน คิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้” ปัทมาวดี ในฐานะกรรมการผู้จัดการ กล่าว

 

ทั้งนี้ หากจะเปิดขายติ่มซำก็คงจะเหมือนกับแบรนด์อื่นทั่วไป พวกเขาเลือกใช้ “เกี๊ยวซ่า” เป็นตัวชูโรง เพราะนอกจากความชอบเป็นส่วนตัวแล้ว เกี๊ยวซ่าในรูปแบบแท้ๆ มีจุดเด่น ที่หากินได้ยากตามท้องตลาดทั่วไป 

 

ด้านชื่อแบรนด์ “เกี๊ยวซ่า&ซาเปา” ต้องการสื่อให้ตรงถึงอาหาร จึงพยายามจะให้ง่ายและตรงที่สุด คำว่า “เกี๊ยวซ่า” และ “ซาเปา” ได้รสของคำ และได้อารมณ์ในการออกเสียง อีกทั้ง ฟังติดหู 
 

สร้างการ์ตูนวัยใสโดนใจวัยรุ่น 

 

นอกจากนั้น พวกเขานำความรู้ด้านโฆษณา มาวางแผนการตลาดให้แบรนด์มีจุดขาย สามารถอยู่ในตลาดได้ระยะยาว เพราะคิดว่า หากจะยึดแต่ขายเฉพาะอาหารอย่างเดียว สักวันหนึ่ง ลูกค้าก็จะเบื่อ แต่ถ้ามีไอเดียต่อเนื่อง เสริมขายสินค้าพรีเมี่ยมควบคู่ในร้าน “เกี๊ยวซ่า&ซาเปา” ก็จะเป็นส่วนเสริมการตลาดให้น่าสนใจยิ่งขึ้น นั่นจึงเป็นที่มาของการสร้างตัวการ์ตูน “นายเกี๊ยวซ่า” กับ “น้องซาเปา” ซึ่งนอกจากความน่ารักแล้ว ยังประกอบให้มีเรื่องราวกุ๊กกิ๊ก ทั้งสุข ฮา และน่าประทับใจ 

 

และด้วยกลุ่มลูกค้าวางไว้ ตั้งแต่อายุ 12-26 ปี เพื่อให้โดนใจทั่วถึง ตัวการ์ตูนออกแบบให้มีสีสันเหมาะกับวัยเด็ก ในขณะที่ เนื้อเรื่องกำหนดให้เป็นชีวิตวัยรุ่น ในชุมชนหลังหรือหน้ามหาวิทยาลัย ว่าด้วย นายเกี๊ยวซ่า เด็กหนุ่มมาดกวน ภายนอกดูซ่า แต่จิตใจงาม เดินทางเข้าเมืองหลวง มุ่งเรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่เส้นทางสู่จุดหมายทางการเรียนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ด้วยฐานะขัดสน เขาต้องทำงานหารายได้ส่งเสียตัวเอง โดยมีน้องซาเปา สาวน้อยหน้ากลม ลูกสาวคนเดียวของร้านขายติ่มซำ ซึ่งนายเกี๊ยวซ่า ไปทำงานพิเศษ คอยเป็นกำลังใจเรื่อยมา นอกจากนั้น ยังมีตัวละครอื่นๆ อาทิ น้องปอเปี๊ยะ นายหนมจีบ ฯลฯ เข้ามาสร้างสีสันอีกด้วย

 

สำหรับการนำเสนอเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ให้เป็นที่รู้จักของลูกค้าทั่วถึง จะสื่อเป็นการ์ตูนสั้นๆ 3 ช่อง บนบรรจุภัณฑ์ อีกทั้งเล่าผ่านสื่อสิ่งพิมพ์อื่นๆ หรือเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่น บนเว็บไซต์ โดยให้เรื่องราวมีความต่อเนื่องกันไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา 

 

 

รุกเปิดแฟรนไชส์ทั่วทุกมหาวิทยาลัย 

 

สำหรับแผนการตลาดของ “เกี๊ยวซ่า&ซาเปา” ที่จะเดินไป ช่วงเริ่มต้นในปีนี้จะขยายสาขาด้วยตัวเองให้มากที่สุด โดยตั้งเป้าไว้อย่างต่ำ 20 สาขา ในมหาวิทยาลัยทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ สำหรับสาขาแรกที่ใกล้จะเปิดจริง คือ บริเวณหลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น 

 

และในเดือนกันยายนที่จะถึง จะเปิดขายในรูปแบบแฟรนไชส์อย่างเต็มรูป ตั้งเป้า 144 สาขา ในระยะ 5 ปี ทั่วทุกมหาวิทยาลัย โดยผู้สนใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์ ต้องใช้ทุนประมาณ 1 แสนบาท แยกเป็นค่าธรรมเนียมแรกเข้า 30,000 บาท มีอายุสัญญา 3 ปี ค่าอุปกรณ์ร้านค้าประมาณ 40,000 บาท อาทิ คีออสก์ , หม้อทอด , ตู้แช่ เป็นต้น และคิดค่ารอยัลตี้ฟี 3% ที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการซื้อสินค้า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
 

โดยภายในร้านนอกจาก “เกี๊ยวซ่า” แล้ว ยังได้เสริมเมนูอาหารอื่นๆ อาทิ ซาลาเปา , ปอเปี้ยะทอด และขนมจีบ เป็นต้น สนนราคาชุดละ 25 บาท ยกเว้นซาลาเปา ลูกละ 7 บาท และหากมีสินค้าใหม่จากโรงงานก็จะนำลงขายในร้านเป็นช่วงๆ หมุนเวียนให้เกิดความหลากหลาย ซึ่งจากการคำนวณผู้ขายจะมีรายได้ 2,500 บาทต่อวัน ประมาณ 1 ปีจะถึงจุดคุ้มทุน 

 

ในขณะที่ ด้านสินค้าพรีเมี่ยม จะทำควบคู่กับแฟรนไชส์ ให้เป็นส่วนเสริมซึ่งกันและกัน โดยวางแผนการตลาดไว้สองแนวทาง คือ ซื้อสะสม ราคาตัวละ 25-30 บาท หรืออีกแบบ คือ ซื้ออาหารเป็นชุดบวกเงิน จึงได้สินค้า ลักษณะคล้ายกับชุด “แฮปปี้มิล” และถ้าในอนาคต หากตัวการ์ตูน “นายเกี๊ยวซ่า” หรือ “น้องซาเปา” เกิดโด่งดังเป็นที่สนใจ ก็จะขายลิขสิทธิ์ต่อไป ซึ่งวันนี้ ยังไม่รู้จะเป็นไปได้หรือไม่ แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด ณ จุดที่ทำได้ 

 

ปัทมาวดี กล่าวเสริมว่า ผู้ที่สนใจเป็นแฟรนไชซี่ อยากได้คนนิสัยคล้ายๆ กัน คุยกันรู้เรื่อง เพราะธุรกิจนี้ ต้องเข้าใจตรงกันว่า ไม่ได้ขายที่ตัวสินค้าอย่างเดียว แต่ขายแบรนด์ ต้องช่วยกันคุ้มคุณภาพแบรนด์ไว้ให้ได้ ถ้ามาพูดคุยกันแล้ว ปัจจัยต่างๆ ยังไม่เหมาะสม ก็จะไม่ฝืน เพราะอยากจะให้ธุรกิจไปได้ด้วยดีทั้งสองฝ่าย 

 

ในอนาคต ถ้าไอเดียของหนุ่มสาวรุ่นใหม่กลุ่มนี้ เกิดสำเร็จเป็นจริงขึ้นมา “นายเกี๊ยวซ่า” กับ “น้องซาเปา” ก็อาจกลายเป็นตัวการ์ตูนที่คนทั่วโลกรัก เช่นเดียวกับโดราเอมอน , หมีพูห์ หรือคิตตี้แคท ก็เป็นได้ 

 

สนใจแฟรนไชส์ติดต่อได้ที่ 

ปัทมาวดี พัวพรหมยอด โทร.0-1934-4403 หรือ 0-2910-5790

 

อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์