ดาวเด่นแฟรนไชส์ แอ๊บเซอลูท โยคะ เป็นศูนย์โยคะที่สมบูรณ์แบบและใหญ่ที่สุดในประเท... |
|
|
19 ตุลาคม 2557 |
แอ๊บเซอลูท โยคะ เป็นศูนย์โยคะที่สมบูรณ์แบบและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
กว่า 13 ปีผ่านมาที่ "กลุ่มบริษัทแอ๊บเซอลูท โยคะ" นำเอาเทรนด์การออกกำลังกายแนวใหม่เข้ามาสู่ประเทศไทย รวมถึงการนำเสนอการออกกำลังกายอย่างสมบูรณ์ในแบบสตูดิโอสไตล์บูติค ที่ให้ทั้งความสะดวกสบายและผ่อนคลาย
โดยเฉพาะเรื่องของศาสตร์การบริหารงาน ที่ไม่เพียงใช้การออกกำลังกายเป็นเครื่องมือหนุนนำจนไปสู่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการ
เบื้องต้น "เบญจพร การุณกรสกุล" กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทแอ๊บเซอลูท โยคะ กล่าวถึงหลักคิดในการบริหารงานให้ฟังว่า แอ๊บเซอลูท โยคะ เป็นศูนย์โยคะที่สมบูรณ์แบบและใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเป็นที่สองของเอเชีย โดยสตูดิโอแต่ละแห่งได้รับการออกแบบและตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อจะให้ลูกค้าเข้าถึงประสบการณ์การฝึกโยคะอย่างแท้จริง
"แนวคิดสำคัญของแอ๊บเซอลูทฯคือการนำเทรนด์การออกกำลังกายแนวใหม่โดยเชื่อว่าเมื่อนำอะไรใหม่ ๆ เข้ามาจะสร้างความตื่นเต้นความท้าทายเป็นอย่างดี และอยากให้คนไทยลองใช้บริการการออกกำลังกายแนวใหม่ จึงเป็นที่มาของการเปิดสตูดิโอโยคะแห่งนี้"
"สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเปิดแอ๊บเซอลูท โยคะคือช่วงเริ่มแรกเราต้องสร้างความเข้าใจให้กับคนในเรื่องโยคะ ซึ่งในช่วงนั้นความเข้าใจในเรื่องนี้ยังน้อยอยู่ จึงจำเป็นต้องอธิบายและสร้างความเข้าใจไปพร้อมกับการดำเนินธุรกิจ โดยนับว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งในการบริหารงาน"
"เรื่องของการสร้างความเข้าใจเราใช้เวลา 3-4 ปี ที่ทำให้คนมีความเข้าใจ มีความรับรู้ในเรื่องโยคะ โดยส่วนตัวมองว่า ในที่สุดแล้วสิ่งสำคัญนอกเหนือไปจากการทำตลาด ประชาสัมพันธ์ และโฆษณาสร้างความเข้าใจคือการมีผลิตภัณฑ์ดีมาเป็นอันดับแรก โดยมีทั้งเรื่องเล่าและประโยชน์ที่ดีที่เห็นได้ชัดเจน หากได้สัมผัสและนำมาผสมกับการตลาดและโฆษณาที่ดี"
ส่วนเรื่องของการจัดการองค์กร "เบญจพร" บอกว่า รูปแบบของแอ๊บเซอลูท โยคะไม่ได้มีอะไรมาก โดยตั้งแต่เริ่มแรกของการเปิดสตูดิโอ แอ๊บเซอลูทฯมีพนักงานอยู่เพียง 6 คน
"เรามีหลักคิดในการบริหารงานคือ การสะท้อนความเป็นตัวของตัวเรา โดยองค์กรส่วนใหญ่จะสะท้อนถึงตัวผู้บริหาร"
"ส่วนหนึ่งเราถือว่าผลิตภัณฑ์แอ๊บเซอลูทฯมีคุณภาพดี มีความเฉพาะตัว ที่สำคัญคือเราค่อนข้างเชื่อในสิ่งที่เราทำ และเมื่อเริ่มมีประสบการณ์และความรู้ เราจึงเริ่มขยายสาขาที่ 2 และ 3 จนทำให้ระบบการบริหารงานขององค์กรเริ่มเป็นระบบมากขึ้น"
"จริง ๆ แล้วระบบเกิดมาจากระหว่างทางของการดำเนินธุรกิจ ทั้งข้อดี ข้อเสีย ความผิดพลาด ทั้งในเรื่องกฎของลูกค้า ที่เรามองว่าลูกค้าควรจะมีกฎแบบนี้ และจะตอบสนองแบบนี้ ในที่สุดแล้วระบบการบริหารงานจะเกิดขึ้นเมื่อลูกค้ามาใช้บริการ และกลับมาบอกว่าควรเป็นแบบนี้ หรือทำอย่างนี้ดีกว่า"
"พูดง่าย ๆ คือเราฟังเสียงลูกค้า เพราะการทำธุรกิจเราต้องประยุกต์ใช้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งในเรื่องของการตอบสนองลูกค้า และกระแสความนิยมที่เกิดขึ้น"
นอกจากนี้ "เบญจพร" ยังเล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า เราคิดว่าโชคดีที่อยู่ในอุตสาหกรรมแบบนี้ เพราะลูกค้าที่มาใช้บริการยังมาขอบคุณเรา เนื่องจากแอ๊บเซอลูทฯให้สุขภาพที่ดีกับคน และคนก็มีความรู้สึกที่ดีกับเรา ซึ่งถือว่าเป็นความเฉพาะตัวของธุรกิจนี้
"นอกจากนี้ แอ๊บเซอลูท โยคะยังสร้างความเป็นชุมชนที่คนจากหลากหลายที่เข้ามาใช้บริการจนเกิดการปฏิสัมพันธ์ โดยสังเกตเห็นว่าเมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการจะเกิดการพูดคุย แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน จนทำให้เกิดความสุข สนุกสนาน"
"เราค่อนข้างภูมิใจ เพราะเราสร้างแบรนด์ขึ้นจากสตูดิโอเล็ก ๆ แล้วขยายไปเรื่อย ๆ เราศึกษาค้นคว้าตลอดเวลา จนกว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการรับประโยชน์อย่างเต็มที่ อีกทั้งเรายังได้รับความสนใจจนเกิดการขายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ ซึ่งมีทั้งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์"
ถึงตรงนี้ "เบญจพร" จึงอธิบายถึงความท้าทายในการดำเนินธุรกิจบริการคือคน เพราะคนเข้าไปเกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วน ความท้าทายจึงอยู่ตรงที่ ทำอย่างไรถึงจะให้คนบริการรู้สึกภูมิใจในธุรกิจของตัวเอง ขณะเดียวกัน ก็จะต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความพอใจในการบริการด้วย ตรงนี้เป็นความท้าทายอย่างยิ่ง
"เพราะถ้าเป้าหมายของเราต้องการขยายสาขาทั้งในรูปแบบแฟรนไชส์และอื่น ๆ เราก็ต้องสร้างความท้าทายนี้ให้เด่นชัด โดยเฉพาะการสร้างความมั่นคงให้กับพนักงานของเรา ตรงนี้เป็นเรื่องยากที่สุด"
ถามว่าทำได้ไหม ? ทำได้อย่างแน่นอน "เบญจพร" ตอบอย่างหนักแน่น เพราะแอ๊บเซอลูท โยคะ เป็นศาสตร์การออกกำลังกายที่นำมาประยุกต์ใช้ได้กับการบริหารในยุคปัจจุบัน
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
|
|
|