ดาวเด่นแฟรนไชส์    “ABCฯ” สอนทำอาหารแนวใหม่ ปูทางสู่อัจฉริยะสานสัมผัสครอบครัว
6.7K
19 กุมภาพันธ์ 2550
“ABCฯ” สอนทำอาหารแนวใหม่ ปูทางสู่อัจฉริยะสานสัมผัสครอบครัว

 
 
จากรูปแบบการศึกษา เน้นความสนุกสนานที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่น ถูกพัฒนาและปรับปรุงเป็นการสอนทำอาหารรูปแบบใหม่ เอาใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดย “ABC cooking studio” จุดประกายนำการเรียนทำอาหารพัฒนาสู่สานสัมผัสในครอบครัว และก้าวสู่ความเป็นอัจฉริยะทางความคิด ด้วยคอนเซ็ปท์ “อร่อย ง่าย และสนุก” พร้อมหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ขยายตลาดด้วย การเปิดสาขาแฟรนไชส์ปลายปีนี้ 
 
นางอภิรดี โรหิตรัตนะ เจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด สถาบันสอนทำอาหาร “ABC cooking studio” เปิดเผยว่า แนวคิดหลักของการสอนทำอาหารแบบเอบีซีฯ แตกต่างจากโรงเรียนสอนทำอาหารทั่วๆ ไป เพราะไม่ได้เน้นให้ผู้เรียนนำไปใช้ประกอบอาชีพทำอาหารโดยตรง แต่จะเน้นเรียนให้เกิดการพัฒนาด้านความคิด เพราะตามหลักหนังสือสู่ความเป็นอัจฉริยะของ “ลีโอนาโด้ ดาวินชี” กล่าวไว้ว่า การทำอาหารเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีส่วนช่วยเสริมให้ผู้เรียน พัฒนาสู่ความเป็นเลิศทางความคิด อีกทั้ง การทำอาหารยังเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ เนื่องจากวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ เคร่งเครียด การมาเรียนทำอาหารคือความบันเทิงอย่างหนึ่ง
 
นอกจากนั้น ส่วนที่มุ่งเน้นอีกประการ คือ ความสัมผัสในครอบครัว เพราะคนที่ทำอาหาร เกือบทุกคนมีความตั้งใจจะทำเพื่อให้ผู้อื่นรับประทาน อยากภูมิใจที่คนซึ่งตัวเองรัก ชิมอาหาร แล้วอร่อย และพูดชื่นชม การเรียนที่นี่ จึงต้องการให้เกิดบรรยากาศอบอุ่น เช่น อาจจะมากันเป็นครอบครัวช่วยกันทำ หรือมาเรียนทำอาหาร เพื่อกลับไปทำให้คนในครอบครัวรับประทาน 
 
ชูคอนเซ็ปท์ “อร่อย ง่าย และสนุก” 
 
นางอภิรดี อธิบายว่า การเรียนการสอนของเอบีซีฯ ใช้คอนเซ็ปท์ “อร่อย ง่าย และสนุก” เป็นการประยุกต์รูปแบบการศึกษาของประเทศญี่ปุ่นที่กำลังได้รับ ความนิยมอยู่ในปัจจุบัน โดยเน้นให้ผู้เรียนสนุกสนานกับวิชาความรู้ ซึ่งจะได้รับประโยชน์มากกว่าถูกบังคับ โดยสูตรอาหารทุกสูตรรับประกันความอร่อยจาก อาจารย์ชาลี อมาตยกุล พ่อครัวชื่อดังของประเทศไทย ซึ่งมีให้เลือกเรียนทั้งอาหารไทย - สากล , ของคาว , ของหวาน และเครื่องดื่ม อีกทั้ง อาหารตามเทศกาลต่างๆ เช่น คริสมาสต์ , ปีใหม่ ,วาเลนไทน์ , สงกรานต์ หรือแม้แต่ลอยกระทง เป็นต้น 
 
ส่วนความง่าย และความสนุก มาจากผู้สอนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน บรรยากาศเป็นกันเอง นอกจากมาให้ความรู้แล้วยังให้ความเพลิดเพลินเหมือนเป็นเพื่อนมากกว่าเป็นครู ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกเมนูเรียน และเวลาเรียนได้เอง โดยเอบีซีฯ จะการกำหนดตารางเวลาคำนึงถึงความสะดวกของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งจะมีให้เลือกทุกช่วงเวลา ทั้งวันธรรมดา และวันหยุด 
 
 
 
เจาะกลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน 
 
ทั้งนี้ เอบีซีฯ ตั้งอยู่ที่สยาม สแควร์ ซอย 1 เหตุที่เลือกสถานที่บริเวณนี้ นางอภิรดี ชี้แจงว่า เป็นการวางกลุ่มเป้าหมายหลักไว้ที่เด็กวัยรุ่นอายุ 9-20 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับการสร้างพื้นฐานครอบครัว แทนที่เด็กวัยรุ่นจะมาเที่ยวเตร่สยามฯ ใช้เวลาว่างโดยเปล่าประโยชน์ เปลี่ยนมาเรียนทำอาหาร เพื่อกลับไปทำให้พ่อและแม่รับประทาน ก็จะเป็นความภูมิใจของเขา ในขณะเดียวกันผู้ปกครองก็สบายใจว่า ลูกไม่ได้มามั่วสุมในทางที่ผิด 
 
แต่นอกจากกลุ่มวัยรุ่นแล้ว ให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ใหญ่คนทำงานเช่นกัน เพราะสถาบันสอนทำอาหารทั่วไป เมื่อเข้าไปเรียน ผู้เรียนจะไม่มั่นใจ เพราะเมื่อทำผิดจะถูกตำหนิ เกิดความอาย แต่ที่นี่ จะเน้นผ่อนคลาย ตามแนวทาง คือ อร่อย , ง่าย และสนุก เมื่อจบออกไปต้องได้ทำสามประการนี้แน่นอน 
 
ค่าเรียนระบบสมาชิก 3,900 บ.ต่อ 3 เมนู 
 
นางอภิรดี เปิดเผยถึงค่าเรียน คิดเป็นระบบสมาชิก 3,900 บาท เลือกเรียนได้ 3 เมนูอาหาร ภายใน 1 ปี โดยการเรียนแต่ละเมนูจะใช้เวลาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับประเภทอาหาร แต่โดยเฉลี่ยประมาณ 1.30 - 2.30 ชม. ต่อการเรียน 1 เมนู นอกจากนี้ หากอยากจะเรียนแยกเฉพาะเมนูก็ได้ โดยอัตราเฉลี่ยประมาณ 1,000-2,500 บาทต่อ 1 เมนูอาหาร 
 
“เหตุที่เราขายสมาชิก เพราะต้องการให้สิทธิพิเศษกับครอบครัว เพราะเมื่อคุณเป็นสมาชิกเรียน 3 วิชา ไม่ได้หมายความว่า จะต้องมาเรียนคนเดียว คุณอาจผลัดกันมาเรียน หรือมาเรียนด้วยกันทั้งครอบครัวก็ได้ เราก็ยังคิดราคาเดียวกัน” 
 
เดินหมากขยายแฟรนไชส์ 
 
ผู้บริหารฝ่ายการตลาดสถาบันเอบีซีฯ เปิดเผยอีกว่า แผนงานต่อไปจะขยายเป็นธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ เนื่องจากจุดที่ทำอยู่ปัจจุบัน ตั้งแต่เปิดมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2547 แม้ผลตอบรับจะดี มีลูกค้าเข้าเรียนสม่ำเสมอ แต่เมื่อเทียบรายได้กับต้นทุนต่างๆ อาทิ ค่าเช่าสถานที่ ค่าอุปกรณ์ ไม่ได้เอื้อให้ธุรกิจนี้ได้กำไร แต่ถ้าขยายในรูปแบบแฟรนไชส์เพื่อให้คนกลุ่มใหญ่เข้าถึงคอนเซ็ปท์ และเป้าหมายเดียวกัน น่าจะทำให้เอบีซีฯ เป็นที่รู้จักและพัฒนาร่วมกันไป
 
 
 
ทั้งนี้ วางแผนขยายแฟรนไชส์ไปจังหวัดที่เป็นศูนย์กลาง ทางการศึกษาทั้งหมดทั่วประเทศ เช่น เชียงใหม่ , ขอนแก่น และสงขลา เป็นต้น เพราะต้องการสื่อความหมาย ถึงนักศึกษาก่อนจะจบออกมา เพื่อให้นำความรู้จากการเรียนทำอาหารไปประยุกต์ใช้ในชีวิตภายภาคหน้าต่อไป 
 
“สิ่งที่แฝงเอาไว้ในการเรียนทำอาหาร ต้องการชี้ให้เขาเห็นความสำคัญของความสัมผัสในครอบครัว และความสัมผัสระหว่างเพื่อนและสังคม สิ่งเหล่านี้ อยากให้เขาเก็บเป็นแรงบันดาลใจ สำหรับการใช้ชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานของเขาต่อไปในอนาคต” 
 
ทั้งนี้ ระเบียบ และค่าแฟรนไชส์ ยังไม่ได้กำหนดเป็นที่แน่นอน โดยอยู่ระหว่างการประชุมหาข้อสรุป เบื้องต้นวางไว้ว่า อยากได้ผู้ร่วมทุนที่มีแนวความคิดตรงกัน โดยหลักการผู้ซื้อแฟรนไชส์อาจจะแค่มีสถานที่ ส่วนการตบแต่ง สนับสนุนผู้ฝึกสอน และสูตรอาหาร เอบีซีฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบ คาดว่าโครงการจะเริ่มดำเนินการได้ปลายปีนี้ ตั้งเป้าขยายแฟรนไชส์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ขยายอย่างมีคุณภาพ 
 
สนใจธุรกิจติดต่อ โทร. 02-254 -7267
 
อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์
ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
157,522
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,645
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,650
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,811
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,558
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
55,082
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด