|
|
18 มิถุนายน 2557 |
ยุทธศาสตร์ "สตาร์เวลล์" เสริมทัพ 7 ธุรกิจสู่อาเซียน
( ภาพจาก www.facebook.com/starwell.FP )
ปัจจุบัน "สตาร์เวลล์" มีกิจการใน เครือ 7 ธุรกิจ ประกอบด้วย สตาร์เวลล์จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในครัวเรือน และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และขายส่งให้กับตัวแทนจำหน่ายภายใต้ 4 แบรนด์ ประกอบด้วย สตาร์เวลล์ สมายด์ สมาร์ท และ สเต็ป นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจ สตาร์เวลล์ลิสซิ่ง ให้บริการสินเชื่อหรือไฟแนนซ์ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และที่ดิน มี 4 สาขาในจังหวัดนครราชสีมา
รวมทั้งสถานประกอบการรีสอร์ตที่พักตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดนครราชสีมาอีกหลายแห่ง และยังมี สตาร์เวลล์แอสเสท ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพิ่งเปิดเมื่อปลายปี 2555 ภายใต้โครงการบ้านจัดสรรชื่อ "ดิ ไอคอน" ตอนนี้ดำเนินกิจการมา 10 เดือน ยอดขายประมาณ 70% และจะเปิดโครง การสอง ในต้นปี 2557 นี้
ดร.บุญมา อิ่มวิเศษ ประธานกรรม การบริหารกลุ่มบริษัทในเครือสตาร์เวลล์ กล่าวว่า สาเหตุที่มีการขยายธุรกิจหลายส่วน เพื่อกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจ ลดค่าบริหารจัดการที่ต่ำลง และสร้างความมั่นคงทางธุรกิจ รวมทั้งเพื่อการพัฒนาบุคลากรให้เติบโต ทั้งนี้ความแตกต่างของแต่ละธุรกิจย่อมมีความเหนื่อยยากที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น การได้พบอุปสรรคหลายๆ ด้าน ถือเป็นการปูพื้นฐานการเติบโตที่แข็งแกร่ง
"แม้จะมีธุรกิจหลากหลาย แต่ตัวผมเองจะมีเลขาฯ ของทุกธุรกิจ คอยติดตามและรายงานผลดำเนินงาน โดยจะใช้นโยบายองค์กรรวมบริหาร และแผนปฏิบัติการแยกไปตามแต่ละธุรกิจมีการวางกลยุทธ์ในแต่ละไตรมาสอย่างชัดเจน"
สำหรับแผนการขับเคลื่อนธุรกิจจะมียุทธ์ศาสตร์ที่เอื้อต่อกัน โดยในปีนี้และปีหน้าจะมุ่งเน้นการขยายแฟรนไชส์สาขา และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้มากขึ้นด้วยขยายกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น ซึ่งบริษัทมีแผนจะเปิดสาขาในภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคเหนือตอนล่างอย่าง พิษณุโลกหรือนครสวรรค์ พร้อมกันนี้ยังมีการเพิ่มไลน์ของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้รักษาฐานลูกค้าที่จงรักภักดีกับบริษัท อีกทั้งจะขยายตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกจังหวัด รวมทั้งการขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังไปได้ดี โดยมีแผนการขยายโครงการในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเปิดโครงการ 2 ในเร็วๆ นี้
การขยายแฟรนไชส์สตาร์เวลล์ เพื่อเป็นการสร้างงานและสร้างรายได้ให้สะพัดในท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาค ล่าสุดได้เปิดตัวแฟรนไชส์ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าจะสามารถทำยอดขายเติบโตได้ประมาณ 30% โดยเป็นแฟรนไชส์แห่งที่ 2 ต่อจากจังหวัดจันทบุรี ที่เปิดไปก่อนหน้านี้ ส่วนสาขาต่อ ไปจะขยายไปภาคเหนือที่เล็งจะเปิดที่ จังหวัดพิษณุโลก นครสวรรค์ โดยตอนนี้ทั้ง 2 แห่งแม้จะมีตัวแทนจำหน่ายอยู่แล้ว แต่จะมีความแตกต่างคือ ตัวแทนจำหน่าย จะมีการขายสินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่ สตาร์เวลล์ด้วย ส่วนเป็นแฟรนไชส์จะขายแค่ผลิต-ภัณฑ์สตาร์เวลล์เท่านั้น ส่วนอนาคตยังมีแผนการขายแฟรนไชส์ในเชียงรายซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับพันธมิตร
( ภาพจาก www.facebook.com/starwell.FP )
ดร.บุญมา กล่าวต่อว่า สินค้าของ บริษัทมีอยู่ 18 รายการ และจะมีการเสริม สินค้าพิเศษ อาทิ เบาะนวดอเนกประสงค์ สำหรับนวดสลายไขมัน นวดต้นคอ รวมทั้งติดตั้งในรถยนต์ ซึ่งผ่านการทดลองประสิทธิภาพที่หลากหลายมาแล้วเป็นปีก่อนจะแนะนำออกสู่ตลาด
"บริษัทเน้นทำตลาดสินค้าที่มีความ แตกต่างเรื่องของวัสดุ และประโยชน์การใช้งานอเนกประสงค์ รวมทั้งเน้นการบริการถึงบ้าน เราซ่อมฟรีทุกอย่าง ส่วนสินค้าต้องทนทานและใช้ได้นานจริงๆ โดยมีการกำหนดว่า สินค้าต้องราคาเดียวกัน มาตรฐานบุคลากรมาตรฐานเดียวกัน"
ในส่วนของยอดขายนั้น "ดร.บุญมา" เผยว่า ตามนโยบายจะไม่ได้รวมยอดขายแต่ละบริษัทไว้ทีเดียว โดยจะแยกยอดขายแต่ละบริษัท ส่วนบางบริษัทไม่แยกเป็นตัวเงินแต่จะแยกเป็นจำนวนชิ้น โดยรวมแล้ววางเป้าหมายยอดขายทั้งหมดแต่ละปีจะไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านอย่างแน่นอน
ในปีนี้ธุรกิจในเครือของสตาร์เวลล์จะเติบโตถึง 25% จากการขยายไลน์ธุรกิจ ที่เอื้อต่อกัน และมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด โดยมีสัดส่วนยอดขายจากภาคอีสานโตมากสุดคือ 20% โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา ที่มีฐานขนาดใหญ่จะเติบโตถึง 40%
ส่วนอนาคตการเข้าสู่เออีซี จะทำ ให้โอกาสทางธุรกิจไปได้ดี บริษัทมีธุรกิจเครื่องครัวกว่า 20 รายการ ซึ่งปีหน้าจะเพิ่มเป็น 25 รายการ โดยจะมีสินค้าใหม่ ๆ ทยอยนำเข้ามา ซึ่งขณะนี้ได้ไปเปิดสำนักงานที่ฮ่องกงนานแล้ว และยังวาง แผนขยายธุรกิจใน ลาว กับ พม่า อีกด้วย
อ้างอิงจาก สยามธุรกิจ
|
|
|
|
|
|
|
|
157,362
