ทายาท เนสกาแฟ เปิดตัวแฟรนไชส์ ซินนาบอน
![](http://www.thaifranchisecenter.com/starfranchise/picstar/cin1.jpg)
ดร.อุษณีย์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอ ประธานกรรมการบริษัท คิงออนซินนามอน จำกัด (เคซีเอ็ม) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับแต่งตั้งจากแบรนด์ ซินนาบอน สหรัฐอเมริกา ที่มีประวัติยาวนาน กว่า 30 ปี โดยมีสาขากว่า 700 แห่ง ใน 30 ประเทศทั่วโลก ในการรับมอบลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ซี “ซินนาบอน ประเทศไทย” มีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 เป็นต้นไป
รวมระยะเวลา 5 ปี จากก่อนหน้านี้ได้มีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้รับลิขสิทธิ์แบรนด์ดังกล่าวมาดำเนินการเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ บริษัทฯจึงได้รับสิทธิ์ในการดำเนินกิจการในประเทศไทยแทน ซึ่งได้ทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาทในการปรับปรุงร้านใหม่ให้มีขนาดเล็กลง แต่มีดีไซน์ที่ทันสมัย ส่งผลให้ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยแบ่งเป็นต่างชาติและคนไทยในสัดส่วนที่เท่ากัน คือ 50:50 และมียอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัว ปัจจุบันมีให้เลือกมากกว่า 20 เมนู ราคาขายตั้งแต่ 45-89 บาท/ชิ้น
“สาเหตุที่ตัดสินใจเข้ามาเป็นแฟรนไชส์ซีกิจการซินนาบอน เพราะมาจากความชื่นชอบในแบรนด์เป็นการส่วนตัวมาก่อน ประกอบกับเมื่อพิจารณาจากบิสสิเนสโมเดลของซินนาบอนและตัวผลิตภัณฑ์ที่ได้มีโอกาสเข้าไปเรียนรู้และทดลองเรียนรู้กรรมวิธีการผลิตต่างๆ ด้วยตัวเองแล้ว จึงมั่นใจว่าเป็นเบเกอรี่ขนมอบที่มีจุดเด่น คือ การคัดสรรวัตถุดิบอย่างดีจากแหล่งต้นกำเนิด
อาทิ มัคคาร่า ซินนามอน จากอินโดนีเซีย ที่เมื่อนำมารวมกับเนื้อแป้งที่เหนียวนุ่มไม่เหมือนใคร พร้อมผ่านการอบจนได้ที่จะมีกลิ่นที่หอมมาก ประกอบกับ การผลิตที่มีขนาดและรสชาติหลากหลายจึงน่าจะทำให้ซินนาบอนเป็นที่ชื่นชอบสำหรับคนไทย”
ดร.อุษณีย์ กล่าวต่อถึงแผนการดำเนินงานในปี 2558 ว่าได้เตรียมงบประมาณ 130 ล้านบาท แบ่งเป็น 50 ล้านบาทในการซื้อไลเซ่นส์แฟรนไชส์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาอยู่ประมาณ 3-4 แบรนด์ มีทั้งธุรกิจเบเกอรี่ เครื่องดื่ม และร้านอาหาร แต่คงเลือกเพียง 2 แบรนด์เท่านั้น ส่วนอีก 30 ล้านบาท จะเป็นการขยายสาขาของคริสปี้ ครีม อย่างน้อย 3 สาขา จากปัจจุบันมี 17 สาขา
ถือว่าเป็นไปตามเป้าตามสัญญากับแฟรนไชส์ และชินนาบอน อีก 4 สาขา จากปัจจุบันที่มี 3 สาขา คือ สยามพารากอน,เดอะมอลล์ บางกะปิ และเดอะมอลล์ บางแค และเพิ่มเป็น 10 สาขาภายในระยะเวลา 5 ปี ส่วนงบที่เหลืออีก 50 ล้านบาท จะเป็นการขยายครัวกลาง ที่ซอยสุขุมวิท 66 ซึ่งเป็นโรงงานเนสกาแฟเดิม ที่ปัจจุบันใช้เป็นโรงงานผลิตคริสปี้ ครีม และซินนาบอน ถือว่าใช้พื้นที่ในการผลิตเพียง 1% จากที่ดินทั้งหมดประมาณ 10 ไร่ รวมไปถึงการเพิ่มรถขนส่งอีก 8 คัน
“การมีแบรนด์ใหม่ทำให้เราลดต้นทุนการขนส่งและพนักงานทั้งหมด เพราะสามารถใช้ทีมงาน อุปกรณ์การขนส่ง และครัวกลางบนพื้นที่เดียวกัน” อย่างไรก็ตามคาดว่าในปีหน้าจะมียอดขายจาก 2 แบรนด์แฟรนไชส์ทั้งสิ้น 500 ล้านบาท แบ่งเป็นจากคริสปี้ ครีม 95% และจากชินนาบอน 5%
อ้างอิงจาก lokwannee.com