แนวคิดการคิดค้นบะหมี่สุขภาพมาจากแรงบันดาลใจของ "ประทีป สิงหาสนธิบุตร" ประธานกรรมการบริษัท ทาอิจิ เทคโนโลยี จำกัด เมื่อถึงวัยที่ต้องใส่ใจดูแลสุขภาพโดยพึ่งพาวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ประกอบกับความชอบอาหารที่เป็นเส้น จึงคิดหาวิธีเพิ่มวิตามินแร่ธาตุให้กับเส้นบะหมี่ พร้อมทั้งเสนอของบสนับสนุนการทำวิจัยจากศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

 

 

โครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 เป็นจุดเริ่มต้นของการบ่มเพาะแนวคิดทางธุรกิจของประทีป โดยจัดหาผู้เชี่ยวชาญมาติวเข้มความรู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการตลาด เช่น การเขียนโครงการ การแตกผังโครงการ การทำบัญชี การกำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กร เป็นต้น

 

สเตปที่สองเป็นการเปลี่ยนไอเดียบะหมี่เพื่อสุขภาพให้เป็นผลิตภัณฑ์ได้สำเร็จ โดยยื่นเสนอโครงการขอรับทุนวิจัยจาก "นอร์ทเทิร์นฟู้ดวัลเล่ย์" หรือโครงการพื้นที่เศรษฐกิจนวัตกรรมอาหารภาคเหนือ เป็นโครงการความร่วมมือภาครัฐและเอกชน คือกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและภาคเอกชนคือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่ต้องการสนับสนุนเอสเอ็มอีของไทยให้มีนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปในอาเซียน

 

“การพัฒนาเส้นบะหมี่ไข่เสริมคุณค่าทางโภชนาการเพื่อเพิ่มมูลค่า และช่องทางการจำหน่าย” เป็นชื่อโครงการของประทีปที่ได้รับไฟเขียวจากนอร์ทเทิร์นฟู้ดวัลเล่ย์ โดยมีภาคีวิจัยคือ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในการวิจัยเพิ่มสารอาหารให้กับเส้นบะหมี่จากเดิมมีเพียงแป้งและไข่ไก่ โดยตั้งโจทย์ไว้ว่า การเพิ่มสารอาหารแล้วนั้นจะต้องไม่กระทบต่อสี กลิ่นและรสชาติ โดยยังคงความเป็นเส้นบะหมี่สีเหลืองและเนื้อสัมผัสไม่ต่างจากเส้นบะหมี่ทั่วไป

 

"ตลอดเวลาได้หาโจทย์และทดลองเพิ่มสารอาหารต่างๆ ตามหลักโภชนาการทางการผลิต กระทั่งได้สูตรลงตัวตามโจทย์กำหนดโดยสามารถเพิ่มสารอาหารแคลเซียมมากกว่าบะหมี่ปกติ 3 เท่า รวมทั้งเพิ่มสารอาหารอื่นๆ เช่น วิตามินดี โอเมก้า3 และไฟเบอร์" ประทีปกล่าว
 

 
 
 

ขณะเดียวกันยังได้ของบสนับสนุนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพิ่มอีก 2 โครงการ คือ งบก่อสร้างโรงงานที่ได้มาตรฐานการผลิตตามหลัก GMP 4 แสนบาท ส่วนอีกโครงการคือ งบการพัฒนาแปรรูปเส้นบะหมี่อบแห้ง 3.4 แสนบาท เพื่อสร้างแผนกอบแห้งภายในโรงงานเดียวกัน ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์บะหมี่สดให้เป็นเส้นอบแห้งที่ยังคงคุณค่าทางอาหารครบถ้วน ทั้งนี้ โครงการแรกได้รับอนุมัติเรียบร้อยแล้ว คาดว่าการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2557 มีการแบ่งแยกชัดเจนระหว่างกระบวนการทำเส้นสด กับการแปรรูปเป็นเส้นอบแห้ง

 

 

“ผมได้ไปคิดค้นต่อยอดงานวิจัยอีก เมื่อทำบะหมี่สุขภาพแล้วไม่อยากทำให้คนขายบะหมี่มีปัญหาด้วย จึงคิดค้น "เครื่องลวกบะหมี่สุขภาพอัตโนมัติ" เครื่องมือทุ่นแรงและเวลาที่ใช้ลวกบะหมี่ ไม่เปลืองค่าจ้างคนงาน ใช้เพียงคนเดียวควบคุมเครื่อง เพียงแค่คอยเปลี่ยนถาดป้อนบะหมี่เข้าเครื่องเท่านั้น

 

เครื่องดังกล่าวตั้งโปรแกรมลวกเส้นตามอุณหภูมิที่ได้คำณวนไว้ว่า จะได้เส้นที่เหนียวนุ่ม และใช้เวลาน้อยกว่าแรงงานคนลวก โดยใช้เวลาประมาณ 23 วินาทีต่อ 1 ชาม ปัจจุบันพัฒนาเครื่องต้นแบบเรียบร้อยแล้ว

 

ส่วนแผนการตลาด เขามองถึงการขายแฟรนไชส์บะหมี่เพื่อสุขภาพพร้อมกับเครื่องลวกบะหมี่อัตโนมัติ หรือแม้แต่หากเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ก็พร้อมจะออกไปตีตลาดต่างประเทศ โดยวางแผนที่จะผลิตตู้กดบะหมี่สำเร็จรูป เพื่อความสะดวกสบายของผู้บริโภค

อ้างอิงจาก  กรุงเทพธุรกิจ